ขอท้าวความจุดเริ่มต้นก่อนนะครับ จะได้ไม่งงถึงที่มาที่ไป
ผมมีเตรียมที่จะซื้ออาคารพานิชย์อยู่ 1 หลังและ บ้านเดี่ยว 1 หลัง (อยู่ใกล้ๆกันแต่ไม่ใช่พื้นที่ติดกัน) ซึ่งทางผู้รับเหมา (เป็นเจ้าของที่และเป็นผู้สร้างตัวอาคารด้วย) ได้ขายให้กับผม
ซึ่งอาคารทั้ง2หลังนี้ผู้รับเหมาได้เริ่มสร้างตั้งแต่ต้นปี 2555 และมาแล้วเสร็จตอนปลายปี 2555
เมื่อผู้รับเหมาสร้างเสร็จ ผมก็จึงทำการเรียกแบงค์มาประเมินราคาและเตรียมทำเรื่องกู้
ในตอนนั้นเองเป็นเดือนพ.ย.55 ด้วยความบังเอิญที่จะไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่ธ.กรุงศรี (สาขาหนึ่งในห้างใหญ่กลางเมืองที่เคยโดนเผา) และได้เปิดบัญชีกับผู้การสาขา
เค้าก็ถามถึงผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆของธ.ว่าเราจะสนใจไหม ก็มีเคสเรื่องบ้านพอดี ก็เลยลองดู
ผมได้ยื่นเอกสารไปและมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินจากธ.กรุงศรีเข้ามาถ่ายรูปประเมินเรียบร้อย
แต่จากการที่ระแวกบ้านผมยังมีบ้านเรือนที่ขายไม่เยอะ (มีแต่ที่ดินเปล่ามีเจ้าของแต่ไม่ขายกัน) ทำให้การเปรียบเทียบราคาค่อนข้างยาก
ดังนั้นผลที่ได้ออกมาคือ ธ.กรุงศรี อนุมัติแล้วตอนต้นปี 56 (จุดนี้ครับที่มีประเด็น)
แต่ยอดประเมินต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร และยังห่างจากราคาซื้อขายพอสมควร
ผมไปปรึกษากับผู้รับเหมาแล้ว ซึ่งทางผู้รับเหมาก็บอกว่าให้ลองหาที่อื่นยื่นดูก่อนไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ระหว่างนี้ผ่อนกับเค้าก่อนก็ได้
วันเวลาก็ผ่านไป กับอุปสรรคหลายๆอย่าง (เปลี่ยนงานพอดีต้องรอเดินสเตทเม้นท์ใหม่ครับ)
เข้าเรื่องเลยนะครับ ต้นเดือนธันวาคม 2556
บ้านเดี่ยวผมกู้ผ่านเรียบร้อยแล้ว (บ้านเดี่ยวทางธ.กรุงไทยจัดการให้ รวดเร็วและเรียบร้อยมากๆ เสียดายที่เค้าไม่สามารถทำอาคารพานิชย์ให้ผมได้) เหลือแต่อาคารพานิชย์ ด้วยความที่จะเอาสะดวก ดังนั้นจึงลองโทรกลับไปหาผู้การธ.กรุงศรีคนเดิมดูว่าให้เข้ามาประเมินใหม่ เพราะทำเรื่องผ่านไปรอบนึงแล้ว รู้เรื่องหมดแล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก บวกกับตอนนี้ผมพร้อมเรื่องเงินแล้ว ต่อให้อนุมัติเท่าเดิมก็ไม่มีปัญหา
ซึ่งทางผู้การก็ขอเอกสารต่างๆ ผมก็จัดการให้ครบถ้วนอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ผมส่งเอกสารไปเสร็จเรียบร้อย การติดต่อครั้งสุดท้ายจากผู้การคือ ให้เซ็นต์บูโรเพิ่มอีกที ของเดิมเค้าทำผิด
และไม่มีการติดต่อใดๆอีกเลยจนถึงวันนี้
ส่วนเจ้าหน้าที่ประเมิน เข้ามาหลังจากเอกสารครบประมาณ 1 สัปดาห์ (ช่วงกลางเดือนธันวาคม) และไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
วันนั้นไม่มีคนอยู่บ้านเลย ซึ่งมีบทสนทนาสั้นๆทางโทรศัพท์ตามนี้ครับ
จนท.ประเมิน "ผมเห็นประวัติที่นี่เคยประเมินแล้วนี่ ข้างในเหมือนเดิมไหม?"
ผม "เหมือนเดิมครับ ทุกอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง จะดูไหมครับ ถ้าดู ผมรบกวนรอสักพักนึง จะให้ญาติวิ่งไปเปิดให้"
จนท.ประเมิน "ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมถ่ายแค่ข้างนอกอย่างเดียวพอ มันไม่มีอะไรแตกต่าง อธิบายได้ครับ"
ผม "โอเคครับ รบกวนด้วยนะครับ"
นี่คือบทสนทนาสุดท้ายระหว่างผมกับธ.กรุงศรี
ผมก็คิดว่าคงเป็นเพราะช่วงปีใหม่ เคสเยอะ คงยังทำไม่ทัน
วันนี้ 7 ม.ค. 57 มีธุระเข้าไปที่สาขานี้พอดี เสร็จธุระแล้วเลยแวะเข้าไปที่สาขา ถามหาผู้การ
ปรากฎผู้การไม่อยู่ ก็มีจนท.คนอื่นมารับแทนให้ ก็เปิดหน้าจอคอมเช็คข้อมูลและแจ้งผมว่า
จนท. "เคสนี้ถูกปิดไปแล้วค่ะ เนื่องจากสภาพภายในไม่ใช่ที่อยู่อาศัย"
ผม "อ้าว ไม่เห็นมีแจ้งมาเลยครับ แล้วมันไม่ใช่ที่อยู่อาศัยยังไง"
จนท. "ถ้าดูจากระบบเค้าแจ้งไว้แค่นี้ค่ะ" (ไม่ได้พยายามที่จะติดต่อกับผู้การ หรือหาทางออกให้ลูกค้าเล๊ยยยย)
ผม "ก็แล้วตอนต้นปีอนุมัติไปแล้ว ทำไมปลายปีบอกไม่อนุมัติล่ะครับ"
จนท. "เหมือนกับว่าลูกค้าแจ้งว่าไม่สะดวกให้ถ่ายภาพภายในบ้านค่ะ"
ผม "อ้าว ก็จนท.ประเมินบอกว่าถ้าเหมือนเดิมเค้าไม่ถ่ายนี่ครับ ผมผิดหรอ?"
จนท. "เปล่าค่ะ แต่ถ้าภายในไม่ได้มีการกั้นห้อง ตกแต่งเป็นที่อยู่อาศัย จะไม่สามารถกู้ได้ค่ะ ขัดกับ policy ของธ."
ผม "แต่ตอนต้นปีอนุมัติไปแล้วนะครับ policy คุณเปลี่ยนระหว่างปีด้วยหรอ?"
จนท. "เปล่าค่ะ แต่ policy เป็นแบบนี้จริงๆ"
ผมเริ่มหัวเสียกับการตอบคำถามของจนท.คนนี้จริงๆ จนเธอบอกว่า ขอต่อสายหาผู้การดีกว่า
คุยซักพักนึง เธอก็ยื่นโทรศัทพ์ให้ผม และบอกว่าผู้การอยู่ในสาย
ผู้การ "สวัสดีค่ะคุณ(ผมเอง) พี่ตามให้แล้วนะ แต่ไม่อนุมัติเพราะอย่างที่เคยแจ้งไปว่าพอไม่กั้นห้อง มันก็ไม่เหมือนบ้าน เลยไม่ผ่าน แต่เรื่องวงเงินกู้ไม่ได้ติดอะไรนะ"
ผม "ที่บอกว่า อย่างที่เคยแจ้งไป นี่บอกผมตอนไหนหรอครับ? ผมคุยกับพี่ครั้งสุดท้ายคือพี่ขอให้ผมเซ็นต์บูโรใหม่เลยนะครับ"
ผู้การ "อ่อค่ะ พอดีว่าเห็นว่าเป็นช่วงข้ามปีด้วย แล้วมันก็ติดเรื่องประเมินไม่ผ่านด้วยก็เลยไม่ได้แจ้งไปค่ะ"
ผม "อ้าว พอไม่ผ่านก็ไม่ต้องแจ้งเลยหรอครับ แล้วให้ผมรอถึงเมื่อไรครับ นี่ถ้าผมไม่เข้ามาวันนี้ ผมจะได้รู้ไหมครับ?"
ผู้การ "ต้องขอโทษด้วยละกันนะคะ ที่ไม่ได้แจ้งไป"
ผม "แล้วทำไมตอนต้นปีอนุมัติได้ ตอนนี้อนุมัติไม่ได้ครับ"
ผู้การ "ทางพี่ดูให้ได้แค่เรื่องวงเงิน ความสามารถในการกู้ ผ่อนชำระนะคะ ไม่สามารถทราบไปถึงฝั่งอนุมัติได้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
จบตรงนี้ ผู้การก็ไม่มีเหตุผลใดๆเพิ่มเติมให้แล้ว
ซึ่งผมเองก็พูดไม่ออกกับการกระทำของผู้การและจนท.ในสาขานี้จริงๆ
ฝากเป็น 1 ประสบการณ์ที่ผมพบเจอจากธ.นี้ สาขานี้แล้วกันครับ
ไม่ได้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อดิสเครดิตใคร เรื่องจริงล้วนๆครับ
บอกตามตรงว่าวันนี้หัวเสียมากจริงๆ เรื่องของเรื่องถ้าผู้การแจ้งผม ติดตามงานให้ผม แต่สุดท้ายไม่ผ่านเนี่ย
ผมจะไม่ติดใจอะไรหรอกครับ แต่นี้เล่นแถเอาดื้อๆเลย
ลาขาดครับ ธ.กรุงศรีอยุธยา...
แชร์ครับ ความรับผิดชอบของจนท.ระดับผู้การสาขากับการกู้สินเชื่อบ้านกรุงศรี
ผมมีเตรียมที่จะซื้ออาคารพานิชย์อยู่ 1 หลังและ บ้านเดี่ยว 1 หลัง (อยู่ใกล้ๆกันแต่ไม่ใช่พื้นที่ติดกัน) ซึ่งทางผู้รับเหมา (เป็นเจ้าของที่และเป็นผู้สร้างตัวอาคารด้วย) ได้ขายให้กับผม
ซึ่งอาคารทั้ง2หลังนี้ผู้รับเหมาได้เริ่มสร้างตั้งแต่ต้นปี 2555 และมาแล้วเสร็จตอนปลายปี 2555
เมื่อผู้รับเหมาสร้างเสร็จ ผมก็จึงทำการเรียกแบงค์มาประเมินราคาและเตรียมทำเรื่องกู้
ในตอนนั้นเองเป็นเดือนพ.ย.55 ด้วยความบังเอิญที่จะไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่ธ.กรุงศรี (สาขาหนึ่งในห้างใหญ่กลางเมืองที่เคยโดนเผา) และได้เปิดบัญชีกับผู้การสาขา
เค้าก็ถามถึงผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆของธ.ว่าเราจะสนใจไหม ก็มีเคสเรื่องบ้านพอดี ก็เลยลองดู
ผมได้ยื่นเอกสารไปและมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินจากธ.กรุงศรีเข้ามาถ่ายรูปประเมินเรียบร้อย
แต่จากการที่ระแวกบ้านผมยังมีบ้านเรือนที่ขายไม่เยอะ (มีแต่ที่ดินเปล่ามีเจ้าของแต่ไม่ขายกัน) ทำให้การเปรียบเทียบราคาค่อนข้างยาก
ดังนั้นผลที่ได้ออกมาคือ ธ.กรุงศรี อนุมัติแล้วตอนต้นปี 56 (จุดนี้ครับที่มีประเด็น)
แต่ยอดประเมินต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร และยังห่างจากราคาซื้อขายพอสมควร
ผมไปปรึกษากับผู้รับเหมาแล้ว ซึ่งทางผู้รับเหมาก็บอกว่าให้ลองหาที่อื่นยื่นดูก่อนไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ระหว่างนี้ผ่อนกับเค้าก่อนก็ได้
วันเวลาก็ผ่านไป กับอุปสรรคหลายๆอย่าง (เปลี่ยนงานพอดีต้องรอเดินสเตทเม้นท์ใหม่ครับ)
เข้าเรื่องเลยนะครับ ต้นเดือนธันวาคม 2556
บ้านเดี่ยวผมกู้ผ่านเรียบร้อยแล้ว (บ้านเดี่ยวทางธ.กรุงไทยจัดการให้ รวดเร็วและเรียบร้อยมากๆ เสียดายที่เค้าไม่สามารถทำอาคารพานิชย์ให้ผมได้) เหลือแต่อาคารพานิชย์ ด้วยความที่จะเอาสะดวก ดังนั้นจึงลองโทรกลับไปหาผู้การธ.กรุงศรีคนเดิมดูว่าให้เข้ามาประเมินใหม่ เพราะทำเรื่องผ่านไปรอบนึงแล้ว รู้เรื่องหมดแล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก บวกกับตอนนี้ผมพร้อมเรื่องเงินแล้ว ต่อให้อนุมัติเท่าเดิมก็ไม่มีปัญหา
ซึ่งทางผู้การก็ขอเอกสารต่างๆ ผมก็จัดการให้ครบถ้วนอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ผมส่งเอกสารไปเสร็จเรียบร้อย การติดต่อครั้งสุดท้ายจากผู้การคือ ให้เซ็นต์บูโรเพิ่มอีกที ของเดิมเค้าทำผิด
และไม่มีการติดต่อใดๆอีกเลยจนถึงวันนี้
ส่วนเจ้าหน้าที่ประเมิน เข้ามาหลังจากเอกสารครบประมาณ 1 สัปดาห์ (ช่วงกลางเดือนธันวาคม) และไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
วันนั้นไม่มีคนอยู่บ้านเลย ซึ่งมีบทสนทนาสั้นๆทางโทรศัพท์ตามนี้ครับ
จนท.ประเมิน "ผมเห็นประวัติที่นี่เคยประเมินแล้วนี่ ข้างในเหมือนเดิมไหม?"
ผม "เหมือนเดิมครับ ทุกอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง จะดูไหมครับ ถ้าดู ผมรบกวนรอสักพักนึง จะให้ญาติวิ่งไปเปิดให้"
จนท.ประเมิน "ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมถ่ายแค่ข้างนอกอย่างเดียวพอ มันไม่มีอะไรแตกต่าง อธิบายได้ครับ"
ผม "โอเคครับ รบกวนด้วยนะครับ"
นี่คือบทสนทนาสุดท้ายระหว่างผมกับธ.กรุงศรี
ผมก็คิดว่าคงเป็นเพราะช่วงปีใหม่ เคสเยอะ คงยังทำไม่ทัน
วันนี้ 7 ม.ค. 57 มีธุระเข้าไปที่สาขานี้พอดี เสร็จธุระแล้วเลยแวะเข้าไปที่สาขา ถามหาผู้การ
ปรากฎผู้การไม่อยู่ ก็มีจนท.คนอื่นมารับแทนให้ ก็เปิดหน้าจอคอมเช็คข้อมูลและแจ้งผมว่า
จนท. "เคสนี้ถูกปิดไปแล้วค่ะ เนื่องจากสภาพภายในไม่ใช่ที่อยู่อาศัย"
ผม "อ้าว ไม่เห็นมีแจ้งมาเลยครับ แล้วมันไม่ใช่ที่อยู่อาศัยยังไง"
จนท. "ถ้าดูจากระบบเค้าแจ้งไว้แค่นี้ค่ะ" (ไม่ได้พยายามที่จะติดต่อกับผู้การ หรือหาทางออกให้ลูกค้าเล๊ยยยย)
ผม "ก็แล้วตอนต้นปีอนุมัติไปแล้ว ทำไมปลายปีบอกไม่อนุมัติล่ะครับ"
จนท. "เหมือนกับว่าลูกค้าแจ้งว่าไม่สะดวกให้ถ่ายภาพภายในบ้านค่ะ"
ผม "อ้าว ก็จนท.ประเมินบอกว่าถ้าเหมือนเดิมเค้าไม่ถ่ายนี่ครับ ผมผิดหรอ?"
จนท. "เปล่าค่ะ แต่ถ้าภายในไม่ได้มีการกั้นห้อง ตกแต่งเป็นที่อยู่อาศัย จะไม่สามารถกู้ได้ค่ะ ขัดกับ policy ของธ."
ผม "แต่ตอนต้นปีอนุมัติไปแล้วนะครับ policy คุณเปลี่ยนระหว่างปีด้วยหรอ?"
จนท. "เปล่าค่ะ แต่ policy เป็นแบบนี้จริงๆ"
ผมเริ่มหัวเสียกับการตอบคำถามของจนท.คนนี้จริงๆ จนเธอบอกว่า ขอต่อสายหาผู้การดีกว่า
คุยซักพักนึง เธอก็ยื่นโทรศัทพ์ให้ผม และบอกว่าผู้การอยู่ในสาย
ผู้การ "สวัสดีค่ะคุณ(ผมเอง) พี่ตามให้แล้วนะ แต่ไม่อนุมัติเพราะอย่างที่เคยแจ้งไปว่าพอไม่กั้นห้อง มันก็ไม่เหมือนบ้าน เลยไม่ผ่าน แต่เรื่องวงเงินกู้ไม่ได้ติดอะไรนะ"
ผม "ที่บอกว่า อย่างที่เคยแจ้งไป นี่บอกผมตอนไหนหรอครับ? ผมคุยกับพี่ครั้งสุดท้ายคือพี่ขอให้ผมเซ็นต์บูโรใหม่เลยนะครับ"
ผู้การ "อ่อค่ะ พอดีว่าเห็นว่าเป็นช่วงข้ามปีด้วย แล้วมันก็ติดเรื่องประเมินไม่ผ่านด้วยก็เลยไม่ได้แจ้งไปค่ะ"
ผม "อ้าว พอไม่ผ่านก็ไม่ต้องแจ้งเลยหรอครับ แล้วให้ผมรอถึงเมื่อไรครับ นี่ถ้าผมไม่เข้ามาวันนี้ ผมจะได้รู้ไหมครับ?"
ผู้การ "ต้องขอโทษด้วยละกันนะคะ ที่ไม่ได้แจ้งไป"
ผม "แล้วทำไมตอนต้นปีอนุมัติได้ ตอนนี้อนุมัติไม่ได้ครับ"
ผู้การ "ทางพี่ดูให้ได้แค่เรื่องวงเงิน ความสามารถในการกู้ ผ่อนชำระนะคะ ไม่สามารถทราบไปถึงฝั่งอนุมัติได้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
จบตรงนี้ ผู้การก็ไม่มีเหตุผลใดๆเพิ่มเติมให้แล้ว
ซึ่งผมเองก็พูดไม่ออกกับการกระทำของผู้การและจนท.ในสาขานี้จริงๆ
ฝากเป็น 1 ประสบการณ์ที่ผมพบเจอจากธ.นี้ สาขานี้แล้วกันครับ
ไม่ได้มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อดิสเครดิตใคร เรื่องจริงล้วนๆครับ
บอกตามตรงว่าวันนี้หัวเสียมากจริงๆ เรื่องของเรื่องถ้าผู้การแจ้งผม ติดตามงานให้ผม แต่สุดท้ายไม่ผ่านเนี่ย
ผมจะไม่ติดใจอะไรหรอกครับ แต่นี้เล่นแถเอาดื้อๆเลย
ลาขาดครับ ธ.กรุงศรีอยุธยา...