คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ขอตอบดังนี้ค่ะ
1.กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน ตามกฎหมายแล้ว โจทก์จะสามารถบังคับคดีกับใครก็ได้ในสี่คน โดยสามารถเลือกได้ เราไม่สามารถขอหารสี่แล้วแบ่งชำระเฉพราะส่วนของเราได้
2.ถ้าตัว จขกท.ไม่มีชื่อในทรัพย์สินใดๆเลย โจทก์จะไม่สามารถบังคับคดีจากคุนได้ แต่กรณีที่มีเงินเดือนส่วนนี้อาจโดนอายัดได้บางส่วนไม่โดนทั้งหมด
3.สิ่งที่ควรทำ
3.1 ติดตามรถคันดังกล่าวแล้วแจ้งให้ไฟแนนซ์มายึด
3.2 ติดต่อประนอมหนี้หลังพิพากษากับไฟแนนซ์ ว่าแบงค์จะให้จ่ายเท่าไร หากไม่สามารถชำระได้ คงต้องโดนบังคับคดีในส่วนของเงินเดือนไป
มีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ
1.กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน ตามกฎหมายแล้ว โจทก์จะสามารถบังคับคดีกับใครก็ได้ในสี่คน โดยสามารถเลือกได้ เราไม่สามารถขอหารสี่แล้วแบ่งชำระเฉพราะส่วนของเราได้
2.ถ้าตัว จขกท.ไม่มีชื่อในทรัพย์สินใดๆเลย โจทก์จะไม่สามารถบังคับคดีจากคุนได้ แต่กรณีที่มีเงินเดือนส่วนนี้อาจโดนอายัดได้บางส่วนไม่โดนทั้งหมด
3.สิ่งที่ควรทำ
3.1 ติดตามรถคันดังกล่าวแล้วแจ้งให้ไฟแนนซ์มายึด
3.2 ติดต่อประนอมหนี้หลังพิพากษากับไฟแนนซ์ ว่าแบงค์จะให้จ่ายเท่าไร หากไม่สามารถชำระได้ คงต้องโดนบังคับคดีในส่วนของเงินเดือนไป
มีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อผม 'ค้ำประกัน' รถให้เพื่อนรัก
รบกวนสมาชิกผู้มีประสบการณ์และความรู้ เกียวกับคดีความ ค้ำประกัน
มาแสดงความคิดเห็น กันหน่อยนะคะ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของพี่ที่บริษัทเราคะ
กระผมมีเรื่องเดือดร้อนเรื่องการค้ำประกันรถยนต์ให้เพื่อนครับ รบกวนสอบถามคนมีประสบการณ์หรือคนมีความรู้ทางกฎหมายหน่อยครับ
ผมได้ค้ำประกันรถให้เพื่อน ซึ่งมีคนค้ำ 3 คน คือ คนแรกพ่อของเค้า คนที่สองน้องสาวของเค้า และผมเป็นคนที่สาม โดยเพื่อนผมเป็นผู้กู้
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ เพื่อนผมนำรถไปขายให้กลุ่มคนที่รับซื้อไปส่งนอกประเทศ แน่นอนครับเค้าไม่ได้ส่งผ่อนชำระค่างวดเลย
และแน่นอนไปกว่านั้น ไม่มีใครสามารถติดต่อเค้าได้เลย
สถานการณ์มาถึงตอนที่มีเอกสารคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลมาถึงบ้านผม รายละเอียด ให้ผมและพวก ชำระเงินเป็นจำนวน 700,000 บาท
รวมค่าขาดประโยชน์ และค่าปรับต่างๆ ( เพื่อนผมไม่ได้ไปตามนัดที่ศาลเรียกเลยสักครั้ง ) ร่วมกับพวกที่เหลือรวม 4 คน ภายใน 30 วัน !
มิฉะนั้นจะนำเรื่องส่งกรมบังคับคดีและยึดทรัพย์สินกันต่อไป
ตอนนี้ผมเองไม่มีทรัพย์สินใดๆเป็นชื่อของตัวเอง (ครอบครัวของเพื่อนผม มีบ้านกับรถ) มีแค่เงินเดือนที่ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชน ซึ่งอาจจะโดนอายัดได้ ถ้าทุกคนยังนิ่งนอนใจกันอยู่ หลังจากที่ผมได้รับเอกสารคำพิพากษา ผมจึงได้เดินทางไปหาเพื่อนผมที่บ้าน แต่ก็ได้เจอเพียงแค่ พ่อและน้องสาวของเพื่อนผม (ผู้คำประกันร่วม) แน่นอนครับไม่เจอตัวเพื่อนผม (ผู้ซื้อ) พ่อและน้องสาวเพื่อนผม บอกว่า ไม่ได้เจอเพื่อนผมมาเป็นปีแล้ว (อันนี้น่าจะโกหกนะครับ เพราะเพื่อนผมเพิ่งออกจากบริษัทไปเมื่อปีก่อน) ผมได้ถามว่าจะรับผิดชอบกันยังไงดี เค้าทั้งสองคนปฏิเสธ ที่จะรับผิดชอบเพราะไม่มีเงินและไม่มีงานทำ (พ่อไม่ได้ทำงาน แต่น้องสาวทำงานบริษัท) ผมเชื่อว่าเพื่อนผมยังต้องติดต่อกับเค้าทั้งสองคน และผมเชื่อว่าบ้านหลังนี้ต้องเป็นชื่อของพวกเค้าไม่คนใดคนหนึ่งใน 3 คนนี้
อย่างนี้ผมจะทำยังไงดีครับ เพื่อไม่ให้เรื่องมาถึงผมหรือเสียค่ารับใช้ให้น้อยที่สุดครับ เพราะมีเวลาแค่ 30 วันก่อนเรื่องจะไปที่กรมบังคับคดี
ผมสามารถที่จะเข้าไปหาทนายของโจทก์ไฟแนนซ์ธนาคารได้ไหมครับ ?
ไปชี้แจงว่าเราไม่มีเงินขนาดนั้นจะรับผิดชอบ ขอแบ่งเป็นหาร 4 คน ตามสัดส่วนได้ไหม อย่างเช่น ตกคนละประมาณ 175,000 บาท
เพราะไม่ใช่คนร่ำรวยและไม่มีทรัพย์สิน มีแต่เงินเดือนบริษัทแล้วแต่ละเดือนก็มีรายจ่ายมากมาย
หรือขอเค้าช่วยคัดชื่อเราออกจากคดีนี้ได้ไหม ?
ถ้าเรายอมชดใช้ในส่วนของเรา ไม่รู้วิธีนี้ทางทนายของไฟแนนซ์ธนาคารจะยอมหรือเปล่าครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ผมอยากทราบคือ ผมสามารถตรวจสอบได้ยังไงบ้าง ว่าบ้านที่เพื่อนผมเพิ่งซื้อไปนั้น เป็นชื่อของใคร ?
สุดท้ายนี้ รบกวนคนที่มีประสบการณ์ หรือ มีความรู้ทางกฎหมายช่วยแนะนำผมหน่อยครับ รบกวนหน่อยครับ เพราะผมเดือดร้อนมากครับ
ขอบคุณครับ