อ่านี่จะเล่าค่ะ เรื่องการไปตรวจโรค ก่อนการเกณฑ์ทหารค่ะ เพราะจุดนี้อีชั้นเคืองและยังงงและยังสับสนเบาๆ และคาดว่าสักพักเดี๋ยวได้เหวี่ยงไปสักที่สักทางค่ะ
เมื่อวานค่ะ หลังจากที่หยุดกีฬามหาลัยแสนนาน อิชั้นก็ไปตรวจโรคก่อนเกณฑ์ทหารที่ รพ. พระมงกุฎ ซึ่ง เค้ากำหนดให้ไป ตรวจ รพ. นี้หล่ะ นะคะ
พออิชั้นไป ก็ทำบ่งทำบัตร ไปตั้งแต่ ตี 5 ค่ะ ทำบัตรเสร็จ 6 ครึ่ง อิชั้นก็เอาแฟ้มไปยื่น อ่อ ลืมบอกไปว่าอิชั้นเป็นกระดูกสันหลังคด (ถ้าใครสังเกตจะเห้นว่าเอวชั้นเบี้ยว) ซึ่งมันอยู่ในกฏกระทรวง ข้อไหนสักอย่างไปหาอ่านกันเอาค่ะ มาตราที่ 47 ในระบุ บุคคลประเภทที่ 2 ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่ไม่ถึงกับ ทุพพพลภาพ อิชั้นก็รอค่ะ จน ถึง 8 โมง เหมือนตอนแรกจะให้ไปพบ จ่าสิบเอก อะไรสักอย่างแต่นางติดราชการ ก็เลยไม่ต้องพบ ให้รอพบหมอ ตอน "11 โมง"
ค่ะ อิชั้นที่แบกของอิรุงตุงนัง ทั้งกระเป๋า ทั้งฟิล์มเอ็กเรย์กระดูกสันหลัง แผ่นเบ้อเริ่มจาก รพ.จุฬา
ก็กระเตงไปกระเตงมา จนถึงเวลา เข้าห้องตรวจ หมอ ก็ ให้ไป เอกเรย์ใหม่ค่ะ นางคงกลัวว่า
เด้วเอาฟิล์มปลอมมาให้ อ่ะ อิชั้นก็ไป เอกเรย์ใหม่
พอเสร็จ อิชั้นก็ให้หมอเทียบของเดิม กับของใหม่ ของเดิม คด 14 องศา
ของใหม่ 20 องศาค่ะ เดาสิคะ progression นี้กี่ปีคะ? 3 ปี 4 ปี
ป่าวค่ะ ปีเดียว....
แล้วหมอก็อ้างว่าในกฏกระทรวงต้องเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน
ชั้นก็จิ้มกฏกระทรวงว่าหมอคะ เขาใช้คำว่า
" กระดูกสันหลังโก่ง หรือ คด หรือ แอ่น จนเห็นได้ชัด หรือแข็งทื่อ ชนิดถาวร"
เรามาดูโลจิคค่ะ เขาใช้คำ ว่า หรือ ดิชั้น คด จบค่ะ หมอไม่ต้องดูคำว่าเห็นได้ชัด
แต่หมอจะเอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ เห้นด้วยตาเปล่าเป้นปริมาณอะไรคะหมอ
เชิงคุณภาพใช่ไหม ตาหมอคนเดียวตัดสินไม่ได้หรอกค่ะ
ทีนี้หมอก็เรียกหมออีกคนมา แล้วก็ถามว่า เห็นหลังคดชัดไหม หมออีกคนก็บอกว่าเออ ชัดมากนะ
นั่นไง...แล้วหมอก็ยังไม่ยอมทำอะไร หมอบอกว่า คือถ้าจะให้เขียนให้ ก็ต้องลงว่าเป้นประเภท 4 เท่านั้น คือ เป้น ผู้ทุพพลภาพ...จำคำนี้ของหมอไว้นะคะ เดี๋ยวจะเป้นเรื่องที่ดิชั้นเดือดในตอนท้าย
อิชั้นก็อ่ะ แล้วหมอจะเอาไง ชั้นโอเค ได้นะ เพราะหมอพูดคำว่า มันจะคดเพิ่มอีก ไม่ปี ละ 1 ก็ 2 ถึงจุดนั้น ถ้าชั้นไม่เซฟร่างกายตัวเอง ชั้นก็จะเดินหลังเบี้ยวๆไปงี้ หมอก็เลยอ่ะ งั้นนัดมาอีกวัน หาหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ในวันพรุ่งนี้ละกัน ชั้นก็โอเคค่ะ
จบภาคที่ 1
มาวันนี้ค่ะ เจอหมออีกท่าน ชั้นก็เลยถามอย่างเมื่อวานที่หมอบอกว่าถ้าปลดคือ บุคคลประเภทที่ เป็นผู้พิการไปเลยแค่นั้นหรือคะ หมอก็ให้ดิชั้นไปคุยกับพยาบาลก่อน...อ้าว โอเคได้ค่ะ ดิชั้นก็คุย แล้วก็ถามว่าตกลงหมอมีอำนาจในการตรวจ และ ปลด เป้นประเภทที่ 4 อย่างเดียวรึคะ
พยาบาลรีบตอบเลยค่ะว่า ไม่ค่ะ ปลดเป้น 2 (ที่ชั้นพูดไปตอนต้น) หรือ 3 หรือ 4 ได้ ค่ะ อิชั้นก็ อ่อ เข้าใจละ (แล้วเมื่อวานคืออะไรหล่ะทีนี้) อิชั้นก็พอกระจ่างก็เดินเข้าห้องตรวจไป ชั้นว่าหมอต้องยุ่งอยู่แน่ๆ เพราะ แทบไม่ฟังดิชั้นพูดอะไรเลย ทั้งๆ ที่หมอก็เห็นฟิล์มเอกเรย์ว่ามันคดเยอะ และเห็นภายนอกที่ชัด หมอพูดแค่ว่า "หมอไม่มีอำนาจในเรื่องนี้" อ่าว...ว่าแล้วก็เขียนใบรับรองแพทย์แบบปกติที่เขียนว่า ตรวจพบกระดูกสันหลังคด ให้แค่นั้น (อธิบายเพิ่ม คือถ้าจะปลดทหารเลย ต้องได้รับลายเซ็นต์แพทย์ อีก 3 คน) คือหมอไม่ทำเรื่องให้นั่นเอง....
คราวนี้ เห็นข้อน่าสงสัยอะไรไหมคะ...
หมอคนที่หนึ่งบอกได้แค่ 4
พยาบาลบอก ทำได้ทุกประเภท
หมออีกคน บอกไม่มีอำนาจ (คือในเชิงว่า ผมทำเรื่องอะไรให้ไม่ได้)
อะไรคือการที่เรามีโรค แล้ว จะขอดำเนินการอย่างถูกวิธี แต่พบการดำเนินงานที่ทำให้ยุ่งยากและสับสน
และเราเสียสิทธิ์ในการใช้เวลาในการดูแลตัวเอง...นี่หมายความว่าอะไรคะ
ดิชั้นควรปรึกษาใครดีคะ เรื่องนี้? แพทยสภา หรือ สัสดี
แต่แน่นอนสิ่งที่ดิชั้นจะไม่ทำคือเสียเงิน 45,000 พร้อมใบสด. 43 ที่เขียน โรคโง่ๆที่ดิชั้นไม่ได้เป้น
ใครที่พอรู้เรื่องนี้โปรดตอบหรือแนะนำดิชั้นที
อ่อ...เลิกนะคะโลจิคแบบ ไม่เกณฑ์ทหาร ไม่รักชาติ
เป็นตุ๊ดหรอ อ้างเหตุผลไม่ไปเกณฑ์
ค่ะ คนรักชาติทุกคน ไม่ได้อยากเป็นทหาร
ทหารบางคนก็ไม่ได้รักชาติ ดังนั้นอย่าเหมารวม
อีกข้อ...ชั้นเป็น ตุ๊ด โอเคนะคะ
(อมร , 2557)
ไปตรวจโรคก่อนเกณฑ์ทหารมาค่ะ แต่ปรากฏว่า...
เมื่อวานค่ะ หลังจากที่หยุดกีฬามหาลัยแสนนาน อิชั้นก็ไปตรวจโรคก่อนเกณฑ์ทหารที่ รพ. พระมงกุฎ ซึ่ง เค้ากำหนดให้ไป ตรวจ รพ. นี้หล่ะ นะคะ
พออิชั้นไป ก็ทำบ่งทำบัตร ไปตั้งแต่ ตี 5 ค่ะ ทำบัตรเสร็จ 6 ครึ่ง อิชั้นก็เอาแฟ้มไปยื่น อ่อ ลืมบอกไปว่าอิชั้นเป็นกระดูกสันหลังคด (ถ้าใครสังเกตจะเห้นว่าเอวชั้นเบี้ยว) ซึ่งมันอยู่ในกฏกระทรวง ข้อไหนสักอย่างไปหาอ่านกันเอาค่ะ มาตราที่ 47 ในระบุ บุคคลประเภทที่ 2 ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่ไม่ถึงกับ ทุพพพลภาพ อิชั้นก็รอค่ะ จน ถึง 8 โมง เหมือนตอนแรกจะให้ไปพบ จ่าสิบเอก อะไรสักอย่างแต่นางติดราชการ ก็เลยไม่ต้องพบ ให้รอพบหมอ ตอน "11 โมง"
ค่ะ อิชั้นที่แบกของอิรุงตุงนัง ทั้งกระเป๋า ทั้งฟิล์มเอ็กเรย์กระดูกสันหลัง แผ่นเบ้อเริ่มจาก รพ.จุฬา
ก็กระเตงไปกระเตงมา จนถึงเวลา เข้าห้องตรวจ หมอ ก็ ให้ไป เอกเรย์ใหม่ค่ะ นางคงกลัวว่า
เด้วเอาฟิล์มปลอมมาให้ อ่ะ อิชั้นก็ไป เอกเรย์ใหม่
พอเสร็จ อิชั้นก็ให้หมอเทียบของเดิม กับของใหม่ ของเดิม คด 14 องศา
ของใหม่ 20 องศาค่ะ เดาสิคะ progression นี้กี่ปีคะ? 3 ปี 4 ปี
ป่าวค่ะ ปีเดียว....
แล้วหมอก็อ้างว่าในกฏกระทรวงต้องเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน
ชั้นก็จิ้มกฏกระทรวงว่าหมอคะ เขาใช้คำว่า
" กระดูกสันหลังโก่ง หรือ คด หรือ แอ่น จนเห็นได้ชัด หรือแข็งทื่อ ชนิดถาวร"
เรามาดูโลจิคค่ะ เขาใช้คำ ว่า หรือ ดิชั้น คด จบค่ะ หมอไม่ต้องดูคำว่าเห็นได้ชัด
แต่หมอจะเอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ เห้นด้วยตาเปล่าเป้นปริมาณอะไรคะหมอ
เชิงคุณภาพใช่ไหม ตาหมอคนเดียวตัดสินไม่ได้หรอกค่ะ
ทีนี้หมอก็เรียกหมออีกคนมา แล้วก็ถามว่า เห็นหลังคดชัดไหม หมออีกคนก็บอกว่าเออ ชัดมากนะ
นั่นไง...แล้วหมอก็ยังไม่ยอมทำอะไร หมอบอกว่า คือถ้าจะให้เขียนให้ ก็ต้องลงว่าเป้นประเภท 4 เท่านั้น คือ เป้น ผู้ทุพพลภาพ...จำคำนี้ของหมอไว้นะคะ เดี๋ยวจะเป้นเรื่องที่ดิชั้นเดือดในตอนท้าย
อิชั้นก็อ่ะ แล้วหมอจะเอาไง ชั้นโอเค ได้นะ เพราะหมอพูดคำว่า มันจะคดเพิ่มอีก ไม่ปี ละ 1 ก็ 2 ถึงจุดนั้น ถ้าชั้นไม่เซฟร่างกายตัวเอง ชั้นก็จะเดินหลังเบี้ยวๆไปงี้ หมอก็เลยอ่ะ งั้นนัดมาอีกวัน หาหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ในวันพรุ่งนี้ละกัน ชั้นก็โอเคค่ะ
จบภาคที่ 1
มาวันนี้ค่ะ เจอหมออีกท่าน ชั้นก็เลยถามอย่างเมื่อวานที่หมอบอกว่าถ้าปลดคือ บุคคลประเภทที่ เป็นผู้พิการไปเลยแค่นั้นหรือคะ หมอก็ให้ดิชั้นไปคุยกับพยาบาลก่อน...อ้าว โอเคได้ค่ะ ดิชั้นก็คุย แล้วก็ถามว่าตกลงหมอมีอำนาจในการตรวจ และ ปลด เป้นประเภทที่ 4 อย่างเดียวรึคะ
พยาบาลรีบตอบเลยค่ะว่า ไม่ค่ะ ปลดเป้น 2 (ที่ชั้นพูดไปตอนต้น) หรือ 3 หรือ 4 ได้ ค่ะ อิชั้นก็ อ่อ เข้าใจละ (แล้วเมื่อวานคืออะไรหล่ะทีนี้) อิชั้นก็พอกระจ่างก็เดินเข้าห้องตรวจไป ชั้นว่าหมอต้องยุ่งอยู่แน่ๆ เพราะ แทบไม่ฟังดิชั้นพูดอะไรเลย ทั้งๆ ที่หมอก็เห็นฟิล์มเอกเรย์ว่ามันคดเยอะ และเห็นภายนอกที่ชัด หมอพูดแค่ว่า "หมอไม่มีอำนาจในเรื่องนี้" อ่าว...ว่าแล้วก็เขียนใบรับรองแพทย์แบบปกติที่เขียนว่า ตรวจพบกระดูกสันหลังคด ให้แค่นั้น (อธิบายเพิ่ม คือถ้าจะปลดทหารเลย ต้องได้รับลายเซ็นต์แพทย์ อีก 3 คน) คือหมอไม่ทำเรื่องให้นั่นเอง....
คราวนี้ เห็นข้อน่าสงสัยอะไรไหมคะ...
หมอคนที่หนึ่งบอกได้แค่ 4
พยาบาลบอก ทำได้ทุกประเภท
หมออีกคน บอกไม่มีอำนาจ (คือในเชิงว่า ผมทำเรื่องอะไรให้ไม่ได้)
อะไรคือการที่เรามีโรค แล้ว จะขอดำเนินการอย่างถูกวิธี แต่พบการดำเนินงานที่ทำให้ยุ่งยากและสับสน
และเราเสียสิทธิ์ในการใช้เวลาในการดูแลตัวเอง...นี่หมายความว่าอะไรคะ
ดิชั้นควรปรึกษาใครดีคะ เรื่องนี้? แพทยสภา หรือ สัสดี
แต่แน่นอนสิ่งที่ดิชั้นจะไม่ทำคือเสียเงิน 45,000 พร้อมใบสด. 43 ที่เขียน โรคโง่ๆที่ดิชั้นไม่ได้เป้น
ใครที่พอรู้เรื่องนี้โปรดตอบหรือแนะนำดิชั้นที
อ่อ...เลิกนะคะโลจิคแบบ ไม่เกณฑ์ทหาร ไม่รักชาติ
เป็นตุ๊ดหรอ อ้างเหตุผลไม่ไปเกณฑ์
ค่ะ คนรักชาติทุกคน ไม่ได้อยากเป็นทหาร
ทหารบางคนก็ไม่ได้รักชาติ ดังนั้นอย่าเหมารวม
อีกข้อ...ชั้นเป็น ตุ๊ด โอเคนะคะ
(อมร , 2557)