ผ่าประเด็นร้อน
เวลานี้หากพิจารณาความเป็นจริงจะพบว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ กำลังดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดอย่างหนัก อย่างน้อยก็ต้องการให้ยื้ออำนาจเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ต้องไปสนใจว่าบ้านเมืองจะ
เพียงใด
เอาเป็นว่าให้กูอยู่ต่อไปได้กูก็จะทำ และเมื่อถึงเวลาหากกูถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้จริงๆ กูก็จะ “ยกตระกูล” เผ่นหนีไปต่างประเทศ แล้วใช้เงินที่โกงตุนเอาไว้จำนวน “จ้างพวกหิวเงิน” ในประเทศ สร้างความปั่นป่วนต่อไป เหมือนอย่างที่เคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังอยู่เป็นสุข”
นั่นเป็นความเป็นจริง ตามสถานการณ์จริง รวมไปถึงคำอาฆาตพยาบาทที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี มาวันนี้สถานการณ์ได้พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว “เกิดปรากฏการณ์ตื่นรู้” กันทั่วบ้านทั่วเมือง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเชื่อว่าคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับพวกเขา ใครจะนึกว่าตัวเองที่กุมอำนาจไว้ในมืออย่างเบ็ดเสร็จทั้งนิติบัญญัติ บริหาร คุมกลไกรัฐได่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ชนิดที่เรียกว่าจะตั้งจะปลดใครก็ทำได้ตลอดเวลา แต่ก็นั่นแหละเมื่อ “มีอำนาจก็บ้าอำนาจ” จึงนำไปสู่ความเสื่อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ใช้อำนาจนั้น ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ อีกทั้งคนที่ถูกตั้งให้มาเป็น “หุ่นเชิด” ไร้สติปัญญา มันก็กลายเป็นตัวสร้างปัญหากลับมาอย่างรุนแรง ถามว่า ถ้าคนอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีสติปัญญา มีความคิดมากกว่านี้สักนิด ระบอบทักษิณก็คงจะไม่เสื่อมถอยได้เร็วแบบนี้ และคงไม่ทำให้เกิดมวลมหาประชาชนรวมพลังต่อต้านกันได้ถึงเพียงนี้ แต่เป็นเพราะความโง่ ความไม่เอาไหนที่แสดงออกมาให้เห็น “ซ้ำซาก” รายวัน มันจึงมีสภาพอย่างที่เห็นในวันนี้ กลายเป็นว่าภายใต้รัฐบาลนี้ที่ชี้นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ประสบความล้มเหลวทุกด้าน จนไม่มีผลงานใดที่นำมาใช้สำหรับ “หาเสียง” เพื่อเรียกความนิยมได้เลย จะยกเอาเรื่อง “จำนำข้าว” เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร ทุกอย่างล้มเหลว ทำไม่ได้อย่างที่พูดเอาไว้ กลายเป็น “เรื่องโม้” ไม่สมราคาคุย ที่สำคัญมัน “ไม่คุ้มค่า” กับการปกป้อง เพราะคนที่อยู่ดีกินดีกลับเป็นคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น รวมทั้งระดับ “ขี้ข้าใกล้ชิด” เท่านั้นที่อยู่สุขสบาย อยู่ดีมีสุขกันเป็นแถว ขณะที่ชาวบ้านรากหญ้ามีแต่หนี้สินที่พอกพูน
สังเกตหรือไม่ว่า ตามป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ภายใต้รูป ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้วนแล้วแต่เป็นการเรียกร้องแบบ “นามธรรม” เช่น “รักษากติกา” หรือ “เดินหน้ารักษาประชาธิปไตย” หรืออย่างมากก็ “ขอโอกาสให้ทำงานต่อ” ซึ่งผ่านมากว่าสองปี ก็น่าจะให้โอกาสมาพอสมควรแล้วว่าล้มเหลวทุกเรื่อง ไม่กล้าพูดถึงเรื่องจำนำข้าว “กระชากค่าครองชีพ” ทุกอย่างความจริงปรากฏให้เห็นตำตา ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งการจะพิสูจน์ว่าสิ่งไหนของจริง สิ่งไหนของปลอม ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์บ้าง ไม่ต้องไปขัดคอ แต่คอยชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์ เหมือนอย่างที่ระบอบทักษิณ กำลังถูกประจานอยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการพิสูจน์หมายรวมไปถึงบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงอีกด้วยว่า นอกจากมีการแยกระดับความสำคัญแล้ว แต่ความหมายก็คือ คนพวกนี้ “สู้แล้วรวย” ทุกคน สู้เพื่อตัวเองทุกคน
เพราะสถานะที่เป็นอยู่ก็คือ ทุกคนล้วนมีตำแหน่ง มีฐานะ บางคนได้เป็นรัฐมนตรี เป็น ส.ส. มีตำแหน่งทางการเมือง กินเงินเดือนหลวง
ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงระดับล่าง ล้วนแล้วแต่เหมือนเดิม หรือลำบากกว่าเดิม อย่างมากก็ “ได้กินประชาธิปไตย” เป็นอาหารทั้งสามมื้อตามที่มีการพูดกรอกปาก กรอกหูทุกวัน ว่า “สู้เพื่อประชาธิไตย ต้านเผด็จการ” ถึงจะอดอยากปากแห้งแค่ไหนก็ไม่เป็นไร “ต้องสู้เพื่อประชาธิปไตย แล้วพา ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน” แบบไม่มีความผิด นี่คือประชาธิปไตยสำเร็จรูปของพวกเขา
อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ถดถอยเข้าขั้นวิกฤติ สิ่งที่ระบอบทักษิณนำมาใช้ “หากิน” ทุกครั้งก็คือ “ต้านเผด็จการ รักษาประชาธิปไตย” เหมือนอย่างเวลานี้ที่ฝ่ายระบอบทักษิณ กำลังใช้ "แกนนำเสื้อแดงกำลัง ปลุกผีปฏิวัติ ขึ้นมาอย่างเอาการเอางานอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่รู้ทันก็ต้องมองออกว่านี่คือการ หาเหตุเพื่อระดมมวลชนเสื้อแดงเข้ามาสนับสนุนรัฐบาล และอีกด้านหนึ่งวิธีการดังกล่าวก็ยังเป็นการ “หาเงิน” ของพวกแกนนำได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง เพราะการระดมพลนั่นย่อมหมายถึง “รายได้จากค่าหัวคิว” และอื่นๆตามมาอีกจิปาถะ แต่เที่ยวนี้บรรยากาศคงไม่เหมือนเดิม เพราะทางมวลมหาประชาชนที่ออกมานั้นไม่ได้เรียกหาทหารให้ออกมาปฏิวัติยึดอำนาจ แต่เป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ นั่นคือ “ประชาชนปฏิวัติ” เพียงแต่เรียกร้องให้ทหารยืนข้างประชาชนเป็นพอเท่านั้น
ดังนั้น การข่าวคราวเรื่องการปฏิวัติโดยทหาร นั้นก็เป็นเพียงแค่การสร้างกระแสปลุกคนเสื้อแดงจากฝ่ายระบอบทักษิณเท่านั้น เพราะนาทีนี้ไม่มีใครต้องการ แต่ถ้ามีจริงก็ให้ระวัง “ทหารถั่งเช่า” บางคนที่อาจ “ชัตดาวน์” เพื่อ “รีสตาร์ท” ใหม่ให้ ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นได้
แต่ถ้าคิดทำโง่ๆ แบบนั้นก็ลองดูแล้วกัน!!
mng online
ปลุกผีปฏิวัติ แค่สร้างเรื่องปลุกมวลชนแดง-หัวโจกหาเงิน!!
เวลานี้หากพิจารณาความเป็นจริงจะพบว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ กำลังดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดอย่างหนัก อย่างน้อยก็ต้องการให้ยื้ออำนาจเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ต้องไปสนใจว่าบ้านเมืองจะ
เอาเป็นว่าให้กูอยู่ต่อไปได้กูก็จะทำ และเมื่อถึงเวลาหากกูถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้จริงๆ กูก็จะ “ยกตระกูล” เผ่นหนีไปต่างประเทศ แล้วใช้เงินที่โกงตุนเอาไว้จำนวน “จ้างพวกหิวเงิน” ในประเทศ สร้างความปั่นป่วนต่อไป เหมือนอย่างที่เคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังอยู่เป็นสุข”
นั่นเป็นความเป็นจริง ตามสถานการณ์จริง รวมไปถึงคำอาฆาตพยาบาทที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี มาวันนี้สถานการณ์ได้พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว “เกิดปรากฏการณ์ตื่นรู้” กันทั่วบ้านทั่วเมือง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเชื่อว่าคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับพวกเขา ใครจะนึกว่าตัวเองที่กุมอำนาจไว้ในมืออย่างเบ็ดเสร็จทั้งนิติบัญญัติ บริหาร คุมกลไกรัฐได่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ชนิดที่เรียกว่าจะตั้งจะปลดใครก็ทำได้ตลอดเวลา แต่ก็นั่นแหละเมื่อ “มีอำนาจก็บ้าอำนาจ” จึงนำไปสู่ความเสื่อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ใช้อำนาจนั้น ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ อีกทั้งคนที่ถูกตั้งให้มาเป็น “หุ่นเชิด” ไร้สติปัญญา มันก็กลายเป็นตัวสร้างปัญหากลับมาอย่างรุนแรง ถามว่า ถ้าคนอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีสติปัญญา มีความคิดมากกว่านี้สักนิด ระบอบทักษิณก็คงจะไม่เสื่อมถอยได้เร็วแบบนี้ และคงไม่ทำให้เกิดมวลมหาประชาชนรวมพลังต่อต้านกันได้ถึงเพียงนี้ แต่เป็นเพราะความโง่ ความไม่เอาไหนที่แสดงออกมาให้เห็น “ซ้ำซาก” รายวัน มันจึงมีสภาพอย่างที่เห็นในวันนี้ กลายเป็นว่าภายใต้รัฐบาลนี้ที่ชี้นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ประสบความล้มเหลวทุกด้าน จนไม่มีผลงานใดที่นำมาใช้สำหรับ “หาเสียง” เพื่อเรียกความนิยมได้เลย จะยกเอาเรื่อง “จำนำข้าว” เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร ทุกอย่างล้มเหลว ทำไม่ได้อย่างที่พูดเอาไว้ กลายเป็น “เรื่องโม้” ไม่สมราคาคุย ที่สำคัญมัน “ไม่คุ้มค่า” กับการปกป้อง เพราะคนที่อยู่ดีกินดีกลับเป็นคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น รวมทั้งระดับ “ขี้ข้าใกล้ชิด” เท่านั้นที่อยู่สุขสบาย อยู่ดีมีสุขกันเป็นแถว ขณะที่ชาวบ้านรากหญ้ามีแต่หนี้สินที่พอกพูน
สังเกตหรือไม่ว่า ตามป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ภายใต้รูป ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้วนแล้วแต่เป็นการเรียกร้องแบบ “นามธรรม” เช่น “รักษากติกา” หรือ “เดินหน้ารักษาประชาธิปไตย” หรืออย่างมากก็ “ขอโอกาสให้ทำงานต่อ” ซึ่งผ่านมากว่าสองปี ก็น่าจะให้โอกาสมาพอสมควรแล้วว่าล้มเหลวทุกเรื่อง ไม่กล้าพูดถึงเรื่องจำนำข้าว “กระชากค่าครองชีพ” ทุกอย่างความจริงปรากฏให้เห็นตำตา ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งการจะพิสูจน์ว่าสิ่งไหนของจริง สิ่งไหนของปลอม ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์บ้าง ไม่ต้องไปขัดคอ แต่คอยชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์ เหมือนอย่างที่ระบอบทักษิณ กำลังถูกประจานอยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการพิสูจน์หมายรวมไปถึงบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงอีกด้วยว่า นอกจากมีการแยกระดับความสำคัญแล้ว แต่ความหมายก็คือ คนพวกนี้ “สู้แล้วรวย” ทุกคน สู้เพื่อตัวเองทุกคน
เพราะสถานะที่เป็นอยู่ก็คือ ทุกคนล้วนมีตำแหน่ง มีฐานะ บางคนได้เป็นรัฐมนตรี เป็น ส.ส. มีตำแหน่งทางการเมือง กินเงินเดือนหลวง
ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงระดับล่าง ล้วนแล้วแต่เหมือนเดิม หรือลำบากกว่าเดิม อย่างมากก็ “ได้กินประชาธิปไตย” เป็นอาหารทั้งสามมื้อตามที่มีการพูดกรอกปาก กรอกหูทุกวัน ว่า “สู้เพื่อประชาธิไตย ต้านเผด็จการ” ถึงจะอดอยากปากแห้งแค่ไหนก็ไม่เป็นไร “ต้องสู้เพื่อประชาธิปไตย แล้วพา ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน” แบบไม่มีความผิด นี่คือประชาธิปไตยสำเร็จรูปของพวกเขา
อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ถดถอยเข้าขั้นวิกฤติ สิ่งที่ระบอบทักษิณนำมาใช้ “หากิน” ทุกครั้งก็คือ “ต้านเผด็จการ รักษาประชาธิปไตย” เหมือนอย่างเวลานี้ที่ฝ่ายระบอบทักษิณ กำลังใช้ "แกนนำเสื้อแดงกำลัง ปลุกผีปฏิวัติ ขึ้นมาอย่างเอาการเอางานอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่รู้ทันก็ต้องมองออกว่านี่คือการ หาเหตุเพื่อระดมมวลชนเสื้อแดงเข้ามาสนับสนุนรัฐบาล และอีกด้านหนึ่งวิธีการดังกล่าวก็ยังเป็นการ “หาเงิน” ของพวกแกนนำได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง เพราะการระดมพลนั่นย่อมหมายถึง “รายได้จากค่าหัวคิว” และอื่นๆตามมาอีกจิปาถะ แต่เที่ยวนี้บรรยากาศคงไม่เหมือนเดิม เพราะทางมวลมหาประชาชนที่ออกมานั้นไม่ได้เรียกหาทหารให้ออกมาปฏิวัติยึดอำนาจ แต่เป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ นั่นคือ “ประชาชนปฏิวัติ” เพียงแต่เรียกร้องให้ทหารยืนข้างประชาชนเป็นพอเท่านั้น
ดังนั้น การข่าวคราวเรื่องการปฏิวัติโดยทหาร นั้นก็เป็นเพียงแค่การสร้างกระแสปลุกคนเสื้อแดงจากฝ่ายระบอบทักษิณเท่านั้น เพราะนาทีนี้ไม่มีใครต้องการ แต่ถ้ามีจริงก็ให้ระวัง “ทหารถั่งเช่า” บางคนที่อาจ “ชัตดาวน์” เพื่อ “รีสตาร์ท” ใหม่ให้ ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นได้
แต่ถ้าคิดทำโง่ๆ แบบนั้นก็ลองดูแล้วกัน!!
mng online