คุณเชื่อในคำทำนายทายทักของหมอดูหรือเปล่าค่ะ
วันนี้เรามีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ
ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2554 ปีน้ำท่วมค่ะ ช่วงนั้นเจ้าของกระทู้ได้อพยพไปอยู่ที่จังหวัดนึงที่น้ำไม่ท่วมค่ะ วันนึงขณะที่เดินเล่นดูข้าวของอยู่ ก็มีผู้ชายเรียก บอกว่าแม่หมอเรียก หมายถึงหมอดูค่ะ เราก็ตามไปแบบงง ๆ เป็นเต้นท์ดูดวงค่ะ แม่หมอดูไพ่ยิปซี ก็ทักเรา บอกว่าจะดูดวงให้ และคิดราคาถูก ราคานักศึกษา เราก็ไหน ๆ ก็ว่างและไม่เคยดูดวงแบบนี้มาก่อนก็เลยดูค่ะ
คำทำนายตามไพ่ก็ตรงนะคะ ตรงมาก ประมาณว่าได้เดินทาง มีเรื่องเสียเงิน ระวังสุขภาพญาติผู้ใหญ่ และอื่น ๆ หนีน้ำท่วมต้องเดินทางก็ตรง เสียเงินเยอะนี่ก็ตรง คุณย่าก็เพิ่งถูกหมากัด และอื่น ๆ ก็ตรงค่ะ พอดูเสร็จแม่หมอก็บอกว่าแถม ให้เปิดไพ่ 3 ใบ ถามอะไรก็ได้ เราลังเลค่ะว่าจะถามเรื่องความรักหรือเรื่องเรียนดี แต่ด้วยความที่อายก็เลยถามเรื่องเรียน จริง ๆ ก็อยากรู้เรื่องความรัก แต่ไม่ถามดีกว่า ก็เลยถามว่าจะได้เรียนจบถึงปริญญาเอกไหม เปิดไพ่แต่ละไพ่ออกมา เราดูไม่เป็นแต่รู้ว่าไพ่ไหนดีไม่ดี ได้แต่ไพ่ไม่ดี แม่หมอเลยบอกว่าเป็นไปได้แต่ต้องอดทนและพยายามมาก ๆ ตอนนี้เลยพยายามตั้งใจอยู่ค่ะ เราก็ไม่ได้เรียนเก่ง คิดว่าเอาแค่จบโทก่อนแล้วทำงาน เรื่องต่อเอกค่อยคิดทีหลัง พอดูดวงจบเราก็จะจ่ายเงินแล้วจะลุกออกไป
แต่แม่หมอทักค่ะ ว่าชอบรุ่นพี่อยู่หรือเปล่า เราก็คิดในใจ รู้ได้ไง หรือว่าเดา ก็เลยตอบ ค่ะ แม่หมอบอกประมาณว่าจะต้องพลัดพรากจากกัน ไม่เจอกัน มีอุปสรรค์มาก แล้วก็บอกว่าเราจะเจอกับอีกคนนึง
จากวันนั้นเราก็ว่าที่แม่หมอทักมาว่าต้องพลัดพรากจากกันมันจริงค่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้คิดกับพี่เขาแบบนั้นแล้ว คิดว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ เราเจอกันครั้งสุดท้ายคืองานรับปริญญา พี่เขาก็นัดเราจะพาไปเที่ยว ไปเลี้ยงขนมนะ หลายครั้ง แต่ไม่เคยได้เจอกันเลยสักครั้ง ต้องติดนู่นติดนี่ตลอด พี่เขาก็ทำงานด้วยเรียนโทด้วย คิดว่าค่อนข้างเหนื่อยและหนักอยู่ ไม่ค่อยมีเวลา เราก็ไม่ใช่แฟนเป็นน้องที่สนิทกันเฉย ๆ
เคยไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเดินสวนกับเขาห่าง ๆ แต่เราไม่เห็นค่ะ มองไปทางอื่นอยู่ เพื่อนบอกว่าเห็น แล้วทำไมเราไม่เห็นล่ะ ห่างกันแค่ไม่กี่เมตรเอง มีครั้งนึงที่นัดกันที่งานสัปดาห์หนังสือ เขาก็ทำงานก่อนแล้วค่อยมา เราก็ไปก่อนเวลา เดินเล่น ซื้อหนังสือ เอาหนังสือมานั่งอ่านรอตรงแถวประตูทางเข้า แล้วก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็หนึ่งทุ่ม เลยโทรหา พี่เขาบอกว่าออกมาจากงานสัปดาห์หนังสือแล้ว กำลังจะขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เพราะติดธุระด่วน เราก็วิ่งออกมาจากงานเลยค่ะ พอรู้ว่าเขาขึ้นรถไฟฟ้าไปแล้วแทบทรุด รอตั้งหลายชั่วโมง อยู่แค่ที่นั่งตรงทางเข้า ก็ใกล้ประตูทำไมไม่เห็นล่ะ ยังไงก็เดินผ่านอยู่แล้ว อยากจะร้องไห้แต่อายคนอื่นก็เลยไม่ร้อง คิดว่ากลับไปร้องที่บ้านดีกว่า (ตอนนั้นก็คิดไปได้) ก็โทษตัวเองว่าทำไมเผลอหลับ หลับไปได้ยังไง เขาก็โทรมาขอโทษนะ พอกลับบ้านไปก็ไม่ได้ร้องไห้ จะร้องให้ที่บ้านเห็นได้ยังไง เดี๋ยวที่บ้านเสียใจ ก็เลยทำอย่างอื่นให้ยุ่ง ๆ แทน คิดว่าถ้ามีครั้งต่อไปอย่าไปหวังเลย เจอก็เจอ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร
เมื่อเวลาผ่านไปเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาอย่างนั้นแล้ว เรามาเจอคนคนนึง คนนี้เราชอบและถูกชะตาตั้งแต่รู้จักกันครั้งแรกเลย เลยคิดถึงที่แม่หมอทักว่าจะเจออีกคน เสียดายน่าจะถามว่าใช่เนื้อคู่หรือเปล่า หรือแค่เจอ ถ้าถามเราว่าตอนนี้สมหวังกับคนนี้ไหม ไม่ค่ะ เขาชอบคนอื่นอยู่ เราก็ยังชอบเขาอยู่นะ ในเมื่อเขาแค่ชอบไม่ได้เป็นแฟน เราก็คงมีสิทธิ์ชอบได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอกันบ่อยค่ะ แต่ไม่ได้นัดยากเหมือนที่นัดกับพี่
กลับมาที่พี่ชาย เมื่อสัปดาห์ก่อนก็บอกว่าจะนัดเจอกัน พาไปเลี้ยงขนม เราก็นึกในใจ เอาอีกแล้วไง จะเจอเหรอ ในเมื่อนัดกี่ครั้งก็ไม่เคยได้เจอ เรานัดเจอวันนี้ค่ะที่สยาม สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวว่าพี่เขาต้องเอาเรื่องม็อปมาเป็นประเด็น ทำให้ไม่ได้เจอ แล้วก็จริง ๆ ด้วยค่ะ เราก็เลยหาข้อมูลว่าไปไหนดี หาจนดึก จนง่วง อุตส่าห์ได้สถานที่แล้ว ก็ส่งไลน์ไปบอกเขาค่ะ แต่ไม่อ่าน หลับไปแล้วแน่ ๆ ทำไงดีล่ะ เราก็ง่วงมาก ก็เลยหลับก่อนไว้ค่อยว่ากัน ตอนเช้าคงยังทัน ตอนสาย ๆ วันนี้ พี่เขาเพิ่งส่งไลน์กลับมาบอกว่า พี่ว่าเลื่อนก่อน แล้วก็ขอโทษ เราก็นึกในใจ ว่าแล้วเชียว ก็ตอบไปว่า ค่ะ ไม่เป็นไร
มานึก ๆ ดู ต้องพลัดพรากจากกัน ต้องไม่ได้เจอกัน(อีกแล้ว) เหมือนที่แม่หมอทักเลย ทั้งที่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแบบแต่ก่อน คิดว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ แต่ยังไงก็เป็นคนที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมาพี่เขาก็ดีกับเราในทุก ๆ เรื่อง ถ้าไม่นับเรื่องเบี้ยวนัดนะ ยังไงก็ยังอยากเจออยู่ดี ตอนนี้ไม่ได้เศร้าค่ะ แต่เสียดายมากกว่าที่ว่างพร้อมกันทั้งทีก็ไม่ได้เจอ แต่ถึงไม่เจอก็ช่างเถอะ เดี๋ยวนี้ติดต่อกันง่าย มือถือก็มี ไลน์ก็มี เฟสบุ๊คก็มี สักวันคงได้เจอกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
คุณเชื่อในคำทำนายทายทักของหมอดูหรือเปล่าคะ
วันนี้เรามีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ
ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2554 ปีน้ำท่วมค่ะ ช่วงนั้นเจ้าของกระทู้ได้อพยพไปอยู่ที่จังหวัดนึงที่น้ำไม่ท่วมค่ะ วันนึงขณะที่เดินเล่นดูข้าวของอยู่ ก็มีผู้ชายเรียก บอกว่าแม่หมอเรียก หมายถึงหมอดูค่ะ เราก็ตามไปแบบงง ๆ เป็นเต้นท์ดูดวงค่ะ แม่หมอดูไพ่ยิปซี ก็ทักเรา บอกว่าจะดูดวงให้ และคิดราคาถูก ราคานักศึกษา เราก็ไหน ๆ ก็ว่างและไม่เคยดูดวงแบบนี้มาก่อนก็เลยดูค่ะ
คำทำนายตามไพ่ก็ตรงนะคะ ตรงมาก ประมาณว่าได้เดินทาง มีเรื่องเสียเงิน ระวังสุขภาพญาติผู้ใหญ่ และอื่น ๆ หนีน้ำท่วมต้องเดินทางก็ตรง เสียเงินเยอะนี่ก็ตรง คุณย่าก็เพิ่งถูกหมากัด และอื่น ๆ ก็ตรงค่ะ พอดูเสร็จแม่หมอก็บอกว่าแถม ให้เปิดไพ่ 3 ใบ ถามอะไรก็ได้ เราลังเลค่ะว่าจะถามเรื่องความรักหรือเรื่องเรียนดี แต่ด้วยความที่อายก็เลยถามเรื่องเรียน จริง ๆ ก็อยากรู้เรื่องความรัก แต่ไม่ถามดีกว่า ก็เลยถามว่าจะได้เรียนจบถึงปริญญาเอกไหม เปิดไพ่แต่ละไพ่ออกมา เราดูไม่เป็นแต่รู้ว่าไพ่ไหนดีไม่ดี ได้แต่ไพ่ไม่ดี แม่หมอเลยบอกว่าเป็นไปได้แต่ต้องอดทนและพยายามมาก ๆ ตอนนี้เลยพยายามตั้งใจอยู่ค่ะ เราก็ไม่ได้เรียนเก่ง คิดว่าเอาแค่จบโทก่อนแล้วทำงาน เรื่องต่อเอกค่อยคิดทีหลัง พอดูดวงจบเราก็จะจ่ายเงินแล้วจะลุกออกไป
แต่แม่หมอทักค่ะ ว่าชอบรุ่นพี่อยู่หรือเปล่า เราก็คิดในใจ รู้ได้ไง หรือว่าเดา ก็เลยตอบ ค่ะ แม่หมอบอกประมาณว่าจะต้องพลัดพรากจากกัน ไม่เจอกัน มีอุปสรรค์มาก แล้วก็บอกว่าเราจะเจอกับอีกคนนึง
จากวันนั้นเราก็ว่าที่แม่หมอทักมาว่าต้องพลัดพรากจากกันมันจริงค่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้คิดกับพี่เขาแบบนั้นแล้ว คิดว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ เราเจอกันครั้งสุดท้ายคืองานรับปริญญา พี่เขาก็นัดเราจะพาไปเที่ยว ไปเลี้ยงขนมนะ หลายครั้ง แต่ไม่เคยได้เจอกันเลยสักครั้ง ต้องติดนู่นติดนี่ตลอด พี่เขาก็ทำงานด้วยเรียนโทด้วย คิดว่าค่อนข้างเหนื่อยและหนักอยู่ ไม่ค่อยมีเวลา เราก็ไม่ใช่แฟนเป็นน้องที่สนิทกันเฉย ๆ
เคยไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเดินสวนกับเขาห่าง ๆ แต่เราไม่เห็นค่ะ มองไปทางอื่นอยู่ เพื่อนบอกว่าเห็น แล้วทำไมเราไม่เห็นล่ะ ห่างกันแค่ไม่กี่เมตรเอง มีครั้งนึงที่นัดกันที่งานสัปดาห์หนังสือ เขาก็ทำงานก่อนแล้วค่อยมา เราก็ไปก่อนเวลา เดินเล่น ซื้อหนังสือ เอาหนังสือมานั่งอ่านรอตรงแถวประตูทางเข้า แล้วก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็หนึ่งทุ่ม เลยโทรหา พี่เขาบอกว่าออกมาจากงานสัปดาห์หนังสือแล้ว กำลังจะขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เพราะติดธุระด่วน เราก็วิ่งออกมาจากงานเลยค่ะ พอรู้ว่าเขาขึ้นรถไฟฟ้าไปแล้วแทบทรุด รอตั้งหลายชั่วโมง อยู่แค่ที่นั่งตรงทางเข้า ก็ใกล้ประตูทำไมไม่เห็นล่ะ ยังไงก็เดินผ่านอยู่แล้ว อยากจะร้องไห้แต่อายคนอื่นก็เลยไม่ร้อง คิดว่ากลับไปร้องที่บ้านดีกว่า (ตอนนั้นก็คิดไปได้) ก็โทษตัวเองว่าทำไมเผลอหลับ หลับไปได้ยังไง เขาก็โทรมาขอโทษนะ พอกลับบ้านไปก็ไม่ได้ร้องไห้ จะร้องให้ที่บ้านเห็นได้ยังไง เดี๋ยวที่บ้านเสียใจ ก็เลยทำอย่างอื่นให้ยุ่ง ๆ แทน คิดว่าถ้ามีครั้งต่อไปอย่าไปหวังเลย เจอก็เจอ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร
เมื่อเวลาผ่านไปเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาอย่างนั้นแล้ว เรามาเจอคนคนนึง คนนี้เราชอบและถูกชะตาตั้งแต่รู้จักกันครั้งแรกเลย เลยคิดถึงที่แม่หมอทักว่าจะเจออีกคน เสียดายน่าจะถามว่าใช่เนื้อคู่หรือเปล่า หรือแค่เจอ ถ้าถามเราว่าตอนนี้สมหวังกับคนนี้ไหม ไม่ค่ะ เขาชอบคนอื่นอยู่ เราก็ยังชอบเขาอยู่นะ ในเมื่อเขาแค่ชอบไม่ได้เป็นแฟน เราก็คงมีสิทธิ์ชอบได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอกันบ่อยค่ะ แต่ไม่ได้นัดยากเหมือนที่นัดกับพี่
กลับมาที่พี่ชาย เมื่อสัปดาห์ก่อนก็บอกว่าจะนัดเจอกัน พาไปเลี้ยงขนม เราก็นึกในใจ เอาอีกแล้วไง จะเจอเหรอ ในเมื่อนัดกี่ครั้งก็ไม่เคยได้เจอ เรานัดเจอวันนี้ค่ะที่สยาม สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวว่าพี่เขาต้องเอาเรื่องม็อปมาเป็นประเด็น ทำให้ไม่ได้เจอ แล้วก็จริง ๆ ด้วยค่ะ เราก็เลยหาข้อมูลว่าไปไหนดี หาจนดึก จนง่วง อุตส่าห์ได้สถานที่แล้ว ก็ส่งไลน์ไปบอกเขาค่ะ แต่ไม่อ่าน หลับไปแล้วแน่ ๆ ทำไงดีล่ะ เราก็ง่วงมาก ก็เลยหลับก่อนไว้ค่อยว่ากัน ตอนเช้าคงยังทัน ตอนสาย ๆ วันนี้ พี่เขาเพิ่งส่งไลน์กลับมาบอกว่า พี่ว่าเลื่อนก่อน แล้วก็ขอโทษ เราก็นึกในใจ ว่าแล้วเชียว ก็ตอบไปว่า ค่ะ ไม่เป็นไร
มานึก ๆ ดู ต้องพลัดพรากจากกัน ต้องไม่ได้เจอกัน(อีกแล้ว) เหมือนที่แม่หมอทักเลย ทั้งที่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแบบแต่ก่อน คิดว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ แต่ยังไงก็เป็นคนที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมาพี่เขาก็ดีกับเราในทุก ๆ เรื่อง ถ้าไม่นับเรื่องเบี้ยวนัดนะ ยังไงก็ยังอยากเจออยู่ดี ตอนนี้ไม่ได้เศร้าค่ะ แต่เสียดายมากกว่าที่ว่างพร้อมกันทั้งทีก็ไม่ได้เจอ แต่ถึงไม่เจอก็ช่างเถอะ เดี๋ยวนี้ติดต่อกันง่าย มือถือก็มี ไลน์ก็มี เฟสบุ๊คก็มี สักวันคงได้เจอกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ