การที่ม๊อบ กปปส. สร้างวาทะกรรมหลอกลวงประชาชนว่า
ปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ืงนั้น
แท้จริงก็คือ
ขอพวกตรูข้ายึดอำนาจและจำกัดเสี้ยนหนาม
ให้สิ้นซากเบ็ดเสร็จก่อน ที่จะมอบอำนาจให้ประชาชน
(ซึ่งก็รอไปเรื่อยๆ ก่อนชาติหน้าแล้วกัน)
ฝ่ายรัฐบาลเมื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว
จึงได้ถามกลับไปยังประชาชน
โดยให้ประชาชนตัดสินใจว่า
เราจะเอา "เลือกตั้ง หรือ "เทือกตั้ง"
เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ยังคงต้องการที่จะรักษาสิทธิและเสียงอันแสดงถึง
ความเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน
ไม่ว่าผู้บริหารจะเป็นกลุ่มใหนก็ตาม ต้องเคารพใน 1 สิทธิ = 1 เสียงของประชาชน
และขึ้นมาโดยวิถีทางของระบบประชาธิปไตย
ไม่ใช่ ปล้นอำนาจมาจากรัฐและประชาชน
(เพราะคิดว่ามีอำนาจนอกระบบและองค์กรอิสระรวมหัวกันให้ท้ายอยู่ จึงผยอง
ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ละเ้มิดสิทธิผู้อื่น ตำรวจไม่กล้าทำอะไร ทหารวางเฉย
การประกาศ พรบ. ฉุกเฉินจึงเป็นแค่การเขียนเสือให้วัวกลัว แต่วัวตัวนี้มันดื้อด้าน
และรู้มาก จึงไม่กลัวแต่อย่างใด ซ้ำท้าทายมากกว่าเดิม
ยิ่งรัฐบาลถอย โจรมันยิ่งถ่อยและรุกหนักมากขึ้น...
ความเดือดร้อนจึงตกอยู่ที่ประชาชน ผู้ทำมาหากิน
ผู้ประสงค์ต้องการไปใช้สิทธิ
แต่ถูกริดรอนความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์ิสินและเสรีภาพ
โดยอันธพาลถือธงชาติ เป่านกหวี๊ดพวกนี้
พาพวกไปขัดขวางการเลือกตั้ง ข่มขู่
ไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
พร้อมกับการสนับสนุนของ บรรดาองค์กรอิสระต่างๆ
ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งโดยตรง
แต่กลับเพิกเฉยหรือไม่ทำตามหน้าที่
ได้แต่ดูดายให้มีการปิดหน่วย
เลือกตั้งไปเรื่อยๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตนทีทำงาน
สอดรับกลับกลุ่มอันธพาล และต้องการให้การเลือกตั้งล้มเหลว
จนมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือยกเลิกไปในที่สุด
แม้จะพอทราบดีว่า
รัฐบาลรักษาการไม่ได้มีอำนาจอย่างแท้จริง
แต่ในสถานการณ์ที่ประชาชนคนดีกำลังถูกรังแก
จากโจรที่ท้าทายและไม่เกรงกลัวกฎหมายเช่นนี้
รัฐบาลต้องแสดงความเข้มแข็งและเด็ดขาด
เพื่อปกป้องประชาชน เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจ
และพึ่งพาได้..
อย่ามัวแต่ขลาดกลัวและเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรเลย
หากรัฐบาลยังอ่อนแอเช่นนี้ ประชาชนจะพึ่งพิง
และพึ่งพาใครได้..นอกจากโบกธงขาวยอมแพ้
ให้ อันธพาลและโจรกบฎที่ทำอะไรไม่เป็น
นอกจากสร้างวาทะกรรมและเผาผลาญเงิน
งบประมาณไปวันๆ พาประเทศชาติและประชาชน
ถอยหลังและล่มสลายไปในที่สุด....
>>>"การปฏิรูป"เป็นเพียงข้ออ้างของอันธพาลที่คิดจะยึดอำนาจจากประชาชน >>>
ปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ืงนั้น
แท้จริงก็คือ
ขอพวกตรูข้ายึดอำนาจและจำกัดเสี้ยนหนาม
ให้สิ้นซากเบ็ดเสร็จก่อน ที่จะมอบอำนาจให้ประชาชน
(ซึ่งก็รอไปเรื่อยๆ ก่อนชาติหน้าแล้วกัน)
ฝ่ายรัฐบาลเมื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว
จึงได้ถามกลับไปยังประชาชน
โดยให้ประชาชนตัดสินใจว่า
เราจะเอา "เลือกตั้ง หรือ "เทือกตั้ง"
เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ยังคงต้องการที่จะรักษาสิทธิและเสียงอันแสดงถึง
ความเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน
ไม่ว่าผู้บริหารจะเป็นกลุ่มใหนก็ตาม ต้องเคารพใน 1 สิทธิ = 1 เสียงของประชาชน
และขึ้นมาโดยวิถีทางของระบบประชาธิปไตย
ไม่ใช่ ปล้นอำนาจมาจากรัฐและประชาชน
(เพราะคิดว่ามีอำนาจนอกระบบและองค์กรอิสระรวมหัวกันให้ท้ายอยู่ จึงผยอง
ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ละเ้มิดสิทธิผู้อื่น ตำรวจไม่กล้าทำอะไร ทหารวางเฉย
การประกาศ พรบ. ฉุกเฉินจึงเป็นแค่การเขียนเสือให้วัวกลัว แต่วัวตัวนี้มันดื้อด้าน
และรู้มาก จึงไม่กลัวแต่อย่างใด ซ้ำท้าทายมากกว่าเดิม
ยิ่งรัฐบาลถอย โจรมันยิ่งถ่อยและรุกหนักมากขึ้น...
ความเดือดร้อนจึงตกอยู่ที่ประชาชน ผู้ทำมาหากิน
ผู้ประสงค์ต้องการไปใช้สิทธิ
แต่ถูกริดรอนความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์ิสินและเสรีภาพ
โดยอันธพาลถือธงชาติ เป่านกหวี๊ดพวกนี้
พาพวกไปขัดขวางการเลือกตั้ง ข่มขู่
ไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
พร้อมกับการสนับสนุนของ บรรดาองค์กรอิสระต่างๆ
ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งโดยตรง
แต่กลับเพิกเฉยหรือไม่ทำตามหน้าที่
ได้แต่ดูดายให้มีการปิดหน่วย
เลือกตั้งไปเรื่อยๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตนทีทำงาน
สอดรับกลับกลุ่มอันธพาล และต้องการให้การเลือกตั้งล้มเหลว
จนมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือยกเลิกไปในที่สุด
แม้จะพอทราบดีว่า
รัฐบาลรักษาการไม่ได้มีอำนาจอย่างแท้จริง
แต่ในสถานการณ์ที่ประชาชนคนดีกำลังถูกรังแก
จากโจรที่ท้าทายและไม่เกรงกลัวกฎหมายเช่นนี้
รัฐบาลต้องแสดงความเข้มแข็งและเด็ดขาด
เพื่อปกป้องประชาชน เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจ
และพึ่งพาได้..
อย่ามัวแต่ขลาดกลัวและเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรเลย
หากรัฐบาลยังอ่อนแอเช่นนี้ ประชาชนจะพึ่งพิง
และพึ่งพาใครได้..นอกจากโบกธงขาวยอมแพ้
ให้ อันธพาลและโจรกบฎที่ทำอะไรไม่เป็น
นอกจากสร้างวาทะกรรมและเผาผลาญเงิน
งบประมาณไปวันๆ พาประเทศชาติและประชาชน
ถอยหลังและล่มสลายไปในที่สุด....