คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ไม่ใช่ผู้รู้ครับ ผิดไหมไม่รู้ครับ แต่ผมว่าพระสงฆ์สาวกของพระศาสดา ก็ควรทำตามตัวอย่างที่ดี นั่นก็คือพระบรมศาสดานะครับ
คำถาม "ท่านเคยเห็นบทใดในพระตรัยปิฏกที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าท่านเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองไหม?"
ท่านเคยอ่านพระสุตตันตะปิฎก บทมัชฌิมศีล ที่อธิบาย ศีลของพระพุทธองค์ ไหม
อ้างอิงจากส่วนหนึ่งของ พระสุตตันตะปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 10
(๑๕) ๗. พระสมณโคดม เว้นขาดจากติรัจฉานกถา อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชณะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยัง
ประกอบด้วยดิรัจฉานกถาเห็นปานนี้อยู่เนืองๆ คือ เรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรื่องภัย เรื่องสงคราม เรื่อง
-ข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอกไม้ เรื่องเครื่องหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม เรื่องนคร เรื่องชนบท เรื่อง
-สตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้า เรื่องตรอก เรื่องท่าน้ำ เรื่องของคนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ต เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความเจริญ
และ ความเสื่อมด้วยประการนั้นๆ
พระสงฆ์ออกบวชเป็ฯพระสงฆ์เพราะต้องการละกิเลศสละทางโลก แต่เมื่อบวชแล้ว ก็กลับเอาตนไปยุ่งกับเรื่องอย่างโลกๆ !?
................................................................................................................................................
ผมเข้าใจนะ ว่าผ้าเหลืองไม่ใช่ผ้าวิเศษเสกคนโกนหัวเป็นพระอรหันต์ได้ฉับพลัน เดี๋ยวนี้บวชคนสักคน ก็ไม่ค่อยต่างจากเอาผ้าเหลืองไปห่มต้นไม้นัก
"ไม่รู้ว่าต้นไม้นั้นจะเจริญงอกงามขึ้น แห้งเหี่ยวลง โดนปลวกกิน หรือโดนคนตัดกลายเป็นตอ"
ผมว่าบวชเป็นพระในสังคมไทยควรติดให้รอบคอบนะว่าควรจะทำอะไร ผลที่ตามมาคืออะไร
"ยิ่งสมมุติว่าเราเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ" ด้วยแล้วล่ะก็
พระสงฆ์ควรตระหนักตนอยู่เสมอว่า ตนเองคือตนบุญ ควรวางตัวให้คนเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา
ยิ่งถ้าคิดว่าคนด่าพระแล้วบาปแน่ๆ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ก็ควรทำตัวดีๆ เพราะถ้าทำตัวไม่ดี คนมาด่าพระ คนที่ด่าพระก็บาป
(ก็ถ้าเชื่ออย่างนั้นนะ)
ผมว่าผู้ที่บวชเป็นพระนี่ควรเตือนตัวเองให้หนักๆเลยนะ ว่า ทำอะไรแล้วดี ทำอะไรแล้วไม่ดี ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ดีกับใคร ไม่ดีกับใคร สมควรไหม ไม่สมควรไหม สมควรอย่างไร ไม่สมควรอย่างไร สมควรกับใคร ไม่สมควรกับใคร เหมาะแก่กาลไหม ไม่เหมาะแก่กาลไหม เหมาะแก่กาลอย่างไร ไม่เหมาะแก่กาลอย่างไร
"เพราะคนไทยมักคิดว่า พระเป็นผู้วิเศษด้วยศีลและธรรม ทำอะไรย่อมเป็นสิ่งที่คิดด้วยปัญญาแห่งธรรมดีแล้ว ทั้งๆที่เมื่อวานก่อนบวชมันก็เป็นลูกไอ้มี หลานยายมาแท้ๆ"
สุดท้ายนี้ผมคงสรุปอะไรไม่ได้ เพราะ บาปไหม ควรไหม เพราะมันก็เป็นเพียงความคิดของผมคนเดียว ไม่พอจะสรุปได้ คงได้แต่ฝากไว้เท่านี้ให้พอพิจารณากันเองตามจริตของแต่ละท่าน
ฝากไว้พิจารณาครับ
ปล.ถ้อยคำใดที่ทำให้ใครผู้ใดขุ่นเคืองใจ ขออโสิกรรมไว้ล่วงหน้าครับ
ปล.๒ ตัวอย่างที่ยกมา ไม่ได้จะบอกว่าให้ทุกคนเป็นแบบพระพุทธเจ้า หรือเอาพระองค์มาลูบคลำเล่น แต่ลองคิดดูว่า เราเป็นศิษย์ ที่มีครูดีอยู่ตรงหน้า ทำไมไม่ยึดเป็นแบบละครับ หรือท่านคิดว่าครูที่อยู่ตรงหน้ายังไม่ดีพอ?
ปล.๓ ข้อความที่ผมเอามาอ้างอิงข้างต้น ผมพิมพ์จากแอป Tripikata ใน Playstore ไม่ได้เอามาจากอินเตอร์เน็ท จึงไม่ได้แนบลิงค์มา รบกวนผู้อยากอ่านต่อ หาเองนะครับ
คำถาม "ท่านเคยเห็นบทใดในพระตรัยปิฏกที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าท่านเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองไหม?"
ท่านเคยอ่านพระสุตตันตะปิฎก บทมัชฌิมศีล ที่อธิบาย ศีลของพระพุทธองค์ ไหม
อ้างอิงจากส่วนหนึ่งของ พระสุตตันตะปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 10
(๑๕) ๗. พระสมณโคดม เว้นขาดจากติรัจฉานกถา อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชณะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยัง
ประกอบด้วยดิรัจฉานกถาเห็นปานนี้อยู่เนืองๆ คือ เรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรื่องภัย เรื่องสงคราม เรื่อง
-ข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอกไม้ เรื่องเครื่องหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม เรื่องนคร เรื่องชนบท เรื่อง
-สตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้า เรื่องตรอก เรื่องท่าน้ำ เรื่องของคนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ต เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความเจริญ
และ ความเสื่อมด้วยประการนั้นๆ
พระสงฆ์ออกบวชเป็ฯพระสงฆ์เพราะต้องการละกิเลศสละทางโลก แต่เมื่อบวชแล้ว ก็กลับเอาตนไปยุ่งกับเรื่องอย่างโลกๆ !?
................................................................................................................................................
ผมเข้าใจนะ ว่าผ้าเหลืองไม่ใช่ผ้าวิเศษเสกคนโกนหัวเป็นพระอรหันต์ได้ฉับพลัน เดี๋ยวนี้บวชคนสักคน ก็ไม่ค่อยต่างจากเอาผ้าเหลืองไปห่มต้นไม้นัก
"ไม่รู้ว่าต้นไม้นั้นจะเจริญงอกงามขึ้น แห้งเหี่ยวลง โดนปลวกกิน หรือโดนคนตัดกลายเป็นตอ"
ผมว่าบวชเป็นพระในสังคมไทยควรติดให้รอบคอบนะว่าควรจะทำอะไร ผลที่ตามมาคืออะไร
"ยิ่งสมมุติว่าเราเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ" ด้วยแล้วล่ะก็
พระสงฆ์ควรตระหนักตนอยู่เสมอว่า ตนเองคือตนบุญ ควรวางตัวให้คนเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา
ยิ่งถ้าคิดว่าคนด่าพระแล้วบาปแน่ๆ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ก็ควรทำตัวดีๆ เพราะถ้าทำตัวไม่ดี คนมาด่าพระ คนที่ด่าพระก็บาป
(ก็ถ้าเชื่ออย่างนั้นนะ)
ผมว่าผู้ที่บวชเป็นพระนี่ควรเตือนตัวเองให้หนักๆเลยนะ ว่า ทำอะไรแล้วดี ทำอะไรแล้วไม่ดี ดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร ดีกับใคร ไม่ดีกับใคร สมควรไหม ไม่สมควรไหม สมควรอย่างไร ไม่สมควรอย่างไร สมควรกับใคร ไม่สมควรกับใคร เหมาะแก่กาลไหม ไม่เหมาะแก่กาลไหม เหมาะแก่กาลอย่างไร ไม่เหมาะแก่กาลอย่างไร
"เพราะคนไทยมักคิดว่า พระเป็นผู้วิเศษด้วยศีลและธรรม ทำอะไรย่อมเป็นสิ่งที่คิดด้วยปัญญาแห่งธรรมดีแล้ว ทั้งๆที่เมื่อวานก่อนบวชมันก็เป็นลูกไอ้มี หลานยายมาแท้ๆ"
สุดท้ายนี้ผมคงสรุปอะไรไม่ได้ เพราะ บาปไหม ควรไหม เพราะมันก็เป็นเพียงความคิดของผมคนเดียว ไม่พอจะสรุปได้ คงได้แต่ฝากไว้เท่านี้ให้พอพิจารณากันเองตามจริตของแต่ละท่าน
ฝากไว้พิจารณาครับ
ปล.ถ้อยคำใดที่ทำให้ใครผู้ใดขุ่นเคืองใจ ขออโสิกรรมไว้ล่วงหน้าครับ
ปล.๒ ตัวอย่างที่ยกมา ไม่ได้จะบอกว่าให้ทุกคนเป็นแบบพระพุทธเจ้า หรือเอาพระองค์มาลูบคลำเล่น แต่ลองคิดดูว่า เราเป็นศิษย์ ที่มีครูดีอยู่ตรงหน้า ทำไมไม่ยึดเป็นแบบละครับ หรือท่านคิดว่าครูที่อยู่ตรงหน้ายังไม่ดีพอ?
ปล.๓ ข้อความที่ผมเอามาอ้างอิงข้างต้น ผมพิมพ์จากแอป Tripikata ใน Playstore ไม่ได้เอามาจากอินเตอร์เน็ท จึงไม่ได้แนบลิงค์มา รบกวนผู้อยากอ่านต่อ หาเองนะครับ
แสดงความคิดเห็น
พระที่ออกไปร่วมชุมนุมทางการเมืองบาปไหม ? และ ได้ยินหลายคนบอกว่า พระเริ่มเล่นหุ้น(ตลาดหุ้น)มากขึ้น บาปไหมคะ ?
แต่เรื่องเล่นหุ้น ดูเหมือน เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่งเลย คิดดูแล้ว จะบาปไหมคะ ?
ถ้ามองในแง่ของยุคสมัย พระหลายทานต่างบอกว่าต้องใช้เงิน ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ มันจะเป็นข้ออนุโลมที่ชาวพุทธรับกันได้ไหมคะ
ส่วนตัวมองว่า น่าจะบาป แต่ก้อยากจะเข้ามาถามในห้องศาสนา ให้มันหายสงสัยค่ะ