จากลูกชายคนจีน กำลังจะกลายเป็นมุสลิม

คือผมเป็นลูกชายคนที่ 2 ของครอบครัวคนจีนครับ มีพี่ชาย 1 คนแต่งงานแล้ว และมีน้องสาวอีก 2 คน ผมมีแฟนครับ แต่แฟนเป็นมุสลิม ซึ่งตั้งแต่ที่บ้านรู้ว่ามีแฟนเป็นมุสลิมก็ไม่ค่อยยินดีกันเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็ไม่สนใจก็คบกันมาเรื่อยๆ ท้อกันบ้าง แต่ก็ผ่านมาด้วยกัน 4 ปีแล้วครับ
ตอนนี้กำลังจะแต่งงานครับ แต่งโดยตัดสินใจกันเองครับ ซึ่งมันก็เกิดปัญหาขึ้นมากมายครับ หนักที่สุดก็เรื่องขลิบครับ คือทางบ้านผมไม่อนุญาตให้ขลิบ และบอกว่าถ้าจัดงานแบบมุสลิมจะไม่ไปร่วมงาน (และทางบ้านแฟนก็บอกว่าถ้าไม่จัดงานแบบมุสลิมก็ไม่ต้องแต่งเหมือนกันครับ)  ซึ่งผมก็ได้เจรจากับที่บ้านจนว่าจะจัดงานแต่งแบบมุสลิมโดยที่ ไม่ขลิบ และจัดเงียบๆ เฉพาะญาติทั้ง 2 ฝ่าย (ทางฝ่ายผมจะไม่เชิญแขก มีแต่ญาติ) และผมจะต้องจัดการงานเองทั้งหมด แต่ผมได้ตกลงลับๆกับทางแฟนและที่บ้านแฟนว่าขลิบแน่นอน ซึ่งแฟนผมก็รู้สึกเสียใจที่ที่บ้านผมต่อต้านเค้า และผมก็รู้สึกเสียใจที่ต้องโกหก แต่ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าถ้าไม่ทำอะไร ยอมต่อไปก็คงไม่ได้แต่งกัน อยากถามถึงคนที่มีประสบการณ์เปลี่ยนศาสนาว่าจะต้องปรับตัวกันยังไงกับครอบครัวอีกฝ่าย และ ผมจะต้องทำอะไรบ้าง มีปัญหาอะไรกันบ้างครับ ผมต้องเรียนรู้อะไรบ้างครับ อยากให้ช่วยแนะนำ ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ขอเล่าให้ฟังของที่บ้านคะ พี่ชายเราเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัวคนจีน (นอกนั้นลูกสาวหมด) แต่งงานกับผู้หญิงอิสลามคะ ตอนนั้นถ้าจะแต่ง บ้านพี่สะใภ้บอกต้องเปลี่ยนเท่านั้น ไม่งั้นแต่งไม่ได้ ตอนแรกป๊าก็บอกอยู่ว่าถ้าแต่งจะทำอะไรให้ป๊าไม่ได้เลยนะ (ตอนนั้นยังไม่เข้าใจเท่าไรว่าหมายถึงอะไร) แต่ที่บ้านก็เคารพการตัดสินใจของพี่ชาย และพี่ชายก็แต่งงานกับพี่สะใภ้และย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่สะใภ้แต่ตอนนี้ย้าครอบครัวออกมาไปอยู่บ้านของตัวเองกันแล้วคะ
ครอบครัวเราเป็นคนจีน (แน่นอนเป็นพุทธ) แต่โชคดีที่ทุกคนเคารพให้เกียรติการตัดสินใจกัน ตอนป๊าเสีย พี่ชายกับพี่สะใภ้ก็มาแต่ร่วมทำพิธีต่างๆไม่ได้เท่านั้นคะ(ตอนนั้นเข้าใจความหมายที่ป๊าพูดแล้ว) ที่บ้านเข้าใจคะว่าแต่ละศาสนาก็มีข้อกำหนดของตน การได้มาอยู่ข้างๆกันในงาน แม้ไม่ต้องจุดธูปหรือทำพิธีต่างๆอะไรให้ ...แค่นั้นเราว่าพี่ชายเราได้ทำหน้าที่ลูกชายได้ดีที่สุดแล้วคะ (พี่ชายเป็นลูกที่ดี ตอนป๊ามีชีวิตอยู่ก็ได้รับรู้แล้วคะ)
เวลาพี่สะใภ้กับพี่ชายมาที่บ้านก็จะทำอาหารซีฟู้ดให้ทานและทานร่วมกันได้ (รู้ว่าทานของไหว้ไม่ได้) หรือทานกันข้างนอกได้ไม่มีปัญหา หรือถ้าเอาง่ายสุดคือไปกินบ้านพี่ชายคะ พี่สะใภ้จะรู้ว่าที่บ้านไม่ทานเนื้อวัวก็จะทำเมนูอย่างอื่นให้ (อร่อยด้วย)
สิ่งสำคัญคือแต่งออกไปแล้ว ก็ต้องหมั่นมาเยี่ยมมาหาครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ให้ดูห่างเหินนะคะ (สิ่งนี้สำคัญมาก)
ส่วนพี่ชายก็ปฏิบัติตามหลักอิสลามเคร่งครัดดีคะ (ไปทำหัจญ์กับพี่สะใภ้มาแล้วด้วย) ชอบฟังเวลาพี่ชายเล่าให้ฟัง แต่เสียดายที่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร เรามาทำงานต่างจังหวัดนะคะ
เวลาหลานมาเที่ยวเล่นที่บ้าน ที่บ้านก็จะระมัดระวังเรื่องอาหารให้ แน่นอนว่าไม่ทำเมนูหมูให้ทานหรืออะไรที่ไม่มีฮาลาล
สรุปคือ อยู่กันได้มีความสุขดีคะ เหมือนเปิดโลกอีกใบด้วยซ้ำและได้เรียนรู้ในการปฏิบัตของพี่น้องมุสลิมด้วย (ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน)
ศาสนาไหนก็เหมือนกัน คือสอนให้เป็นคนดี เพียงแต่อยู่ในหลักคำสอนที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
ขอให้โชคดีและขอให้ครอบครัวเปิดใจ เข้าใจ และเคารพการตัดสินใจของคุณนะคะ
ความคิดเห็นที่ 5
ทำไมคุณเห็นแก่แฟนกับบ้านแฟน มากกว่าครอบครัวตัวเองอ่ะคะ อ่านดูแล้วรู้สึกว่าคุณแคร์แฟนและบ้านแฟนมากกว่า
เสียใจแทนครอบครัวคุณ
ความคิดเห็นที่ 18
อยากมีเมียจนโกหกพ่อแม่ ลูกเนรคุณ

แล้วบรรพบุรุษคุณล่ะ วันตรุษจีน เชงเม้ง คุณจะไม่ไปไหว้พวกเค้าแล้วใช่ไหม?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่