แมตซ์นี้เป็นนัดสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเลยก็ว่าได้ครับ เพราะทีมแมนยูเราเพิ่งจะชนะนัดแรกหลังจากที่
ก่อนหน้านี้แพ้มาสามนัดรวดรวมทุกถ้วย ทำให้หลังจากแมตซ์ที่ชนะสวอนซี ในพรีเมียร์ลีคเมื่อคืนวันเสาร์ที่แล้ว
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทีมแมนยู จะต้องรักษาโมเมนตัมที่มีอยู่ไว้ให้ได้ พูดง่าย ๆ คือ ลุ้นไม่ให้แพ้ในนัดเยือน
เชลซีนี้ก็พอแล้วครับ
แต่บอกตามตรงว่าดูมุมไหน ก็มองไม่ออกเลยว่าทีมปีศาจแดงจะพลิกกลยุทธ์หรืองัดตำราสุดยอดเคล็ดลับวิชา
จากไหนมาสู้ ไม่ว่าจะยันเสมอ หรือพลิกชนะ เชลซีได้เลยครับ ลำพังสถิติในการเยือนสแตมฟอร์ดบริดจ์ ในช่วงหลัง ๆ
หลายปีมานี้ก็ยากเย็นเป็นทุนอยู่แล้วครับ ดังนั้นความเป็นไปได้มากที่สุดในการลุ้นผลการแข่งขันวันอาทิตย์นี้
ก็คือ ให้เสมอหรือมีแต้มออกมาได้บ้าง ก็น่าจะเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจและถ้าไปพร้อมฟอร์มการเล่นที่ดี
แล้วก็คงจะพอทำให้แฟนบอลประทับใจไม่น้อยล่ะครับ เพราะฤดูกาลนี้ขอแค่ได้เชียร์ทีมปีศาจแดงเล่นมันส์ ๆ
ใจสู้ ๆ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ ก็พอใจแล้วครับ เรียกได้ว่าช่วงนี้ก็ต้องมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียงกันไปล่ะครับ ^ ^
เมื่อมองด้านตัวผู้เล่น ฟอร์มการเล่นเทียบกันของทั้งสองทีม หรือจะมองที่ตัวผู้จัดการทีมแล้วเรียกได้ว่า
ช่วงนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด เชลซี กินขาดทุกอย่างครับ ทั้งมูรินโญ่ที่ดูจะมีทั้งความใจสู้ แถมกลับมาคราวนี้
ยังดูเหมือนจะพกความสุขุมรอบคอบในการสัมภาษณ์มากขึ้นทีเดียวครับ หรือนั่นเป็นเพราะ ขาดเฟอร์กี้
ที่เป็นคู่ปรับในการทำสงครามจิตวิทยาไปหรือเปล่าไม่รู้นะ ทำให้มูรินโญ่เดี๋ยวนี้ดูเป็น The Happy ONe
เต็มตัวจริง ๆ ครับ
การเจอกันระหว่าง The Happy One และ The Chosen One
มาไล่รายชื่อตัวผู้เล่น เชลซี เป็นอีกทีมหนึ่งที่ยอมรับเลยว่าเวลาเจอกันที่ผ่านมา ฟอร์มการเล่นโดยรวม
ของทีมแมนยูจะสู้เชลซีไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นยุค มูรินโญ่ 1 ยุคอันเช่ ยุคโบอาส คือเชลซีเป็นทีมที่มีการ
เล่นบอลสไตล์ยุโรปได้ดีกว่าแมนยูเยอะเลย ซึ่งนั่นอาจจะเรียกได้ว่า เป็นของแพ้ทางของแมนยูมานานแล้ว
โดยเฉพาะในสมัยป๋าเฟอร์กี้คุม การเล่นกับทีมบาร์ซ่า เบนฟิก้า หรือแม้แต่ทีมอย่างบาเซิ่ล ที่จะเป็นบอล
เล่นชิ่งตามช่องได้ดี ทำให้ทีมเราค่อนข้างจะแพ้ทางทีมลักษณะนี้ เพราะปกติการคอนโทรลเกมต่าง ๆ ของ
แมนยูจะเซตเกมจากกองกลางไม่ว่าจะเป็น สโคลส์ คาร์ริค ที่ต้องมีเวลาในการปั้นเกม และถ่ายบอลไปมา
ยังสนามส่วนต่าง ๆ ได้ แต่มาเจอลูกชิ่งสั้น เคาะตามช่องไว ๆ และการเพรสซิ่งบีบพื้นที่ดี ๆ ก็แย่มาให้เห็น
หลายนัดแล้ว และนัดนี้ที่จะเล่นกับเชลซี ก็คงจะเป็นอีกเกมที่ เล่นด้วยยากและลำบากมาก ๆ ถ้าหากโดนเชลซี
นำไปก่อนล่ะก้อคงต้องทำใจว่ายากที่จะยิงคืนเลยล่ะ เพราะหลัง ๆ เชลซีในยุคมู 2 นี้เริ่มปรับจังหวะการเล่น
รวมถึงแนวรับที่เล่นได้ดีมากขึ้นแล้วด้วยนั่นเอง โดยเฉพาะแกนหลักในแนวรุกมีทั้งอาซาร์ ออสการ์ วิลเลี่ยน
แถมด้วยมิดฟิลด์สุดขยันอย่าง รามิเรส หรือตัวรับอย่าง มิเกล นี่ยังไม่นับมาต้าอีกนะ เฮ้อ แค่เห็นรายชื่อ
ก็น่าอิจฉากับตัวเลือกนักเตะที่มีแล้วครับ
ทีนี้เรามามองผู้เล่นของแมนยูกันบ้างครับ ช่วงนี้ท็อปฟอร์มมากที่สุด นำมาเลยคงหนีไม่พ้น โก๋แดนนี่ ของเรา ๆ
กันล่ะครับ เรียกได้ว่าช่วงนี้มอบรอยยิ้มให้แฟน ๆ บ่อยจริง ๆ หลังจากแต่ก่อนเคยฝากมาแต่เสียงหัวเราะที่สร้าง
ความประทับใจกับแฟน ๆ เสมอมาแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมี ยานาไซ ซึ่งนัดนี้คงต้องวัดใจมอยส์กันหน่อยล่ะ
ว่าจะกล้าเสี่ยงส่ง ยานาไซ ลงในแมตซ์ยาก ๆ เขี้ยว ๆ แบบนี้ไหม ถ้าถามผมที่อยากดูเกมมันส์ ๆ เล่นสนุก ๆ ก็คง
อยากให้ยานาไซลงตัวจริงไปเลย แต่ทั้งนี้ยานาไซก็ยังเด็กครับ มอยส์เองก็เคยบอกเสมอ ๆ ว่ายังไม่อยากใช้งาน
ยานาไซเยอะ จะใช้อย่างทะนุถนอม (แต่เห็นส่งตัวจริงบ่อย ๆ มาก ๆ ^ ^ ) และถ้ามองในด้านแท็คติกด้วยแล้ว
ก็เป็นไปได้สูงที่เราอาจจะเห็นยานาไซเป็นเพียงตัวสำรองในเกมนี้ โดยช่วงแรกคิดว่าน่าจะให้วาเลนเซียกับยังยืนปีก
ซ้ายขวาไปก่อน ตัวรุกตรงกลางเป็นคากาวะ กองหน้าเป็นเวลเบ็ค แล้วให้ยานาไซเป็นสำรองไปครับ และอย่าลืมถั่วน้อย
นะครับที่เป็นทีเด็ดเสมอ ๆ เลยในการเจอเชลซีครับ
เวลเบ็คกับฟอร์มการเล่นที่ทำให้หลาย ๆ คนเบาใจไปได้มากในยามที่ทีมไร้ทั้งรูนีย์และเพอร์ซี่
มาดูที่แผงกลางของเรา การประสานงานระหว่างเฟลทเชอร์และคาร์ริคในแมตซ์ที่ผ่านมากับสวอนซี เรียกได้ว่ายัง
ประทับใจแฟน ๆ ปีศาจแดงกันไม่น้อยเลย เพราะทั้งคู่มีความเก๋า ความแน่นอน และการผ่านบอลที่แม่นยำพลาด
น้อยมาก ๆ ครับ แถมยังช่วยให้ทีมสามารถครองบอลได้ดีกว่าสวอนซีในช่วงครึ่งหลังอีกด้วยครับ ส่วนแผงหลังสี่คน
แบ็กซ้ายถาวรก็เอฟร่าคนเดิมล่ะครับ และก็มีคนเดียวที่เล่นแบ็กซ้ายได้ดีด้วย ส่วนแบ็กขวานี่ถ้าเดาใจมอยส์ผมว่า
น่าจะใช้สมอลลิ่งนะเพราะมอยส์เองคงอยากจะใช้ความได้เปรียบทางเกมรับของสมอลลิ่งที่มีดีตรงรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า
ราฟาเอลครับ และตำแหน่งเซ็นเตอร์คู่แน่นอนต้องเป็น อีแวนส์ และ วิดิช ครับ เห็นแบบนี้ก็คิดถึงโจนส์นะครับ ถ้ามี
โจนส์อยู่คงช่วยได้เยอะในเกมใหญ่ ๆ แบบนี้ครับ สุดท้ายตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นของ ดาบิด เดเกอา
ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ดูแมตซ์นี้ก็ต้องบอกได้อย่างเดียวว่า "เมื่อมีฝันก็ยังมีหวังครับ" แม้จะยากเย็นเพียงใด
ในฐานะแฟนบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเชียร์และสู้ไปด้วยกันกับทีมครับ
Believes in Manchester United
[Manchester United] เมื่อมีฝันก็ยังมีหวัง แฟน ๆ ลุ้นทัพปีศาจแดงบุกถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ [Preview Chelsea v Man U]
ก่อนหน้านี้แพ้มาสามนัดรวดรวมทุกถ้วย ทำให้หลังจากแมตซ์ที่ชนะสวอนซี ในพรีเมียร์ลีคเมื่อคืนวันเสาร์ที่แล้ว
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทีมแมนยู จะต้องรักษาโมเมนตัมที่มีอยู่ไว้ให้ได้ พูดง่าย ๆ คือ ลุ้นไม่ให้แพ้ในนัดเยือน
เชลซีนี้ก็พอแล้วครับ
แต่บอกตามตรงว่าดูมุมไหน ก็มองไม่ออกเลยว่าทีมปีศาจแดงจะพลิกกลยุทธ์หรืองัดตำราสุดยอดเคล็ดลับวิชา
จากไหนมาสู้ ไม่ว่าจะยันเสมอ หรือพลิกชนะ เชลซีได้เลยครับ ลำพังสถิติในการเยือนสแตมฟอร์ดบริดจ์ ในช่วงหลัง ๆ
หลายปีมานี้ก็ยากเย็นเป็นทุนอยู่แล้วครับ ดังนั้นความเป็นไปได้มากที่สุดในการลุ้นผลการแข่งขันวันอาทิตย์นี้
ก็คือ ให้เสมอหรือมีแต้มออกมาได้บ้าง ก็น่าจะเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจและถ้าไปพร้อมฟอร์มการเล่นที่ดี
แล้วก็คงจะพอทำให้แฟนบอลประทับใจไม่น้อยล่ะครับ เพราะฤดูกาลนี้ขอแค่ได้เชียร์ทีมปีศาจแดงเล่นมันส์ ๆ
ใจสู้ ๆ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ ก็พอใจแล้วครับ เรียกได้ว่าช่วงนี้ก็ต้องมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียงกันไปล่ะครับ ^ ^
เมื่อมองด้านตัวผู้เล่น ฟอร์มการเล่นเทียบกันของทั้งสองทีม หรือจะมองที่ตัวผู้จัดการทีมแล้วเรียกได้ว่า
ช่วงนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด เชลซี กินขาดทุกอย่างครับ ทั้งมูรินโญ่ที่ดูจะมีทั้งความใจสู้ แถมกลับมาคราวนี้
ยังดูเหมือนจะพกความสุขุมรอบคอบในการสัมภาษณ์มากขึ้นทีเดียวครับ หรือนั่นเป็นเพราะ ขาดเฟอร์กี้
ที่เป็นคู่ปรับในการทำสงครามจิตวิทยาไปหรือเปล่าไม่รู้นะ ทำให้มูรินโญ่เดี๋ยวนี้ดูเป็น The Happy ONe
เต็มตัวจริง ๆ ครับ
การเจอกันระหว่าง The Happy One และ The Chosen One
มาไล่รายชื่อตัวผู้เล่น เชลซี เป็นอีกทีมหนึ่งที่ยอมรับเลยว่าเวลาเจอกันที่ผ่านมา ฟอร์มการเล่นโดยรวม
ของทีมแมนยูจะสู้เชลซีไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นยุค มูรินโญ่ 1 ยุคอันเช่ ยุคโบอาส คือเชลซีเป็นทีมที่มีการ
เล่นบอลสไตล์ยุโรปได้ดีกว่าแมนยูเยอะเลย ซึ่งนั่นอาจจะเรียกได้ว่า เป็นของแพ้ทางของแมนยูมานานแล้ว
โดยเฉพาะในสมัยป๋าเฟอร์กี้คุม การเล่นกับทีมบาร์ซ่า เบนฟิก้า หรือแม้แต่ทีมอย่างบาเซิ่ล ที่จะเป็นบอล
เล่นชิ่งตามช่องได้ดี ทำให้ทีมเราค่อนข้างจะแพ้ทางทีมลักษณะนี้ เพราะปกติการคอนโทรลเกมต่าง ๆ ของ
แมนยูจะเซตเกมจากกองกลางไม่ว่าจะเป็น สโคลส์ คาร์ริค ที่ต้องมีเวลาในการปั้นเกม และถ่ายบอลไปมา
ยังสนามส่วนต่าง ๆ ได้ แต่มาเจอลูกชิ่งสั้น เคาะตามช่องไว ๆ และการเพรสซิ่งบีบพื้นที่ดี ๆ ก็แย่มาให้เห็น
หลายนัดแล้ว และนัดนี้ที่จะเล่นกับเชลซี ก็คงจะเป็นอีกเกมที่ เล่นด้วยยากและลำบากมาก ๆ ถ้าหากโดนเชลซี
นำไปก่อนล่ะก้อคงต้องทำใจว่ายากที่จะยิงคืนเลยล่ะ เพราะหลัง ๆ เชลซีในยุคมู 2 นี้เริ่มปรับจังหวะการเล่น
รวมถึงแนวรับที่เล่นได้ดีมากขึ้นแล้วด้วยนั่นเอง โดยเฉพาะแกนหลักในแนวรุกมีทั้งอาซาร์ ออสการ์ วิลเลี่ยน
แถมด้วยมิดฟิลด์สุดขยันอย่าง รามิเรส หรือตัวรับอย่าง มิเกล นี่ยังไม่นับมาต้าอีกนะ เฮ้อ แค่เห็นรายชื่อ
ก็น่าอิจฉากับตัวเลือกนักเตะที่มีแล้วครับ
ทีนี้เรามามองผู้เล่นของแมนยูกันบ้างครับ ช่วงนี้ท็อปฟอร์มมากที่สุด นำมาเลยคงหนีไม่พ้น โก๋แดนนี่ ของเรา ๆ
กันล่ะครับ เรียกได้ว่าช่วงนี้มอบรอยยิ้มให้แฟน ๆ บ่อยจริง ๆ หลังจากแต่ก่อนเคยฝากมาแต่เสียงหัวเราะที่สร้าง
ความประทับใจกับแฟน ๆ เสมอมาแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมี ยานาไซ ซึ่งนัดนี้คงต้องวัดใจมอยส์กันหน่อยล่ะ
ว่าจะกล้าเสี่ยงส่ง ยานาไซ ลงในแมตซ์ยาก ๆ เขี้ยว ๆ แบบนี้ไหม ถ้าถามผมที่อยากดูเกมมันส์ ๆ เล่นสนุก ๆ ก็คง
อยากให้ยานาไซลงตัวจริงไปเลย แต่ทั้งนี้ยานาไซก็ยังเด็กครับ มอยส์เองก็เคยบอกเสมอ ๆ ว่ายังไม่อยากใช้งาน
ยานาไซเยอะ จะใช้อย่างทะนุถนอม (แต่เห็นส่งตัวจริงบ่อย ๆ มาก ๆ ^ ^ ) และถ้ามองในด้านแท็คติกด้วยแล้ว
ก็เป็นไปได้สูงที่เราอาจจะเห็นยานาไซเป็นเพียงตัวสำรองในเกมนี้ โดยช่วงแรกคิดว่าน่าจะให้วาเลนเซียกับยังยืนปีก
ซ้ายขวาไปก่อน ตัวรุกตรงกลางเป็นคากาวะ กองหน้าเป็นเวลเบ็ค แล้วให้ยานาไซเป็นสำรองไปครับ และอย่าลืมถั่วน้อย
นะครับที่เป็นทีเด็ดเสมอ ๆ เลยในการเจอเชลซีครับ
เวลเบ็คกับฟอร์มการเล่นที่ทำให้หลาย ๆ คนเบาใจไปได้มากในยามที่ทีมไร้ทั้งรูนีย์และเพอร์ซี่
มาดูที่แผงกลางของเรา การประสานงานระหว่างเฟลทเชอร์และคาร์ริคในแมตซ์ที่ผ่านมากับสวอนซี เรียกได้ว่ายัง
ประทับใจแฟน ๆ ปีศาจแดงกันไม่น้อยเลย เพราะทั้งคู่มีความเก๋า ความแน่นอน และการผ่านบอลที่แม่นยำพลาด
น้อยมาก ๆ ครับ แถมยังช่วยให้ทีมสามารถครองบอลได้ดีกว่าสวอนซีในช่วงครึ่งหลังอีกด้วยครับ ส่วนแผงหลังสี่คน
แบ็กซ้ายถาวรก็เอฟร่าคนเดิมล่ะครับ และก็มีคนเดียวที่เล่นแบ็กซ้ายได้ดีด้วย ส่วนแบ็กขวานี่ถ้าเดาใจมอยส์ผมว่า
น่าจะใช้สมอลลิ่งนะเพราะมอยส์เองคงอยากจะใช้ความได้เปรียบทางเกมรับของสมอลลิ่งที่มีดีตรงรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า
ราฟาเอลครับ และตำแหน่งเซ็นเตอร์คู่แน่นอนต้องเป็น อีแวนส์ และ วิดิช ครับ เห็นแบบนี้ก็คิดถึงโจนส์นะครับ ถ้ามี
โจนส์อยู่คงช่วยได้เยอะในเกมใหญ่ ๆ แบบนี้ครับ สุดท้ายตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นของ ดาบิด เดเกอา
ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ดูแมตซ์นี้ก็ต้องบอกได้อย่างเดียวว่า "เมื่อมีฝันก็ยังมีหวังครับ" แม้จะยากเย็นเพียงใด
ในฐานะแฟนบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเชียร์และสู้ไปด้วยกันกับทีมครับ
Believes in Manchester United