[[สปอยแหลกลาน]] Detective Conan ประมวลเนื้อเรื่องจนถึงตอนปัจจุบัน

ดูจะเป็นประเด็นฮอตฮิตกันเหลือเกินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
เกิดความหวังขึ้นในใจของหลายๆคนว่า เรื่องนี้กำลังจะไหลสู่เข้าสู่บทสรุปและจะได้ฤกษ์ซื้อเก็บให้หมดๆซะที
แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ อยากให้มาลองดูกันนะครับว่าที่ผ่านๆมา โกโชปูพรมทิ้งระเบิดปมปัญหาอะไรเอาไว้กันบ้าง
หลังจากอ่านจบ ทุกท่านอาจจะประมาณการได้ว่าเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงขั้นไหนแล้ว?

โดยที่ผมจะสรุปคร่าวๆให้ฟัง จะเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อจากรวมเล่มปัจจุบันของไทย (เล่ม 74)
ถึงตอนปัจจุบันของญี่ปุ่น ณ เวลาที่กระทู้นี้ถูกพิมพ์ขึ้นมา (ตอนที่ 88x : ถ้าตีเป็นรวมเล่มก็จะอยู่ที่เล่ม 83)
ซึ่งจะขอย่อตัดตอนเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักที่พัวพันกับองค์กรชุดดำ
โดยผมจะขอดึงเนื้อหาบางส่วนจากที่ผมเคยพิมพ์เอาไว้เองในกระทู้เมื่อนานมาแล้ว น่าจะซักประมาณเกือบๆปีที่ผ่านมา
มาใช้ในการประกอบเนื้อหา พร้อมกับดัดแปลงให้อ่านง่ายและเข้าใจได้มากขึ้น(มั้ง)





**จากเล่ม 74 เราจะได้รู้จักกับสาวสุดห้าว เซระ มาสึมิ กันไปแล้ว ดังนั้นผมจึงจะขอไม่แนะนำตัวละครนี้ซ้ำนะครับ**

เนื้อเรื่องก็จะเอ้อระเหยลอยชายไม่มีแก่นสารอะไร จนกระทั่งมาถึงการปรากฏตัวของนักสืบหนุ่มผิวเข้มนามว่า "โทโอรุ อมุโระ"
ที่บังเอิญต้องมาพัวพันในคดีจนได้รู้จักโคโกโร่ และได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ในเวลาต่อมา



ทีนี้สามตัวละครลึกลับ ประกอบด้วย สึบารุ เซระ และอมุโระ (ต่อไปนี้จะขอเรียกรวบรวมกันว่า "แก๊งกันดั้ม")
ก็จะผลัดกันทำตัวมีพิรุธน่าสงสัยไปมา เพื่อปูทางให้เราเข้าสู่คดีต่อไปซึ่งเกี่ยวพันอย่างใหญ่หลวงกับเนื้อเรื่องหลักของเรา
สรุปคดีนี้ย่อๆก็คือว่า โคนันจะโดนคนร้ายจับไปเป็นตัวประกัน ทีนี้ชาวแก๊งสามคนที่รู้ข่าวก็มุ่งตรงไปช่วยในที่เดียวกันโดยมิได้นัดหมาย
ซึ่งทั้งสามคนก็ไม่ได้เจอกันเองตรงๆ แต่มีแอบชำเลืองกันบ้างเล็กน้อย เหมือนทั้งสามคนพยายามหลบซ่อนไม่ให้เป็นที่สังเกตกันอยู่

ทีนี้ เรื่องมันดันมาพลิกตรงที่ว่า ในตอนที่ช่วยโคนันสำเร็จเมื่อจบคดี ตัวแม่แห่งองค์กรอย่างเบลม็อธซึ่งยืนดูอยู่ห่างๆจากจุดเกิดเหตุ
ได้โทรฯเข้ามาหาพร้อมประกาศชื่อคู่สนทนาอีกฝ่ายว่าเบอร์บอนอย่างเต็มปากเต็มคำ แต่อนิจจัง แก๊งกันดั้มทั้งสามคนดันยกโทรศัพท์
ขึ้นมาแนบหูพร้อมกันซะเสียนี่ ดังนั้น เกมตามล่าหาตัวสายลับปริศนาผู้ที่ปรากฎชื่อก่อนใบหน้ามานานนับสิบเล่มจึงจำต้องดำเนินต่อไป
(ตรงนี้มีความเห็นจากแฟนนักอ่านต่างประเทศว่าคนที่เหลือที่ใช้โทรศัพท์อาจจะเป็นการดักฟังเบอร์บอนดูอีกชั้นนึงแทน)



หลังจากมีการเผยไต๋ออกมาโดยเบลม็อธว่าหนึ่งในชาวแก๊งนี่แหล่ะที่คือเบอร์บอน ทั้งสามก็ยิ่งทำตัวมีพิรุธขึ้นไปมากกว่าเดิมเสียอีก
โดยจะเผยปูมหลังของอมุโระออกมาเล็กน้อย ว่ารู้จักกับนายตำรวจมือดีรุ่นพี่ของหมวดทาคางิที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่อว่า "วาตารุ ดาเตะ"
ซึ่งหมวดทาคางิยกย่องให้เป็นไอดอลโดยบอกว่าเป็นคนเก่งมากๆ แต่เจ้าตัวดันบอกว่าเป็นที่สองมาตลอด โดยเป็นรองเพื่อนร่วมรุ่นคนนึง
ทั้งในเรื่องของมันสมองและพละกำลัง ซึ่งปรากฏออกมาภายหลังว่าหมายเลขหนึ่งคนนั้นคืออมุโระนั่นเอง



เรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงตอนที่โคนันต้องออกโรงโชว์ไขคดีที่เหมือนกันเด๊ะกับที่ยูซากุพ่อของตนเคยไขไว้เมื่อสิบปีก่อน
เนื่องด้วยเป็นคดีเก่าจึงจำเป็นต้องมาหาแฟ้มคดีที่บ้านของชินอิจิ เซระที่ขอติดตามมาด้วยจึงได้มีโอกาสเจอจังๆกับสึบารุเสียที
แถมยังเที่ยวค้นบ้านทุกซอกทุกมุมจนพบหลักฐานว่าเคยมีผู้หญิงมาที่บ้านของชินอิจิเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งอนุมานเอาได้ว่ามาพบกับสึบารุนั่นเอง
และเมื่อถึงเวลาที่จะคลี่คลายคดี ทุกคนก็ลงความเห็นว่าควรโทรขอคำปรึกษาจากชินอิจิ โคนันจึงจำเป็นไปรับโทรศัพท์เป็นชินอิจิ
โดยหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของสึบารุหมดแล้ว



และแล้วคดีที่จะปูทางไปสู่ไคลแมกซ์ก็มาถึง เมื่อหนูน้อยไฮบาระและผองเพื่อน(ที่ไม่มีโคนัน)ต้องผจญกับคดีร้ายแรง
จนจำเป็นต้องกินยาแก้พิษ APTX เพื่อช่วยให้ทุกคนรอด แต่แก๊งเด็กเจ้ากรรมดันอยากทดแทนบุญคุญก็เลยถ่ายวิดีโอไฮบาระตอนโต
เพื่อส่งต่อให้ยอดนักสืบโมริโคโกโร่ช่วยตามหาผู้หญิงคนนี้(ไฮบาระในร่างเชอรี่)ให้หน่อย

แต่ยังไม่ทันไร เซระซึ่งตามมาในเหตุการณ์นั้นพอดีก็ได้ขอดูคลิปที่ว่านั่น แถมกลางดึกคืนนั้น อมุโระก็ได้ย่องเข้ามาในสำนักงานนักสืบ
เพื่อทำการเจาะเข้าระบบเพื่อดูคลิปที่ว่านั้นด้วย ซึ่งในขณะนั้นเอง อมุโระเองก็ได้สังเกตเห็นว่ามีคนแฮ็คระบบเข้ามาดูคลิปนี้ด้วยเหมือนกัน
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก สึบารุที่กำลังดูคลิปผ่านทางโน๊ตบุ๊คในบ้านของชินอิจิ ซึ่งชาวแก๊งทั้งสามได้เห็นจุดร่วมเดียวกันก็คือ
เชอรี่ได้สวมแหวนบัตรผ่านขึ้นรถด่วนปริศนาเบลทรี ซึ่งจะเป็นคดีที่เป็นสังเวียนฉากใหญ่รวมตัวละครให้เราได้ยลกันนั่นเอง



และเมื่อเบอร์บอนได้รายงานให้องค์กรทราบว่าเชอรี่จะไปขึ้นรถด่วนเบลทรีด้วย
(โดยขบวนนี้เป็นการวิ่งทดสอบก่อนที่จะลุงจิโรคิจิของโซโนโกะจะเอาอัญมณีมีค่ามาจัดแสดงเพื่อล่อจอมโจรคิดนั่นเอง)
เบลม็อธและเบอร์บอนจึงได้รับภารกิจให้ตามขึ้นรถไปด้วย ซึ่งในขบวนนั้นนอกจากจะมีพวกเด็กๆแล้ว
ก็ยังมีเซระ(อยู่กับโซโนโกะและรัน) / อมุโระ / สึบารุ โดยอยู่ในห้องเดียวกับหญิงลึกลับสวมหมวกดำ

ในระหว่างที่ออกเดินทางนั้น ไฮบาระก็ได้สังเกตเห็นอากาอิแผลเป็นในขบวนรถ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอ
ภายในชื่อของเบลม็อธ ไฮบาระซึ่งรู้สึกเข้าตาจนจึงพยายามหนีอย่างสุดชีวิตภายในขบวนรถด่วน ในขณะที่วิ่งวนอยู่นั้น ก็ได้พบกับสึบารุ
สึบารุได้พูดอะไรบางอย่างกับไฮบาระคล้ายๆกับเป็นนัยว่าเหมือนพี่สาวของเธอเลย จากนั้นไฮบาระก็วิ่งจากไป
เพื่อไปกินยาถอนพิษ APTX โดยตั้งใจเพื่อที่จะได้ตายในร่างของเชอรี่ ไม่ใช่ไฮบาระ ทุกคนที่เกี่ยวกับข้องไฮบาระจะได้ไม่เป็นอันตราย

ทางด้านอากาอิแผลเป็น หลังจากที่เดินไปเดินมาในขบวนรถอยู่สักพักก็เจอเข้ากับเซระ เซระตกใจมากจนหลุดปากออกมาว่า
"พี่ชู ทำไมถึงยังไม่ตาย" จากนั้นก็โดนอากาอิแผลเป็นใช้สตั๊นกันช็อตจนสลบไป จากนั้นอากาอิแผลเป็นก็มุ่งตรงไปยังห้องห้องนึง
โดยโยนกระเป๋าสัมภาระออก หญิงลึกลับสวมหมวกคนที่อยู่ในห้องพักเดียวกับสึบารุก็ประกาศตัวออกมา เผยโฉมหน้าตัวเองว่าคือยูกิโกะ
พร้อมกับทักทายอากาอิแผลเป็นว่า "ชารอน" จากนั้นอากาอิก็กระชากหน้ากากตัวเองออกกลายเป็นเบลม็อท



ทางด้านของโคนัน ดันเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นมาบนรถด่วน จึงจำเป็นต้องใช้โคโกโร่นิทราคลี่คลาย โดยระหว่างการคลี่คลายนี้ก็มีอมุโระ
คอยอยู่ข้างๆเฝ้าดูการคลี่คลายอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งปิดคดี

จากนั้นตัดกลับไปที่การสนทนาระหว่างยูกิโกะ-เบลม็อธ โดยเบลม็อธถามว่าจะหยุดพวกเรา(พวกชุดดำ)ได้จริงๆน่ะหรือ?
ยูกิโกะก็เลยตอบกลับไปว่าทีมของเรายังมีตัวละครลับอยู่นา จากนั้นเบลม็อธก็เริ่มแผนการสร้างความปั่นป่วนด้วยการกดระเบิดควัน
ที่ติดไว้ทั่วขบวนรถ ทำให้ผู้โดยสารคนอื่นคิดว่าเกิดไฟไหม้และพากันหนี อมุโระเห็นดังนั้นเลยบอกให้ทุกคนอพยพไปอยู่โบกี้หน้าๆซะ

แต่ในกลุ่มควันนั้นเอง เชอร์รี่ที่ได้กินยาแก้พิษ APTX แล้วก็ได้โผล่ออกมา ตามด้วยการปรากฎตัวของบุคคลที่ทุกคนต่างรอคอย!!!
ซึ่งโฉมหน้านั้นก็คืออมุโระที่กล่าวทักทายเชอร์รี่พร้อมกับแนะนำตัวว่าตัวเองคือเบอร์บอนนั่นเอง



เบลม็อทที่ยังคาอยู่ในห้องกับยูกิโกะ พอได้ยินเสียงโหวกเหวก ก็เอ่ยว่าเบอร์บอนคงเริ่มแผนแล้วสินะ ทันใดนั้นเองก็มีสายเข้าจากโคนัน
มายังมือถือของยูกิโกะ เบลม็อทฉวยเอาไป เอามืออุดปากยูกิโกะไว้ แล้วก็ปลอมเสียงเป็นยูกิโกะอย่างหน้าตาเฉย
โคนันถามอย่างตื่นตระหนกว่าไฮบาระหายตัวไป ได้มาหายูกิโกะหรือเปล่า เบลม็อทก็ดัดเสียงตอบไปว่าไม่ได้มา หลังจากวางสาย
เบลม็อทก็เปิดเมล์ที่เบอร์บอนส่งมาแล้วพูดกับยูกิโกะว่า เบอร์บอนเจอตัวไฮบาระแล้ว ดูท่าเกมนี้พวกเรา(องค์กรชุดดำ)คงจะชนะ

อมุโระบอกเชอร์รี่ว่าเขาคือเบอร์บอน และเฉลยว่าตนนี่แหล่ะเป็นคนที่ปลอมตัวเป็นอากาอิแผลเป็นแล้วผลุบๆโผล่ตามเมืองเบกะ
เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของคนใกล้ตัวอากาอิ แต่ในขบวนรถด่วนนี้ เบลม็อทนั้นได้รับหน้าที่ปลอมตัวแทนเขา แล้วก็ต้อนเชอร์รี่ไปที่โบกี้หลังๆ
โดยบอกว่าจะตัดโบกี้นี้ออกจากขบวนเพื่อพาตัวเชอร์รี่กลับองค์กร แต่เชอร์รี่บอกว่าในโบกี้มีแต่ระเบิด อมุโระเลยรู้ว่าเบลม็อทตั้งใจที่จะฆ่า
แทนที่จะพาตัวเชอร์รี่กลับองค์กร

ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฎร่างของอากาอิสวมหมวกโดยที่ตอนแรกอมุโระคิดว่าเป็นเบลม็อท
(แต่อมุโระมองไม่เห็นหน้าว่าเป็นอากาอิ เห็นแค่เป็นเงาลางๆ) แต่จู่ๆอากาอิก็ได้โยนระเบิดมือเข้ามา
ทำให้โบกี้ที่เชอร์รี่อยู่ขาดออกจากขบวน โดยที่อมุโระยังไม่ทันตั้งตัว อมุโระคิดว่ายังไงระเบิดขนาดนั้น เชอร์รี่ก็คงไม่รอดแน่
ก็เลยส่งเมล์บอกเบลม็อทว่าจบแล้ว

หลังจากรถไฟจอดเทียบท่า เบลม็อทก็ได้โทรรายงานยีนโดยบอกว่าเชอร์รี่โดนระเบิดตายไปแล้ว
แต่จู่ๆพอเห็นดร.อากาสะเดินแบกไฮบาระลงจากรถ เบลม็อทก็ตกใจมากและคิดได้ว่าคงจะเสียรู้โคนันซะแล้ว
แล้วก็สงสัยว่าแล้วถ้างั้นคนที่โดนระเบิดไปต่อหน้าต่อตาอมุโระนั้นคือใครกัน? แล้วก็หันไปเห็นโคนันคุยโทรศัพท์พอดี

ตัดไปที่คนที่กำลังคุยโทรศัพท์กับโคนันนั้นก็คือ เชอร์รี่ที่กำลังสวมเครื่องร่อนอยู่กลางอากาศ พร้อมกับตัดพ้อต่อว่าโคนันว่า
ทำไมไม่เห็นบอกเลยว่าจะเสี่ยงตายขนาดนี้ แล้วก็ทวงคำขอบคุณจากโคนัน พร้อมกับกระฉากหน้ากากออกมาเป็นจอมโจรไคโตะ คิด
ซึ่งปลอมตัวมาเป็นผู้โดยสารบนขบวนนี้เพื่อมาเซอร์เวย์สถานที่ก่อนจะมาซิวอัญมณีที่จะจัดแสดงในอนาคตแต่ดันโดนโคนันจับไต๋ได้
เลยถูกตกกระไดพลอยโจนมาให้ปลอมตัวเป็นเชอร์รี่เพื่อหลอกเบลม็อทกับอมุโระโดยปริยาย



ตัดกลับมาที่สถานีรถไฟ อมุโระเดินเข้ามาหาเบลม็อทแล้วบอกว่าจะขอรื้อไฟล์การตายของอากาอิดูอีกรอบ
สึบารุที่คอยแอบดูอยู่ห่างๆจากมุมนึงก็ได้ขยับแว่นและเผยให้เห็นดวงตาว่าเหมือนกับตาของอากาอิและเซระไม่มีผิด



เวลาผ่านไปสักพัก พวกโคโกโร่พร้อมโคนัน โซโนโกะ และรันได้ไปออกทริปตีเทนนิส เมื่อไปถึงสนาม โคนันก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง
เพราะคนที่กำลังตีเทนนิสในสนามนั้นคือ อมุโระ นั่นเอง จากนั้นพวกโคนันและอมุโระก็ดันไปพัวพันคดีด้วยกันโดยบังเอิญ
และด้วยทักษะความรู้เหนือชั้นเกินเด็กทั่วไปของเด็กแว่น ทำให้อมุโระเกิดความตงิดใจ หลังจากคดีคลี่คลายแล้ว
อมุโระก็ได้สนทนาผ่านโทรศัพท์กับเบลม็อท เบลม็อทถามว่าเชอร์รี่ก็ตายไปแล้ว ทำไมยังอยู่แถวนั้นอยู่อีกล่ะ? อมุโระก็ตอบไปว่า
พอดีว่าสนใจในตัวโคโกโร่นิทรานิดหน่อยน่ะ (แต่รูปความคิดของอมุโระดันออกมาเป็นรูปโคนัน)



คั่นด้วยคดีกิ๊กก๊อกอีกแสนนาน จนมาถึงคดีนึงที่แก๊งนักสืบเยาวชนวิ่งตามแมว แล้วดันไปติดบนรถส่งของที่เป็นฆาตกร
โคนันใช้ใบเสร็จส่งของที่อยู่ในรถผูกกับปลอกคอแมวแล้วแอบปล่อยแมวลงจากรถให้วิ่งกลับไปร้านปัวโรต์
โดยไฮบาระก็ท้วงว่าที่นั่นมีอมุโระอยู่ไม่ใช่หรอ? โคนันก็บอกว่านั่นแหละคือจุดประสงค์ที่ต้องการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่