มาอยู่โตเกียวได้เดือนกว่าๆแล้วค่ะ ซึ่งก็ได้มีโอกาสชิมร้านอร่อยๆหลายเจ้า และเมื่อช่วงปีใหม่เพื่อนแวะมาหาที่โตเกียวค่ะ เนื่องจากพวกเราแพลนจะเที่ยวกันแบบเน้นชิมของอร่อยและเดินเล่นไปเรื่อยๆ เลยได้รวบรวมร้านอาหารและร้านขนมที่เค้าว่ากันว่าเด็ดมาฝากค่ะ
ขอเปิดด้วยร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งถือว่าเป็นร้านยอดนิยมในญี่ปุ่นพอสมควรค่ะ ร้าน TORAYA
ร้านนี้มีหลายสาขาในญี่ปุ่น แล้วก็มีไปเปิดที่ฝรั่งเศสแล้วก็อเมริกาด้วย เมนูที่ทานจะเป็นวุ้นขาว แล้วก็วุ้นน้ำตาลดำ แป้งโมจิ(อร่อยมากๆ) ถั่วแดงโดยทานราด Syrub แล้วก็จิบชาเขียวควบคู่กัน ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ไม่หวานเกินรสชาติโอเคมากๆ
สำหรับที่ตั้งสามารถ Search หาได้ในเนตเลยค่ะ หน้าเวบมีภาษาอังกฤษด้วย เราไปทานที่แถวๆย่าน Akasaka ร้านใหญ่พอสมควร แต่ส่วนตัวแนะนำให้ไปทานสาขา Tokyo midtown ค่ะเพราะที่นี่ได้รวบรวมร้านขนมมากมายเข้าไว้ด้วยกันจะได้ไม่เสียเที่ยว
ต่อไปเป็นร้านเค้กแถวบ้านค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆแบบธุรกิจครอบครัว แต่ร้านน่ารักมากๆ เป็นเค้กแบบ Homemade รสชาติก็อร่อยไม่หวานมากเกินไปกลมกล่อมมากๆ ร้านนี้ไปบ่อยมากค่ะ ซื้อฝากใครก็มีแต่คนบอกอร่อย ชื่อร้าน A la bonne heure
เมนูโปรดคือ Fruit tarte กับ Strawberry shortcake ค่ะ อร่อยมากๆจริง
ถ่ายจากหน้าร้าน
ต่อไปเป็นร้านขนมญี่ปุ่นที่เจอโดยบังเอิญค่ะ พอดีไปเดินแถวย่าน Kitchen town Kappabashi แล้วหิวก็เลยหาอะไรทานร้านนี้อยู่ในซอยที่มองเข้าไปจะเจอวัดใหญ่ๆ เป็นไอติมญี่ปุ่นมีให้เลือกหลายรส ทานกับแป้งโมจิผลไม้แล้วก็ถั่วแดงกับวุ้นแล้ว อร่อยมากๆ
ต่อไปเป็นร้านหมู Tonkatsu เจ้าดังอีกเจ้า ชื่อร้าน Tonkatsu wako ร้านนี้ก็มีหลายสาขาค่ะสามารถ Search หาได้เลย
ที่เราทานเป็น Cheese Tonkatsu ทานกับ mustard กรอบ อร่อย
อีกอย่างนึงที่ถูกใจมากๆๆๆ คือ sweet potato ค่ะ ช่วงแรกๆที่มาทานทุกวันเลย หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ ใครมาอยากให้ลองจริงๆ
ต่อมาเป็นเค้กที่เพื่อนรุ่นพี่คนญี่ปุ่นซื้อมาให้วัน x-mas เป็นเค้กช้อกโกแลตที่เข้มข้นอร่อยมากๆ ทานเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยนเลย
เป็นของ Henri charpentier เค้าบอกว่าต้องจองไว้ล่วงหน้าถึงจะได้ ร้านนี้เฟิร์มเลยว่าเด็ดจริงๆ
ขอคั่นด้วยร้านอาหารฝรั่งเศสที่ถือว่าดังของที่นี่ค่ะ Benoit บรรยากาศร้านดีมากๆ ตกแต่งได้สวยน่ารัก Cozy มากๆ
ทั้งอาหารแล้วก็ขนมหวานอร่อยหมด ที่อยู่ตามนี้เลยค่ะ La Porte Aoyama 10F5-51-8 Jingumae Shibuya-ku Tokyo
อาหารและขนมหวาน
ต่อไปเป็นร้านซูชิที่โด่งดังอีกร้านนึงค่ะ เพื่อนบอกว่าต้องไปทานให้ได้เลยไปกัน ต่อคิวประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไปทานช่วงปีใหม่ เจอคนไทยเพียบเลยค่ะ ร้าน Sushi midori อยู่ชั้น 4 ตึก Mark city Shibuya อร่อยสมคำร่ำลือค่ะ คุ้มค้าการรอคอยไม่ผิดหวังจริงๆ ราคาก็สมเหตุสมผลค่ะ ทาน 3 คน ประมาณ 9000 กว่าเยน คุ้มมากๆ (มื้อนี้อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ เพื่อนเลี้ยง^^) แนะนำ boiled fatty tuna อร่อยมาก ความจริงอร่อยทุกอย่าง สดมากๆ
หลังจากไป countdown กันที่ Tokyo Tower ซึ่งเป็นการ countdown ที่เงียบสงบและน่ารักมากๆ คนที่นี่แค่รอดูเลข 2014 ขึ้นที่ Tokyo Tower แล้วก็พูด Happy new year กันแล้วก็แยกย้ายกันไปวัดต่อเลย อีกวันนึงพวกเราตื่นสายก็เลยอยากลองไป Maid cafe กันที่ Akihabara ค่ะ
เพราะอยากรู้อยากลอง ที่นี่พอเข้ามาก็เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกการ์ตูนค่ะ Maid ก็จะมากวักมือเชิญไปนั่ง แล้วก็ก่อนทานก็จะต้องท่องคาถา ประมาณว่า โอคุริ โออิชิ ประมาณนี้ และระหว่างทานก็จะมีคอนเสิร์ตเล็กๆโดย Maid ค่ะ พวกเราก็จะถือแท่งไฟโยกหัวตาม 555
ร้านที่เราไปชื่อ Maidreamin ค่ะ เห็นมีรายการเปรี้ยวปากมาด้วย พอเข้าไปต้องจ่ายก่อน 1000 เยนแล้วก็ทุกคนต้องสั่งคนละ 1 order
อาหารแล้วก็ขนมไม่แพงมากค่ะ(เพราะจ่ายค่าเข้าไปแล้วพันนึง) รสชาติดีเกินคาดด้วย ไส้กรอกอร่อย เท่าที่เดินๆ maid cafe มีหลายร้านค่ะที่ akihabara ลองไปเดินๆดูตามใจชอบ
ถ่ายรูปมาแต่ไอติม เพราะเข้าไปแล้วงงอยู่ 555
ต่อไปเป็นร้านที่เพื่อนกับน้องสาวเพื่อนดูมาจากคลิปคุณบีหรุค่ะ เป็นร้าน okonomiyaki กับ monjayaki ที่ชิบูย่าค่ะ
สามารถดูทางไปได้จากคลิปคุณบีหรุเลยค่ะ Search ใน Youtube ก็เจอ
เราไปกัน 3 คนแต่วันนั้นอยากจะลองทานของหวานหลายๆร้านเลยสั่งมาแค่ เมนูเดียวค่ะเป็น Monjayaki ซึ่งต้องทำเองค่ะวิธีก็ไม่ยากค่ะมีภาษาอังกฤษให้ด้วย หน้าตาดูเหมือนไม่น่าจะทานได้และดูเหมือนไม่สุก แต่ว่าอร่อยค่ะมันจะคล้ายๆ okonomiyaki แต่มันจะไม่แข็งเท่า จะเหนียวๆนิดนึง ไม่เสียทีที่ไปลอง แนะนำว่าตอนทำวงกลมให้ใหญ่กว่าเรานิดนึงค่ะ วงกลมเราแคบไปนิด มันจะได้สุกเท่าๆกันทั่วๆ
อิ่มคาวแล้วต่อของหวานเลยค่ะ เราเดินจากชิบุย่าตั้งใจไปทาน chocolate Pizza (ร้านนี้วันก่อนโน้นเดินผ่านดูน่าทานมาก คิวก็ยาวเหยียด)
แต่ระหว่างทางไปได้เจอ Pierre Herme ตรง AOYAMA ค่ะ ก็เลยแวะเข้าไปเพราะน้องสาวเพื่อนอยากชิม ปกติเราเป็นคนไม่ค่อยชอบ Macaron
แต่ไหนๆก็มาแล้วเลยลองซื้อมาชิม คือว่ามันอร่อยเลยค่ะ มันไม่ค่อยหวานมาก น้องเพื่อนที่ซื้อมาชิมหลายอันก็บอกว่าอร่อยทุกอัน
(ร้านนี้ไม่มีรูปขนมนะคะ ลืมถ่าย) ที่นี่มีส่วนให้นั่งทานที่ร้านด้วยนะคะ เจอคนไทยใจดีให้ข้อมูล(ตอนแรกคิดว่าซื้อกลับได้อย่างเดียว)
มาแล้วค่ะร้าน Max Brenner Chocolate Bar ที่มีเมนู Pizza chocolate ร้านนี้เค้ามี Slogan เก๋ๆว่า chocolate by the bald man เป็นร้าน chocolate ที่ดูเก๋และมีสไตล์มากค่ะ ร้านตั้งอยู่ Omotesando hills หลังจากรอคิวกันเกือบ 40 นาทีก็ได้เข้าไปค่ะ เรากะเพื่อนสั่ง choctail(เมนูเครื่องดื่ม) เป็น Hazelnut chocolate cream milk shake (จำชื่อเมนูไมไ่ด้แต่ประมาณนี้) แก้วละประมาณ 700-800 ส่วนน้องเพื่อนสั่ง Dark cholate milk shake ส่วนแน่นอนค่ะเราสั่ง chocolate pizza มาครึ่งนึง
ตัว pizza จะเป็นฐานคล้ายแป้งพิซซ่าตามด้วย chocolate แล้วก็ march mellow ค่ะ คำแรกที่ทานเข้าไปมันก็อร่อยดีค่ะ ตัว chocolate ผสมกับ marchmallow มันก็เข้ากันดี แต่พอทานไปเรื่อยๆมันชักจะหวานเกินค่ะ ยิ่งพอทานกับ choctail ที่สั่งมายิ่งทำให้หวานเลี่ยนมากๆ ส่วนเมนูของน้องสาวเพื่อนลองชิมดูก็ dark จริงๆค่ะ แต่อร่อยกว่าของเรา สรุปร้านนี้เราว่าอาจจะเหมาะกับคนชอบทานหวานๆนิดนึง(ส่วนตัวชอบทานขนมหวานที่ไม่หวานมาก) เราว่าเราอาจจะสั่งผิด ตัวพิซซ่าอาจจะควรทานคู่กับชาอาจจะดีกว่า หรือควรจะลองทานเมนูผลไม้ fondue ของร้านนี้ดูเพราะเห็นเค้าบอกว่ามันละลายในปากเลย แต่ถ้านั่งเอาบรรยากาศก็แนะนำค่ะ ร้านติดริมถนนเลยนั่งดูคนต่อคิวแล้วก็คนเดินไปมาเอาบรรยากาศ
เสร็จจากนั้นก็นั่งรถไฟไป Tokyo Midtown ต่อค่ะ เพื่อนรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นแนะนำร้านเค้กชื่อดังมา 2 ร้านที่นี้ แต่อีกร้านนึงเค้ารับจองก่อนเท่านั้นเลยอดค่ะ ได้ไปแต่ร้าน Patisserie Sadaharu Aoiki เค้กทุกชิ้นดูปราณีตมากๆค่ะ ร้านก็ดูขาวๆเรียบหรู แต่เราซื้อกลับมาทานบ้านค่ะ เพราะยังหวานปากกับพิซซ่าช้อกโกแลตอยู่
ส่วนตัวชอบหมดค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือ ชั้นเค้กแต่ละชั้นจะไม่เหมือนกันแต่พอทานเข้าไปแล้วลงตัวดีค่ะ แต่ชิ้นชาเขียวถั่วแดงหวานไปนิดนึงเลยเก็บไว้ทานอีกวัน
ปิดท้ายด้วยไอติมร้านโปรดค่ะ ไอติม soft cream หลากรสที่หน้าวัด sensoji อยากทานมากถึงขนาดยอมต่อแถวท่ามกลางอุณหภูมิ 8 องศา
รส Choco-banana อร่อยมากค่ะ ขนมปังร้านนี้ก็อร่อย ใครไปวัดโคมแดงแนะนำให้ไปลองชิมค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
[CR] ตะลุยกิน in TOKYO (เน้นของหวาน)
ขอเปิดด้วยร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งถือว่าเป็นร้านยอดนิยมในญี่ปุ่นพอสมควรค่ะ ร้าน TORAYA
ร้านนี้มีหลายสาขาในญี่ปุ่น แล้วก็มีไปเปิดที่ฝรั่งเศสแล้วก็อเมริกาด้วย เมนูที่ทานจะเป็นวุ้นขาว แล้วก็วุ้นน้ำตาลดำ แป้งโมจิ(อร่อยมากๆ) ถั่วแดงโดยทานราด Syrub แล้วก็จิบชาเขียวควบคู่กัน ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ไม่หวานเกินรสชาติโอเคมากๆ
สำหรับที่ตั้งสามารถ Search หาได้ในเนตเลยค่ะ หน้าเวบมีภาษาอังกฤษด้วย เราไปทานที่แถวๆย่าน Akasaka ร้านใหญ่พอสมควร แต่ส่วนตัวแนะนำให้ไปทานสาขา Tokyo midtown ค่ะเพราะที่นี่ได้รวบรวมร้านขนมมากมายเข้าไว้ด้วยกันจะได้ไม่เสียเที่ยว
ต่อไปเป็นร้านเค้กแถวบ้านค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆแบบธุรกิจครอบครัว แต่ร้านน่ารักมากๆ เป็นเค้กแบบ Homemade รสชาติก็อร่อยไม่หวานมากเกินไปกลมกล่อมมากๆ ร้านนี้ไปบ่อยมากค่ะ ซื้อฝากใครก็มีแต่คนบอกอร่อย ชื่อร้าน A la bonne heure
เมนูโปรดคือ Fruit tarte กับ Strawberry shortcake ค่ะ อร่อยมากๆจริง
ถ่ายจากหน้าร้าน
ต่อไปเป็นร้านขนมญี่ปุ่นที่เจอโดยบังเอิญค่ะ พอดีไปเดินแถวย่าน Kitchen town Kappabashi แล้วหิวก็เลยหาอะไรทานร้านนี้อยู่ในซอยที่มองเข้าไปจะเจอวัดใหญ่ๆ เป็นไอติมญี่ปุ่นมีให้เลือกหลายรส ทานกับแป้งโมจิผลไม้แล้วก็ถั่วแดงกับวุ้นแล้ว อร่อยมากๆ
ต่อไปเป็นร้านหมู Tonkatsu เจ้าดังอีกเจ้า ชื่อร้าน Tonkatsu wako ร้านนี้ก็มีหลายสาขาค่ะสามารถ Search หาได้เลย
ที่เราทานเป็น Cheese Tonkatsu ทานกับ mustard กรอบ อร่อย
อีกอย่างนึงที่ถูกใจมากๆๆๆ คือ sweet potato ค่ะ ช่วงแรกๆที่มาทานทุกวันเลย หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ ใครมาอยากให้ลองจริงๆ
ต่อมาเป็นเค้กที่เพื่อนรุ่นพี่คนญี่ปุ่นซื้อมาให้วัน x-mas เป็นเค้กช้อกโกแลตที่เข้มข้นอร่อยมากๆ ทานเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยนเลย
เป็นของ Henri charpentier เค้าบอกว่าต้องจองไว้ล่วงหน้าถึงจะได้ ร้านนี้เฟิร์มเลยว่าเด็ดจริงๆ
ขอคั่นด้วยร้านอาหารฝรั่งเศสที่ถือว่าดังของที่นี่ค่ะ Benoit บรรยากาศร้านดีมากๆ ตกแต่งได้สวยน่ารัก Cozy มากๆ
ทั้งอาหารแล้วก็ขนมหวานอร่อยหมด ที่อยู่ตามนี้เลยค่ะ La Porte Aoyama 10F5-51-8 Jingumae Shibuya-ku Tokyo
อาหารและขนมหวาน
ต่อไปเป็นร้านซูชิที่โด่งดังอีกร้านนึงค่ะ เพื่อนบอกว่าต้องไปทานให้ได้เลยไปกัน ต่อคิวประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไปทานช่วงปีใหม่ เจอคนไทยเพียบเลยค่ะ ร้าน Sushi midori อยู่ชั้น 4 ตึก Mark city Shibuya อร่อยสมคำร่ำลือค่ะ คุ้มค้าการรอคอยไม่ผิดหวังจริงๆ ราคาก็สมเหตุสมผลค่ะ ทาน 3 คน ประมาณ 9000 กว่าเยน คุ้มมากๆ (มื้อนี้อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ เพื่อนเลี้ยง^^) แนะนำ boiled fatty tuna อร่อยมาก ความจริงอร่อยทุกอย่าง สดมากๆ
หลังจากไป countdown กันที่ Tokyo Tower ซึ่งเป็นการ countdown ที่เงียบสงบและน่ารักมากๆ คนที่นี่แค่รอดูเลข 2014 ขึ้นที่ Tokyo Tower แล้วก็พูด Happy new year กันแล้วก็แยกย้ายกันไปวัดต่อเลย อีกวันนึงพวกเราตื่นสายก็เลยอยากลองไป Maid cafe กันที่ Akihabara ค่ะ
เพราะอยากรู้อยากลอง ที่นี่พอเข้ามาก็เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกการ์ตูนค่ะ Maid ก็จะมากวักมือเชิญไปนั่ง แล้วก็ก่อนทานก็จะต้องท่องคาถา ประมาณว่า โอคุริ โออิชิ ประมาณนี้ และระหว่างทานก็จะมีคอนเสิร์ตเล็กๆโดย Maid ค่ะ พวกเราก็จะถือแท่งไฟโยกหัวตาม 555
ร้านที่เราไปชื่อ Maidreamin ค่ะ เห็นมีรายการเปรี้ยวปากมาด้วย พอเข้าไปต้องจ่ายก่อน 1000 เยนแล้วก็ทุกคนต้องสั่งคนละ 1 order
อาหารแล้วก็ขนมไม่แพงมากค่ะ(เพราะจ่ายค่าเข้าไปแล้วพันนึง) รสชาติดีเกินคาดด้วย ไส้กรอกอร่อย เท่าที่เดินๆ maid cafe มีหลายร้านค่ะที่ akihabara ลองไปเดินๆดูตามใจชอบ
ถ่ายรูปมาแต่ไอติม เพราะเข้าไปแล้วงงอยู่ 555
ต่อไปเป็นร้านที่เพื่อนกับน้องสาวเพื่อนดูมาจากคลิปคุณบีหรุค่ะ เป็นร้าน okonomiyaki กับ monjayaki ที่ชิบูย่าค่ะ
สามารถดูทางไปได้จากคลิปคุณบีหรุเลยค่ะ Search ใน Youtube ก็เจอ
เราไปกัน 3 คนแต่วันนั้นอยากจะลองทานของหวานหลายๆร้านเลยสั่งมาแค่ เมนูเดียวค่ะเป็น Monjayaki ซึ่งต้องทำเองค่ะวิธีก็ไม่ยากค่ะมีภาษาอังกฤษให้ด้วย หน้าตาดูเหมือนไม่น่าจะทานได้และดูเหมือนไม่สุก แต่ว่าอร่อยค่ะมันจะคล้ายๆ okonomiyaki แต่มันจะไม่แข็งเท่า จะเหนียวๆนิดนึง ไม่เสียทีที่ไปลอง แนะนำว่าตอนทำวงกลมให้ใหญ่กว่าเรานิดนึงค่ะ วงกลมเราแคบไปนิด มันจะได้สุกเท่าๆกันทั่วๆ
อิ่มคาวแล้วต่อของหวานเลยค่ะ เราเดินจากชิบุย่าตั้งใจไปทาน chocolate Pizza (ร้านนี้วันก่อนโน้นเดินผ่านดูน่าทานมาก คิวก็ยาวเหยียด)
แต่ระหว่างทางไปได้เจอ Pierre Herme ตรง AOYAMA ค่ะ ก็เลยแวะเข้าไปเพราะน้องสาวเพื่อนอยากชิม ปกติเราเป็นคนไม่ค่อยชอบ Macaron
แต่ไหนๆก็มาแล้วเลยลองซื้อมาชิม คือว่ามันอร่อยเลยค่ะ มันไม่ค่อยหวานมาก น้องเพื่อนที่ซื้อมาชิมหลายอันก็บอกว่าอร่อยทุกอัน
(ร้านนี้ไม่มีรูปขนมนะคะ ลืมถ่าย) ที่นี่มีส่วนให้นั่งทานที่ร้านด้วยนะคะ เจอคนไทยใจดีให้ข้อมูล(ตอนแรกคิดว่าซื้อกลับได้อย่างเดียว)
มาแล้วค่ะร้าน Max Brenner Chocolate Bar ที่มีเมนู Pizza chocolate ร้านนี้เค้ามี Slogan เก๋ๆว่า chocolate by the bald man เป็นร้าน chocolate ที่ดูเก๋และมีสไตล์มากค่ะ ร้านตั้งอยู่ Omotesando hills หลังจากรอคิวกันเกือบ 40 นาทีก็ได้เข้าไปค่ะ เรากะเพื่อนสั่ง choctail(เมนูเครื่องดื่ม) เป็น Hazelnut chocolate cream milk shake (จำชื่อเมนูไมไ่ด้แต่ประมาณนี้) แก้วละประมาณ 700-800 ส่วนน้องเพื่อนสั่ง Dark cholate milk shake ส่วนแน่นอนค่ะเราสั่ง chocolate pizza มาครึ่งนึง
ตัว pizza จะเป็นฐานคล้ายแป้งพิซซ่าตามด้วย chocolate แล้วก็ march mellow ค่ะ คำแรกที่ทานเข้าไปมันก็อร่อยดีค่ะ ตัว chocolate ผสมกับ marchmallow มันก็เข้ากันดี แต่พอทานไปเรื่อยๆมันชักจะหวานเกินค่ะ ยิ่งพอทานกับ choctail ที่สั่งมายิ่งทำให้หวานเลี่ยนมากๆ ส่วนเมนูของน้องสาวเพื่อนลองชิมดูก็ dark จริงๆค่ะ แต่อร่อยกว่าของเรา สรุปร้านนี้เราว่าอาจจะเหมาะกับคนชอบทานหวานๆนิดนึง(ส่วนตัวชอบทานขนมหวานที่ไม่หวานมาก) เราว่าเราอาจจะสั่งผิด ตัวพิซซ่าอาจจะควรทานคู่กับชาอาจจะดีกว่า หรือควรจะลองทานเมนูผลไม้ fondue ของร้านนี้ดูเพราะเห็นเค้าบอกว่ามันละลายในปากเลย แต่ถ้านั่งเอาบรรยากาศก็แนะนำค่ะ ร้านติดริมถนนเลยนั่งดูคนต่อคิวแล้วก็คนเดินไปมาเอาบรรยากาศ
เสร็จจากนั้นก็นั่งรถไฟไป Tokyo Midtown ต่อค่ะ เพื่อนรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นแนะนำร้านเค้กชื่อดังมา 2 ร้านที่นี้ แต่อีกร้านนึงเค้ารับจองก่อนเท่านั้นเลยอดค่ะ ได้ไปแต่ร้าน Patisserie Sadaharu Aoiki เค้กทุกชิ้นดูปราณีตมากๆค่ะ ร้านก็ดูขาวๆเรียบหรู แต่เราซื้อกลับมาทานบ้านค่ะ เพราะยังหวานปากกับพิซซ่าช้อกโกแลตอยู่
ส่วนตัวชอบหมดค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือ ชั้นเค้กแต่ละชั้นจะไม่เหมือนกันแต่พอทานเข้าไปแล้วลงตัวดีค่ะ แต่ชิ้นชาเขียวถั่วแดงหวานไปนิดนึงเลยเก็บไว้ทานอีกวัน
ปิดท้ายด้วยไอติมร้านโปรดค่ะ ไอติม soft cream หลากรสที่หน้าวัด sensoji อยากทานมากถึงขนาดยอมต่อแถวท่ามกลางอุณหภูมิ 8 องศา
รส Choco-banana อร่อยมากค่ะ ขนมปังร้านนี้ก็อร่อย ใครไปวัดโคมแดงแนะนำให้ไปลองชิมค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ