คนร้ายลักทรัพย์ ทำไมสุดท้ายสิ้นสุดคดีกลายเป็นคดีรับของโจร ????

           เมื่อปีที่แล้ว ผมไปต่างจังหวัดหลายวัน พอกลับมาปรากฏว่าที่ร้านถูกขโมยเข้าไปขโมยทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
ที่ร้านเองไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ร้านข้างๆมี พอไปตรวจสอบอยู่หลายวันก็พบผู้ต้องสงสัย "แต่ไม่เห็นหน้าชัด เห็นรถที่คนร้ายใช้ แต่ไม่เห็นป้ายทะเบียน" แต่ทางผม (เจ้าหน้าที่ไม่ต้องพูดถึง..T__T) ก็ติดตามกันจนสุดท้ายก็รู้ว่าคนร้ายคือ ลูกค้าของที่ร้านเอง
และตอนนั้นเองคนร้ายก็ถูกจับ "ด้วยคดียาเสพติด ในท้องที่ติดกัน (เจ้าหน้าที่ท้องที่นั้นขอชมครับ ทำงานดีมากๆ)"
และพ่วงคดีผมไปด้วย คนร้ายรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          ช่วงนั้นทางผมก็ติดตามทรัพย์คืนมาได้จำนวนหนึ่ง (ติดตามกันเอง) ได้กลับมาไม่ถึงครึ่งเลย  หลังจากนั้นทางอัยการได้ทำการยื่นฟ้องไป และเมื่อผมสอบถามอัยการไปอีกครั้งพบว่า "คดีสิ้นสุดแล้ว และคนร้ายรับผิด คดีรับของโจร แต่ไม่รับผิดคดีลักทรัพย์ !!!! " แล้วผมได้ถามอัยการไปว่าแล้วทรัพย์สินที่เหลือละจะฟ้องร้องอะไรได้ไหม อัยการแจ้งว่าทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะคดีสิ้นสุดไปแล้ว หลังจากนั้นผมจึงนำเรื่องไปปรึกษาทนาย ทนายก็แจ้งกลับมาว่า ทางทนายได้ตรวจสอบดูแล้ว พบว่า คนร้ายไม่มีทรัพย์อะไรให้ฟ้อง (มีรถยนต์ก็เป็นชื่อไฟแนนซ์) แล้วฟ้องไปก็ไม่ได้อะไร ไม่ติดคุกเพิ่ม จึงไม่แนะนำให้ฟ้อง

          ผมจึงอยากรบกวนถามท่านผู้รู้หน่อยครับว่า
      
          1. ทำไมทางอัยการถึงฟ้อง รับของโจรไป ตอนที่คุยกับอัยการ เค้าได้แจ้งว่าเป็นกระบวนการทางคดี ต้องยื่นไปแบบนั้น?????

          2. ทรัพย์ที่เสียไป ถ้าคนร้ายไม่มีทรัพย์สินใดๆ เราจะฟ้องร้องอะไรไม่ได้เลยหรือครับ??? หรือให้คนร้ายติดคุกเพิ่มก็ได้

          3. จริงๆแล้วยังมีคนร้ายอีกคนหลบหนีอยู่ ออกหมายจับแล้ว ถ้าจับได้ก็จะเหมือนเดิมอีกหรือไม่???

         จริงๆมีเรื่องของทางเจ้าหน้าที่อีกเยอะ  แต่ขอไม่กล่าวถึงละกันครับ  ส่วนทรัพย์ที่ไม่ได้คืน ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรแล้ว (ทำใจไปนานแล้วครับ) แต่อย่างน้อยอยากให้คนร้าย ติดคุกเพิ่มก็ยังดีครับ
        
          ขอรบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ