ยิงกันดับในโรงหนังรัฐฟลอริดา เหตุรำคาญกดมือถือไม่เลิก

กระทู้ข่าว
กลายเป็นการวิวาทถึงขั้นยิงกันเสียชีวิตเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์ที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ที่ชายคนหนึ่งสังหารคู่กรณีด้วยปืน หลังรู้สึกรำคาญที่อีกฝ่ายมัวแต่กดโทรศัพท์ส่งข้อความในโรงหนัง และแม้จะได้รับการตักเตือน แต่ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม
       
       โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งใน เวสลีย์ ชาเปล รัฐฟลอริดา ระหว่างการฉายหนังสงครามเรื่อง Lone Survivor ที่มี มาร์ค วอห์ลเบิร์ก แสดงนำ เมื่อบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งผู้ชมภาพยนตร์สองคนได้เกิดปากเสียงกันขึ้น และบานปลายถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงกัน หลังฝ่ายหนึ่งสร้างความรำคาญให้กับคู่กรณีด้วยการกดโทรศัพท์ส่งข้อความ และทำเสียงดังน่ารำคาญ
       
       เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่ได้ให้ข้อมูลกับ CNN ว่าเหตุการณ์เริ่มต้นด้วยการมีปากเสียงกันระหว่างผู้เคราะห์ร้าย และผู้ชมภาพยนตร์ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ด้านหลัง โดยผู้ต้องสงสัยเป็นชายสูงวัยอายุ 71 ปี ชื่อ เคอร์ติส รีฟส์ ซึ่งตามข้อมูลระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวัยเกษียณ ที่ได้ใช้ปืนพกขนาด .380 ยิ่ง แชด เอาล์สัน วัย 43 ปี ที่กดส่งข้อความทางโทรศัพท์ถึงลูกสาววัย 3 ขวบของตัวเอง ต่อหน้าพยานที่เห็นเหตุการณ์ประมาณ 25 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้เป็นผู้ยึดปืน และกักตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ
       
       สำหรับ แชด เอาล์สัน ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บในโรงหนัง ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
       
       ข่าวระบุว่าคู่กรณีเริ่มมีปากเสียงกันตอนช่วงฉายหนังตัวอย่าง ก่อนหน้าเวลา 13.30 น. นิดหน่อย โดยโรงภาพยนตร์ Theatres Grove 16 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ไม่ได้มีนโยบายการตรวจอาวุธที่เข้มงวดนัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่าจากการสอบสวนแล้วค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่าต่างฝ่ายไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด โดยปัจจุบันโรงภาพยนตร์ได้ตัดสินใจปิดบริการลงชั่วคราว
       
       ชาร์ลส์ คัมมิงส์ ที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมกับลูกชาย ซึ่งเสื้อผ้าของทั้งคู่เปรอะไปด้วยเลือดของผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า รีฟส์ ที่นั่งอยู่แถวหลังเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่มีคนกดโทรศัพท์ระหว่างอยู่ในโรงภาพยนตร์ จึงลุกเดินออกไปแจ้งเรื่องให้กับผู้จัดการโรงหนังทราบ หลังเขาออกปากเตือนด้วยตัวเองไปหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจ และเพียงไม่กี่นาทีหลังเขากลับมานั่งก็เกิดการวิวาทะระหว่างทั้งสองขึ้น
       
       โดยฝ่ายของ เอาล์สัน ที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้ลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดขึ้นเสียงกัน และใช้ป๊อปคอร์นขว้างใส่กัน จนฝ่าย รีฟส์ ได้ควักอาวุธปืนออกมา ส่วน นิโคล เอาล์สัน ภรรยาของ เอาล์สัน ก็พยายามใช้มือของเธอปิดป้องร่างกายของสามี แต่สุดท้ายฝ่าย รีฟส์ ก็ยังยิงปืนมาอยู่ดี โดยกระสุนทะลุมือของผู้เป็นภรรยาและทะลุร่างของ เอาล์สัน บริเวณส่วนหน้าอกจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
       
       “ผมแทบไม่เชื่อเลยว่ามีคนเอาปืนเข้ามาในโรงหนังแบบนี้ด้วย ไม่เชื่อเลยว่าแค่เถียงกันจะหยิบปืนขึ้นมายิงกัน แค่เรื่องโทรศัพท์แค่นี้” คัมมิงส์ กล่าว “เลือดเริ่มทะลักออกมาจากปากของเขา เป็นภาพที่เลวร้ายมาก”
       
       อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แสดงความเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องปัญหาการวิวาทส่วนตัวของคู่กรณี 2 คน คงจะไม่สามารถนำไปเทียบเคียงกับเหตุการณ์กราดยิงที่เคยเกิดขึ้นในโรงหนังที่โคโลราโด ระหว่างการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight Rises จนมีผู้เสียชีวิตถึง 14 คนได้ ถึงกระนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้ประสิทธิภาพของมาตรการรักษาความปลอดภัย และการตรวจอาวุธของโรงหนังได้ถูกตั้งคำถามอีกครั้ง

http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000004857
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่