ในหน้าหนาวของทุกปีผู้คนมักหลั่งไหลไปภาคเหนือเพื่อสัมผัสอากาศหนาวซึ่งก็เหมาะกับการท่องเที่ยวเพราะไม่ร้อนหรือเหนื่อยจนเหงื่อไหลไคลย้อยมากนัก  ทั้งนี้ก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ของแต่ละคนจะแสวงหาแหล่งเที่ยว และก็เป็นอีกทริปหนึ่งต้องเวียนมาถึงอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอีกครั้ง  ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมานอนกางเต็นท์ดูน้ำพุร้อนพุ่งสูงกว่า 30 เมตรตลอดเวลาทุก ๆ 30 นาที ณ.ที่ทำการ ครานี้จะลองขึ้นยอดดอยแต่น่าเสียดายเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เจ้าวีออสขึ้นไป เลยต้องอาศัยแจมร่วมนักท่องเที่ยวคนอื่นขึ้นรถโฟร์วีลไปแทน  ซึ่งน้อยคนนักของประชากรในประเทศนี้ที่จะได้มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสกับยอดดอยที่สูงเป็นอันดับสองของเมืองไทยด้วยระดับ 2,285 MSL. แต่มีจุดกางเต็นท์ที่ถือว่าอยู่สูงที่สุดในประเทศ ซึ่งก็ไม่ง่ายเหมือนดอยอินทนนท์แม้จะเป็นดอยที่สูงสุดของไทยแต่สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปถึงได้แต่ที่นี่หากอยากไปให้ถึงแล้วต้องเดินขึ้นเขาไต่ระดับไปจากจุดพักกางเต็นท์กว่าจะถึงระดับยอดดอยก็ 3,500 เมตรเลยทีเดียว รวมขาลงด้วยก็ปาเข้าไปกว่าเจ็ดกิโลเมตร ถ้าใจไม่สู่หรือสภาพร่างกายไม่ไหวก็ขอให้อยู่ที่ม่อนวัดใจที่ระยะ 500 เมตรจากจุดกางเต็นท์จะได้กลับใจลงมาทันไม่เป็นภาระทั้งตัวเองหรือคนอื่นเขา อะไรเล่าถึงมีคนยอมเหนื่อยยากเดินขึ้นยอดเขาซึ่งก็แล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคน แต่ส่วนตัวแล้วขอสักครั้งอยากจะขึ้นไปจิบน้ำชาท้าลมหนาวบนยอดอยคอยดูตะวันทอแสงสีทองส่องขอบฟ้ายามเช้าท่ามกลางทะเลหมอกรายล้อมยอดดอยของขุนเขาอันสุดลูกหูลูกตา ณ. หน้าผาบนยอดดอยผ้าห่มปก...ลองมาพิสูจน์ครับ
"วีออสลุยเดี่ยวเที่ยวอุทยานแห่งชาติ...ดอยผ้าห่มปก"....ครั้งก่อน
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12182941/E12182941.html