"อภิสิทธิ์" จวก "ยิ่งลักษณ์" ดึงต่างชาติแทรกไทย ไม่ฟันธงกรณีรัฐบาลพลัดถิ่น ย้ำ "ทักษิณ" สั่งลุยเดินหน้า
ถอดรหัส "ปู" ชงออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จ่อกำลังกับ ปชช. ซ้ำ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์อีก ชมกองทัพปกป้องปชช. ลั่น
ไม่ต้องรอรัฐบาลสั่งก็ทำได้
วันที่ 21 ม.ค. 57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง บทบาทของ
รัฐบาลที่พยายามดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยว่า ในส่วนของพรรคก็พยายามทำ
ความเข้าใจ ชี้แจงข้อเท็จจริงกับต่างประเทศมากขึ้น และตนเพิ่งทราบว่าการสนทนาระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี กับ นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ รอบแรก ก่อนที่จะคุยกับตนและนายกฯ อีกรอบนั้น นายกฯ
บอกกับ เลขาฯ สหประชาชาติว่า ผู้ชุมนุมติดยาเสพติด มีอาวุธและลากองค์กรอิสระเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พยายาม
ให้ข้อมูลผิดและมีทีมงานล็อบบี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ช่วยทำงานเต็มที่ รวมถึงบทวิเคราะห์สื่อต่างชาติ
และนักการเมืองต่างประเทศ ล้วนแต่สอดคล้องกัน เป็นกระบวนการเชื่อมโยงได้ถึงบริษัทล็อบบี้
ทั้งนี้ ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทูตและตัวแทนระหว่างประเทศ เพื่อช่วยทำความเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย ถึงเหตุผล
ที่ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล ทำให้การนำเสนอข่าวสารในต่างชาติมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งเรื่องการทุจริต
คอร์รัปชัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะดึงนานาชาติมาไว้เป็นแนวร่วม เพราะอาจคาดการณ์ว่าอาจ
มีอะไรขึ้นต่อไป จึงเอานานาชาติมาเป็นเกราะกำบังไว้ก่อน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงที่มีต่อผู้ชุมนุม ยิ่งนายกฯบอกต่างประเทศว่า
ผู้ชุมนุมมีอาวุธ ยาเสพติด ก็ยิ่งจำเป็นต้องชี้แจงว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำกับผู้ชุมนุมไม่ใช่จากผู้ชุมนุม
ซึ่งจะได้ทำหนังสือยื่นไปถึงองค์กรนานาชาติที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า การดึงนานาชาติเข้ามาเพื่อปูทางเรื่องรัฐบาลพลัดถิ่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะถึงขั้นนั้น
หรือไม่ แต่รัฐบาลพยายามดิ้นรน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า ต้องเดินหน้าเรื่องเลือกตั้ง หรือรักษาการในตำแหน่ง
นายกฯ เด็ดขาด ซึ่งเป็นแนวทางการเผชิญหน้าเต็มที่ ส่วนกรณีรัฐบาลพลัดถิ่นยังตอบยาก เพราะรัฐบาลปักหลักยืนยัน
เดินหน้าเลือกตั้ง แต่มวลชนก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลง แต่หวังว่าจะไม่เกิดสงครามกลางเมือง เพราะแกนนำผู้ชุมนุม
ยืนยันว่า จะไม่ใช้ความรุนแรง ในขณะนี้ ฝ่ายผู้ชุมนุมถูกโจมตีอยู่เพียงข้างเดียว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนความพยายามของรัฐบาลที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น คิดว่ารัฐบาลคงกำลังพิจารณา
อยู่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็พูดชัดว่า สถานการณ์ไม่เหมือนปี 53 และความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก็เป็นการ
กระทำที่เกิดกับผู้ชุมนุมที่ตำรวจต้องเร่งจับกุมคลี่คลายคดี ศอ.รส. ต้องหามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน
และนายกฯ เขียนถึงเลขาฯ สหประชาชาติว่า จะไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะไม่คิดที่จะใช้กำลัง แต่หากมีการประกาศใช้
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็แสดงว่าต้องการใช้กำลังใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้น ก็ถือว่าพูดเท็จกับเลขาฯ สหประชาชาติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้ทหารมีบทบาทในการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนมากขึ้น เพราะมี
ศักยภาพและเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ที่จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้มากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะไม่สั่งการ กองทัพก็
สามารถดำเนินการได้เอง เหมือนกรณีที่รามคำแหง ที่ในขณะนั้นรัฐบาลวางเฉย ดังนั้น ในขณะนี้มีเหตุรุนแรงเกิดกับผู้
ชุมนุมแล้ว ก็ต้องป้องกันไม่ให้ลุกลามบานปลาย โดยผู้บังคับบัญชาสามารถตัดสินใจได้ รวมถึง ศอ.รส. ต้องแสดงท่าที
ให้ชัดเจนว่าจะดูแลความปลอดภัยอย่างไร ซึ่งตนคิดว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะต้องการข่มขู่ฝ่ายชุมนุมหรือประชาชน
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร เพราะกำลังจนแต้มทางการเมือง มองอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอบยาก เพราะถ้ารัฐประหารแล้ว ก็ไม่มีกติกา แต่ถ้ารัฐประหารแล้วยึดทรัพย์รัฐบาล ก็คงไม่เป็น
ประโยชน์กับรัฐบาล.
http://www.thairath.co.th/content/pol/397851
ปกป้องม็อบซะขนาดนี้ แต่ก็บอกมาไม่เกี่ยวข้องกัน .... คุยจังเรื่องทำหนังสือถึงองค์กรนานาชาติ
ทำเหมือนกับ เขาไม่รู้จักหาข่าว และคิดเอง เลยต้องไปชี้แจง ยิ่งแสดงออกมากเท่าไหร่ ก็เหมือน
ร้อนตัว ต้องร้อนรนในการแก้ตัว ไหม ไม่รู้สึกบ้างหรือ สื่อต่างประเทศเขาวิจารณ์ว่าไงบ้าง
มาร์ค อ้าง นายกฯใส่ร้ายม็อบ กับ เลขายูเอ็น ข่าวไทยรัฐออนไลน์
"อภิสิทธิ์" จวก "ยิ่งลักษณ์" ดึงต่างชาติแทรกไทย ไม่ฟันธงกรณีรัฐบาลพลัดถิ่น ย้ำ "ทักษิณ" สั่งลุยเดินหน้า
ถอดรหัส "ปู" ชงออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จ่อกำลังกับ ปชช. ซ้ำ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์อีก ชมกองทัพปกป้องปชช. ลั่น
ไม่ต้องรอรัฐบาลสั่งก็ทำได้
วันที่ 21 ม.ค. 57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง บทบาทของ
รัฐบาลที่พยายามดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยว่า ในส่วนของพรรคก็พยายามทำ
ความเข้าใจ ชี้แจงข้อเท็จจริงกับต่างประเทศมากขึ้น และตนเพิ่งทราบว่าการสนทนาระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี กับ นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ รอบแรก ก่อนที่จะคุยกับตนและนายกฯ อีกรอบนั้น นายกฯ
บอกกับ เลขาฯ สหประชาชาติว่า ผู้ชุมนุมติดยาเสพติด มีอาวุธและลากองค์กรอิสระเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พยายาม
ให้ข้อมูลผิดและมีทีมงานล็อบบี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ช่วยทำงานเต็มที่ รวมถึงบทวิเคราะห์สื่อต่างชาติ
และนักการเมืองต่างประเทศ ล้วนแต่สอดคล้องกัน เป็นกระบวนการเชื่อมโยงได้ถึงบริษัทล็อบบี้
ทั้งนี้ ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทูตและตัวแทนระหว่างประเทศ เพื่อช่วยทำความเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย ถึงเหตุผล
ที่ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล ทำให้การนำเสนอข่าวสารในต่างชาติมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งเรื่องการทุจริต
คอร์รัปชัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะดึงนานาชาติมาไว้เป็นแนวร่วม เพราะอาจคาดการณ์ว่าอาจ
มีอะไรขึ้นต่อไป จึงเอานานาชาติมาเป็นเกราะกำบังไว้ก่อน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงที่มีต่อผู้ชุมนุม ยิ่งนายกฯบอกต่างประเทศว่า
ผู้ชุมนุมมีอาวุธ ยาเสพติด ก็ยิ่งจำเป็นต้องชี้แจงว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำกับผู้ชุมนุมไม่ใช่จากผู้ชุมนุม
ซึ่งจะได้ทำหนังสือยื่นไปถึงองค์กรนานาชาติที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า การดึงนานาชาติเข้ามาเพื่อปูทางเรื่องรัฐบาลพลัดถิ่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะถึงขั้นนั้น
หรือไม่ แต่รัฐบาลพยายามดิ้นรน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า ต้องเดินหน้าเรื่องเลือกตั้ง หรือรักษาการในตำแหน่ง
นายกฯ เด็ดขาด ซึ่งเป็นแนวทางการเผชิญหน้าเต็มที่ ส่วนกรณีรัฐบาลพลัดถิ่นยังตอบยาก เพราะรัฐบาลปักหลักยืนยัน
เดินหน้าเลือกตั้ง แต่มวลชนก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลง แต่หวังว่าจะไม่เกิดสงครามกลางเมือง เพราะแกนนำผู้ชุมนุม
ยืนยันว่า จะไม่ใช้ความรุนแรง ในขณะนี้ ฝ่ายผู้ชุมนุมถูกโจมตีอยู่เพียงข้างเดียว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนความพยายามของรัฐบาลที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น คิดว่ารัฐบาลคงกำลังพิจารณา
อยู่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็พูดชัดว่า สถานการณ์ไม่เหมือนปี 53 และความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก็เป็นการ
กระทำที่เกิดกับผู้ชุมนุมที่ตำรวจต้องเร่งจับกุมคลี่คลายคดี ศอ.รส. ต้องหามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน
และนายกฯ เขียนถึงเลขาฯ สหประชาชาติว่า จะไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะไม่คิดที่จะใช้กำลัง แต่หากมีการประกาศใช้
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็แสดงว่าต้องการใช้กำลังใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้น ก็ถือว่าพูดเท็จกับเลขาฯ สหประชาชาติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้ทหารมีบทบาทในการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนมากขึ้น เพราะมี
ศักยภาพและเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ที่จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้มากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะไม่สั่งการ กองทัพก็
สามารถดำเนินการได้เอง เหมือนกรณีที่รามคำแหง ที่ในขณะนั้นรัฐบาลวางเฉย ดังนั้น ในขณะนี้มีเหตุรุนแรงเกิดกับผู้
ชุมนุมแล้ว ก็ต้องป้องกันไม่ให้ลุกลามบานปลาย โดยผู้บังคับบัญชาสามารถตัดสินใจได้ รวมถึง ศอ.รส. ต้องแสดงท่าที
ให้ชัดเจนว่าจะดูแลความปลอดภัยอย่างไร ซึ่งตนคิดว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะต้องการข่มขู่ฝ่ายชุมนุมหรือประชาชน
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร เพราะกำลังจนแต้มทางการเมือง มองอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอบยาก เพราะถ้ารัฐประหารแล้ว ก็ไม่มีกติกา แต่ถ้ารัฐประหารแล้วยึดทรัพย์รัฐบาล ก็คงไม่เป็น
ประโยชน์กับรัฐบาล.
http://www.thairath.co.th/content/pol/397851
ปกป้องม็อบซะขนาดนี้ แต่ก็บอกมาไม่เกี่ยวข้องกัน .... คุยจังเรื่องทำหนังสือถึงองค์กรนานาชาติ
ทำเหมือนกับ เขาไม่รู้จักหาข่าว และคิดเอง เลยต้องไปชี้แจง ยิ่งแสดงออกมากเท่าไหร่ ก็เหมือน
ร้อนตัว ต้องร้อนรนในการแก้ตัว ไหม ไม่รู้สึกบ้างหรือ สื่อต่างประเทศเขาวิจารณ์ว่าไงบ้าง