"ปฏิวัติ" ไหม ? ผบ.ทบ. กปปส. ปลัดกระทรวงกลาโหม เชื่อใครดี ไทยรัฐออนไลน์

กระทู้สนทนา
ลุ้น "ตัดหน้า" ก่อนดีเดย์    วิเคราะห์การเมือง    ไทยรัฐออนไลน์

ตกอกตกใจกันไปได้ แค่ทหารขนรถถังและยานเกราะ ลำเลียงเข้ากรุงเทพฯเพื่อพิธีสวนสนาม
และโชว์ในงานวันเด็ก กลายเป็นพาดหัวข่าวยักษ์บนหน้าหนังสือพิมพ์

ลือกันให้แซ่ดในโซเชียลมีเดียไปยันสภากาแฟ

ตามการชี้แจงของ พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.)
เคลียร์ว่า การเคลื่อนรถถัง รถเกราะ และกำลังพลจากต่างจังหวัดมาซ้อมสวนสนามเนื่องใน
วันกองทัพไทย

และปีนี้เป็นปีแรกที่จะมีการสวนสนามยานยนต์ ตามดำริของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผบ.ทบ.ที่ต้องการให้กองทัพไทยได้แสดงแสนยานุภาพที่ยิ่งใหญ่ในการโชว์อาวุธยุทโธปกรณ์ที่
ทันสมัย

เรื่องของเรื่อง มันก็ให้บังเอิญมา “จัดเต็ม” ปีนี้

ยิ่งมาเหมาะเจาะในสถานการณ์ “เข้าด้ายเข้าเข็ม” กระแสแอ่นแอ๊นถูกกระพือออกมาจาก
ทั่วสารทิศ ตามจังหวะที่ “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำขาใหญ่ นปช.

ส่งซิกให้คนเสื้อแดง นปช.เตรียมพร้อมรับสัญญาณระดมพลใหญ่ต่อต้านรัฐประหาร

ส่งมุกกับรัฐบาลรักษาการก็ส่ง “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิงสุนิสา เลิศภควัตรองโฆษกประจำ
สำนักนายกฯออกมาแถลงดักคอออกอากาศ โยงยุทธการ “ชัตดาวน์กรุงเทพฯ” ของ
“ม็อบกำนันเทพ” เพื่อสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนวุ่นวายเปิดทางให้นำไปสู่การปฏิวัติ

ตาม “ฤกษ์โลกาวินาศ” วันที่ 14 มกราคมนี้

นั่นก็หมายถึงว่า คล้อยหลังวันเดียวกับกำหนดดีเดย์ “13 มกราคม” ที่ “กำนันเทพ”
นัดระดมพลใหญ่ ป่วนเมืองขั้นสูงสุด ปิดถนนเส้นหลักในเมืองกรุงตั้ง 7 เวที ประกอบด้วย
1.ถนนแจ้งวัฒนะหน้าศูนย์ราชการ 2.เวทีห้าแยกลาดพร้าว 3.เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
4.เวทีสี่แยกปทุมวัน 5.เวทีสวนลุมพินี 6.เวทีสี่แยกอโศก และ 7.เวทีสี่แยกราชประสงค์

ปะติดปะต่อภาพ โยงกันได้เป็นฉากๆ

ในบรรยากาศเครียดๆ สถานการณ์ร้อนต่อเนื่องที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไป
งานศพตำรวจที่เสียชีวิตในเหตุปะทะกับม็อบที่ศูนย์เยาวชนไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง พร้อม
เดินสายเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

ท่ามกลางตะโกนเชียร์ให้นายกฯหญิงสู้ต่อไป

นั่นก็เพราะเดิมพันเป็นเดิมพันตายที่ผูกติดกันไว้ ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์พ่ายให้
“ม็อบกำนันเทพ” ตำรวจตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวมีหวังโดนล้างบาง

เพื่อความอยู่รอด ตำรวจก็ต้องสู้แบบถวายหัวแน่

และก็เป็นอะไรที่ถอยไม่ได้เหมือนกัน ตามรูปการณ์ที่“กำนัน เทพ” ประกาศก้องเลยว่า
ตระกูลชินวัตรจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ต้องหนีไปต่างประเทศ

ถ้า “ม็อบนกหวีด” ชนะ จะเดินหน้ายึดทรัพย์นายกฯ ยิ่งลักษณ์และเครือข่ายที่รับใช้ “นายใหญ่”

ยังไงพรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมแพ้

ตามอารมณ์บวกเงื่อนไข ส่อสถานการณ์เดือด แนวโน้มเกมแลกเลือดเกิดขึ้นแน่ๆ
นอกจากฉากปะทะระหว่างหน่วยฮาร์ดคอร์ของม็อบ “กำนันเทพ” กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ยังส่อแววว่าประชาชนกับประชาชนจะปะทะกันเอง

ในอารมณ์ที่ผู้เดือดร้อนจากการใช้รถใช้ถนนคงไม่พอใจที่ถูกม็อบละเมิดสิทธิ์

และนั่นยังไม่นับผลเสียหายใหญ่หลวง ตามการแถลงของนายอิสระ ว่องกุศลกิจ
ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) แสดงความเป็นห่วงยุทธการชัตดาวน์
กรุงเทพฯ จะกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของคนในเมือง นักเรียน นักศึกษา
แพทย์ พยาบาล ฯลฯ ที่ต้องใช้เส้นทาง

ขณะที่สายการบินหลายแห่งได้ยกเลิกเที่ยวบินมาประเทศไทย

ทุกฝ่ายประเมินแนวโน้มสถานการณ์ออกไปในทางร้ายถึงร้ายที่สุด

มันก็เป็นอะไรที่น่าจับตา ถ้าจะมีเหตุ “ตัดหน้า” ก่อน

วันที่ 13 ม.ค. เบรกเกมก่อนเสียหายหนัก

ไหนๆ ก็ขนมาแล้ว รถถังกับรถยานเกราะอาจจอดอยู่กรุงเทพฯ เลยวันเด็กไป

และก็เป็นอะไรที่สังเกตได้ว่า “ตัวโจ๊กเกอร์” อย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
หายไปจากกระดานข่าว มีเพียงภาพโผล่ทางโซเชียลมีเดียพาลูกสาวลูกเขย
ลุยหิมะอยู่เมืองจีน ตระเวนเที่ยวเงียบๆอยู่แถบประเทศรัสเซีย และฮ่องกง
เก็บตัวเงียบสงบ ไม่เคลื่อนไหวให้เป็นชนวนเร่งหัวเชื้อแต่อย่างใด

อารมณ์เหมือนจะไม่สู้อีกแล้ว อยากจบเต็มที.


ทีมข่าวการเมือง

http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/394449



ปลัดกลาโหม เชื่อใจ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ปฏิวัติแน่  ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ปลัดกลาโหม เชื่อมั่น ผบ.เหล่าทัพ ไม่ปฏิวัติแน่ จี้ ฝ่ายตรงข้ามเลิกใส่ร้าย-กวนน้ำให้ขุ่น
แนะนักวิชาการทำพิมพ์เขียวสภาปฏิรูปหาทางออก...  

วันนี้ (7 ม.ค.57) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม
ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันปีใหม่ เพื่อถวายเป็น
พระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า
เป็นเวลา 80 กว่าวันแล้ว ที่ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์ และมีการปรับแผน
มาตลอด และมีการร่วมมือกันอย่างดี ทั้งในระดับบน ระดับปฏิบัติ และระดับล่าง
ตนอธิษฐานในใจตลอด เวลาทำบุญไหว้พระ สวดมนต์ว่า ปีใหม่นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนให้
เกิดสิ่งดีงาม เกิดปาฏิหาริย์ ให้อภัยกัน เพราะตอนนี้ ตนไม่รู้จะเอาหลักการอะไรมาพูดแล้ว
เหลือแต่ขอให้เป็นน้ำใจ ให้อภัยกัน ส่วนการประเมินสถานการณ์นั้น ในการประชุม กอ.รมน.
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.รมน. ได้ย้ำ
กฎเหล็กในการไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ในการปฏิบัติการในอนาคต โดยที่ผ่านมาทั้งทหาร
และตำรวจ ทั้งในระดับบน ระดับปฏิบัติ และระดับล่าง มีความเข้าใจและร่วมมือกันดี โดย
ตำรวจจะยังทำหน้าที่ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ส่วนทหาร ยังเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน                

เมื่อถามว่า มีโอกาสจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ขอให้มั่นใจ
และเชื่อมั่นใน ผบ.เหล่าทัพ ทั้งคำพูดของผู้ใหญ่ในกองทัพเอง และที่ให้โฆษกกองทัพ
ออกมาพูด แต่คงเพราะมีการจินตนาการกันไปต่างๆ นานา และเป็นการใส่ร้าย และกวนน้ำ
ให้ขุ่น ซึ่งเป็นอันตรายมาก ตนเองเชื่อมั่นในตัวผู้นำกองทัพ ทั้ง ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ
มีการหารือกันตลอด ท่านมีความหนักแน่น มีจิตใจเปิดกว้าง ส่วนความคืบหน้าของสภาปฏิรูป
นั้น อยากให้นักวิชาการได้เสนอพิมพ์เขียวสภาปฏิรูปออกมา เพื่อเป็นแสงสว่างในความมืด
เพราะแนวทางของรัฐบาลถูกมองไม่เป็นกลาง ขอให้ทุกฝ่ายเปิดแผนออกมา หลายพิมพ์เขียว
เพราะอาจเฉียบคมกว่า ทั้งนี้ อยากให้คนไทยร่วมกันทำโลกหันมามองเมืองไทยว่า เราจับมือ
ให้อภัยกันได้เอง ปีใหม่จุดเปลี่ยนพาคนไทยออกจากความหมองหม่น ให้อภัยกัน เป็นปาฏิหารย์
ให้คนไทยกว่า 60 ล้านคน                

เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ ผบ.เหล่าทัพ จะพยายามทำให้เกิดการพูดคุยระหว่าง 2 ฝ่ายอีกหรือไม่
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นความหวังของ ผบ.เหล่าทัพ และคนไทยทุกคนที่อยากจะให้
มีการพูดคุยกัน ตอนนี้เราเอาใจช่วย เพราะตอนนี้คนทั้งประเทศกำลังอยากให้ทั้งสองฝ่ายยื่น
มือออกมา

http://www.thairath.co.th/content/pol/394334

เก็บตกเอามาให้อ่านเปรียบเทียบกัน  วิเคราะห์การเมือง  กับข่าวการเมือง...
อะไรจะแน่กว่ากัน   ปลัดกห.  เชือ่ได้ไหม?   หรือ ทีมการเมืองจะแน่กว่า  !!!!!ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่