วันนี้นั่งครึ้มครื้นอยู่หน้าบ้าน ก็นึกขึ้นได้ว่า จะตรุษจีนแล้ว
ตรุษจีน ที่เมืองจีน ก็เหมือนวันสงกรานต์เมืองไทย ผู้คนที่ทำงานอยู่ต่างเมืองหรือแม้แต่ต่างประเทศจะถึงเวลากลับบ้านเกิด
กลับไปรวมตัวกัน มันเป็นเวลาที่หลายๆคนรอคอย เพราะจะได้กลับบ้าน
ด้วยความที่ฉิงเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งมีเหตุต้องให้พลัดจากจากเมืองเกิดไปเรียนอยู่กรุงเทพนั้น
ฉิงเข้าใจอารมณ์ของการอยากกลับบ้านดีเลยทีเดียว การนั่งนับวันรอคอยกลับบ้าน มันช่างเป็นอะไรที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
หากปีไหนที่ไม่ได้กลับบ้าน ก็จะรู้สึกแย่มากๆ ยิ่งได้รู้ว่าทุกคนที่บ้านกลับไปรวมตัวกันทำอาหารอร่อยๆกินกัน แต่ฉิงไม่ได้กลับไป
รู้สึกน้ำตาไหล เพราะว่ามันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
แต่มีหลายคนไม่ได้คิดแบบฉิง เพื่อนฉิงบางคนบอกว่า ยังไม่อยากกลับ คนทุกคนล้วนมีเหตุผลของตนเอง
บางคนหลงแสงสีเสียง ในเมืองหลวง ลืมความสุขความสงบที่บ้านจนหมดสิ้น
บางคนมัวแต่ทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เพราะยิ่งวันหยุดยิ่งได้โอทีดี
พูดมาซะยืดยาวหลายคนยังไม่รู้เลยว่าประเด็นที่ฉิงจะพูด คืออะไร
วันนี้ฉิงมีเรื่องราวการกลับบ้านของของคนจีนในช่วงตรุษจีนมาเล่าให้ฟัง
ซึ่งรูปภาพที่ได้นำมา ฉิงนำมาจากรูปภาพตามเว็ปไซต์ต่างๆหลายเว็ปไซต์ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพทุกๆภาพมา ณ ที่นี้
คนจีนจะให้ความสำคัญกับการกลับบ้านและพักผ่อนในช่วงตรุษจีนมาก ร้านค้าต่างๆจะปิดตัวกันเพื่อไปฉลองและพักผ่อนกัน
ทำให้คนงานที่มาทำงานต่างเมืองจะได้มีโอกาสกลับบ้านกัน
ลองคิดถึงประชากรในประเทศจีนสิคะ ประเทศจีนมีประชากรในประเทศทั้งสิ้นประมาณ 1,368,000,000 คน
และ 60% ขึ้นไป เป็นคนจนค่ะ เพราะฉะนั้นการเดินทางของเขาจะต้องยากลำบากแน่นอน
แน่นอนไม่มีเงินก็ต้องลำบากแน่ๆ เพราะฉะนั้นทางที่ถูกที่สุดก็คือ รถไฟค่ะ ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องต่อรถแล้วต่อรถอีก
ที่นู่นไม่มีรถไฟฟรีเหมือนบ้านเรานะคะ และในช่วงวันหยุดเทศกลาลตรุษจีนนี้ ไม่สามารถโทรจองหรือซื้อออนไลน์ได้เหมือนบ้านเรา
ถึงแม้ทำได้ แต่นึกสภาพคนงานจนๆตาดำคนนึงสิคะ เค้าจะมีความรู้พอที่จะเล่นอินเตอร์เนตหรือหาข้อมูลที่จะจองตั๋วรถได้หรือ ?
ดังคำโบราณว่าไว้ค่ะ ‘มากคนมากความ’ เมื่อคนมากมายมาเบียดเสียดกันเพื่อแย่งชิงตั๋วรถกลับบ้านของพวกเขา เรื่องราวเหล่านี้จึงเกิดขึ้น
เพื่อนคนไหนที่ตั้งใจว่า สงกรานต์นี้ไม่อยากกลับบ้านหรือคิดว่าบ้านก็ยังตั้งอยู่ที่เดนไม่ได้หายไปไหน จะรีบกลับไปทำไม
ท่านลองดูคนเหล่านี้นะคะ และลองหาเหตุผลดูว่าทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงได้ทุ่มเทกลับการกลับบ้านขนาดนี้
มันเพราะอะไร ? ซักวันท่านอาจเข้าใจค่ะ
บ้านจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ จริงเหรอ ?
ตรุษจีน ที่เมืองจีน ก็เหมือนวันสงกรานต์เมืองไทย ผู้คนที่ทำงานอยู่ต่างเมืองหรือแม้แต่ต่างประเทศจะถึงเวลากลับบ้านเกิด
กลับไปรวมตัวกัน มันเป็นเวลาที่หลายๆคนรอคอย เพราะจะได้กลับบ้าน
ด้วยความที่ฉิงเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งมีเหตุต้องให้พลัดจากจากเมืองเกิดไปเรียนอยู่กรุงเทพนั้น
ฉิงเข้าใจอารมณ์ของการอยากกลับบ้านดีเลยทีเดียว การนั่งนับวันรอคอยกลับบ้าน มันช่างเป็นอะไรที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
หากปีไหนที่ไม่ได้กลับบ้าน ก็จะรู้สึกแย่มากๆ ยิ่งได้รู้ว่าทุกคนที่บ้านกลับไปรวมตัวกันทำอาหารอร่อยๆกินกัน แต่ฉิงไม่ได้กลับไป
รู้สึกน้ำตาไหล เพราะว่ามันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
แต่มีหลายคนไม่ได้คิดแบบฉิง เพื่อนฉิงบางคนบอกว่า ยังไม่อยากกลับ คนทุกคนล้วนมีเหตุผลของตนเอง
บางคนหลงแสงสีเสียง ในเมืองหลวง ลืมความสุขความสงบที่บ้านจนหมดสิ้น
บางคนมัวแต่ทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เพราะยิ่งวันหยุดยิ่งได้โอทีดี
พูดมาซะยืดยาวหลายคนยังไม่รู้เลยว่าประเด็นที่ฉิงจะพูด คืออะไร
วันนี้ฉิงมีเรื่องราวการกลับบ้านของของคนจีนในช่วงตรุษจีนมาเล่าให้ฟัง
ซึ่งรูปภาพที่ได้นำมา ฉิงนำมาจากรูปภาพตามเว็ปไซต์ต่างๆหลายเว็ปไซต์ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพทุกๆภาพมา ณ ที่นี้
คนจีนจะให้ความสำคัญกับการกลับบ้านและพักผ่อนในช่วงตรุษจีนมาก ร้านค้าต่างๆจะปิดตัวกันเพื่อไปฉลองและพักผ่อนกัน
ทำให้คนงานที่มาทำงานต่างเมืองจะได้มีโอกาสกลับบ้านกัน
ลองคิดถึงประชากรในประเทศจีนสิคะ ประเทศจีนมีประชากรในประเทศทั้งสิ้นประมาณ 1,368,000,000 คน
และ 60% ขึ้นไป เป็นคนจนค่ะ เพราะฉะนั้นการเดินทางของเขาจะต้องยากลำบากแน่นอน
แน่นอนไม่มีเงินก็ต้องลำบากแน่ๆ เพราะฉะนั้นทางที่ถูกที่สุดก็คือ รถไฟค่ะ ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องต่อรถแล้วต่อรถอีก
ที่นู่นไม่มีรถไฟฟรีเหมือนบ้านเรานะคะ และในช่วงวันหยุดเทศกลาลตรุษจีนนี้ ไม่สามารถโทรจองหรือซื้อออนไลน์ได้เหมือนบ้านเรา
ถึงแม้ทำได้ แต่นึกสภาพคนงานจนๆตาดำคนนึงสิคะ เค้าจะมีความรู้พอที่จะเล่นอินเตอร์เนตหรือหาข้อมูลที่จะจองตั๋วรถได้หรือ ?
ดังคำโบราณว่าไว้ค่ะ ‘มากคนมากความ’ เมื่อคนมากมายมาเบียดเสียดกันเพื่อแย่งชิงตั๋วรถกลับบ้านของพวกเขา เรื่องราวเหล่านี้จึงเกิดขึ้น
เพื่อนคนไหนที่ตั้งใจว่า สงกรานต์นี้ไม่อยากกลับบ้านหรือคิดว่าบ้านก็ยังตั้งอยู่ที่เดนไม่ได้หายไปไหน จะรีบกลับไปทำไม
ท่านลองดูคนเหล่านี้นะคะ และลองหาเหตุผลดูว่าทำไมพวกเขาเหล่านี้ถึงได้ทุ่มเทกลับการกลับบ้านขนาดนี้
มันเพราะอะไร ? ซักวันท่านอาจเข้าใจค่ะ