ที่ขึ้นหัวข้อมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเอาด้านไม่ดีของพ่อตัวเองมาประจานนะครับ
เพียงแต่ว่า จขกท. ดูละครซิทคอม ตอนที่ 270 อู๊ดรับไม่ได้ แล้วมีฉากที่ พี่อู๊ดเป็นต่อตัดหนังยางลูก นาทีที่ 29.30 น พอผมเห็นแล้ว มันมีความคิดแว๊บขึ้นมาในหัวสมอง ว่าตอนเราเด็กๆ เราก็เคยโดนพ่อทำร้ายจิตใจ ในทำนองนี้มาก่อน
เรื่องของผมที่โดนพ่อตัวเองทำร้ายจิตใจก้มีอยู่ไม่กี่เรื่องนะครับ จะเล่าประมาณ ดังนี้
1. รถแข่งทามิยา
หลังจากเลิกเรียน ด้วยความเป็นเด็กก็เลยกลับมาบ้านหลังเลิกเรียนแล้วมันก้อยากมาเล่น ก้ไปหยิบออกมาเล่น แต่เสียงมอเตอร์รถมันดังมาก บ้านผมเป็นบ้าน 2 ชั้นตอนนั้นพ่ออยู่ใต้ถุนบ้านตอนนั้นน้องผมก็ยังเล็ก ประมาณ 1 ขวบกว่าๆก็นอนหลับ พ่อก็ไกวเปลอยู่ใต้ถุนบ้าน ผมอยู่ชั้นบน ก็ได้หยิบรถออกมาเล่นเสียงดัง พ่อโมโหมากที่ทำเสียงดัง จับรถของเล่นของผม ปาเข้าไปอัดกับฝาบ้าน เศษรถแตกกระจายเป้นเสี่ยงๆ ต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นผมน้ำตาไหลเลยครับ เพราะเป็นรถที่ออมเงินค่าขนมอย่างลำบากไปซื้อมา
2.กระเพาะปลา
วันนั้นเป็นวันเสาร์แถวบ้านมีตลาดนัด ผมก็เป็นคนชอบกินกระเพาะปลามาก อันนี้รู้ทั้งบ้านครับ พ่อ แม่ น้อง และผมได้ไปตลาดกับพ่อไปซือมาด้วยเงินของตนเอง แต่พอกลับมาถึงบ้าน จำไม่ได้ว่าทะเลาะกับพ่อเรื่องอะไรไม่รู้ จำได้ลางๆว่า ผมพูดอะไรสักอย่างนี่ยละ ทำนองออกความเห็นและพ่อก็ไม่เห็นด้วย พ่อโมโหมาก หยิบถุงกระเพาะปลาของผม ที่อยู่บนโต๊ะกินข้าว หยิบกระเพาะปลาออกมา ปาลงพื้นครัว ต่อหน้าต่อตาผมเลยครับ ผมหันหลังเดินออกไปโดยมีเศษกระเพาะปลาติดเท้าอยู่ เพราะพ่อปาลงมา ตรงเท้าผมเลย ตอนนั้นหัวใจผมมันชามากๆเลย ไม่คิดเลยว่า เวลาที่พ่อผมโมโห ชอบเอาของที่เป็นของผม มาทำลายต่อหน้าผม ให้ผมได้เห็นเเละน้ำตาตกในหัวใจ
3.โน๊ตบุ๊กเครื่องแรก
โน๊ตบุ๊กเครื่องนี้ ลุง(พี่ชายของแม่)เป็นคนซื้อให้ครับ ลุงเห็นว่าผมเรียนใกล้จบ มอ.ปลายแล้ว เลยอยากให้ผมฝักใฝ่ไปในทางใดทางหนึ่ง เป็นแนวทางการเรียนมหาลัยต่อไปว่า ชอบเรียนเกี่ยวกับอะไร ถนัดชื่นชอบอะไร ลุงผมส่งเสริมด้านการเรียนเต็มที่ อ่ะเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนั้นหลังเลิกเรียนครับ ผมก็กลับมาบ้านตามปกติ กฏของบ้านคือ ลูกคนไหนกลับมาบ้านเป้นคนเเรกต้องเป็นคนหุงข้าว อันนี้ปฏิบัติกันมานาน เย็นวันนั้นผมกลับมาเป็นคนที่ 2 ครับ เพราะน้องชายผม ที่อายุอ่อนกว่า 5 ปี กลับมาก่อน ผมก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ผมกลับมาผมเห็นน้องนั่งเล่นเกม Counter-Strike อย่างเมามัน ผมเลยถามไปว่า "เอ็งกลับมาก่อน เอ็งไปหุงข้าวยัง เด๊ยวข้าวไม่ทันสุกก่อนแม่จะกลับมาจากตลาด" น้องผมก็บอกว่า "ยัง ยังไม่ได้หุงเลย เอ็งนั่นแหละกลับมาแล้ว เอ็งก็ไปหุงซิ กูจะเล่นเกม " โห ผมได้ยินคำนี้ ผมโมโหมากเลยครับ ผมเดินเข้าไป พับฝาโน๊ตบุ๊กปิดทันทีเลย ผมบอกว่า "ไปหุงข้าวก่อน แล้วค่อยมาเล่น" แต่น้องผมไม่เป็นอย่างนั้น น้องผมมันก็ โวยวายเสียงดังลั่น ผมเลยดึงเข็มขัด นร.ผมออกมา ฟาดไปกลางหลังมันเลยครับ เพราะอารมณ์ตอนนั้นผมโมโหกับคำพูดน้องมาก น้องมันร้องลั่นบ้าน ตอนนั้นพ่อผมอยู่ข้างบ้าน กำลังขุดดินอยู่เพื่อปลูกอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่ได้สนใจ พอขึ้นมาบนบ้านทันที พ่อเดินเข้ามาหาผม เขาถามว่า "โน๊ตบุ๊ก มีปัญหามากใช่ไหม " พ่อผมเดินมาหยิบโน๊ตบุ๊กของผมกำลังจะทุ่มลงพื้น ผมร้องลั่นสุดเสียงว่า "อย่าาาาาาาาาาา........." พ่อชะงักไป เหมือนเขาคิดได้ว่า โน๊ตบุ๊กเครื่องนี้ราคาแพง ตอนนั้นก็ประมาณ 24,000 บาทเลยนะครับ พอวางโน๊ตบุ๊กลง หันไปคว้าเม้าไร้สายของผม ปาเข้าข้างฝาบ้าน ภาพเดินแว๊บเข้ามาในหัวอีกแล้วเหมือนรถแข่งทามิย่าเราเลย ชิ้นส่วนกระจายเลยครับ ผมเลยรีบเก็บโน๊ตบุ๊กเข้าห้องนอนตัวเอง นอนร้องไห้อยู่ 3 ชม จนแม่เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง พอเสร็จแล้วผมก็เก็บเสื้อผ้า นร. ใส่กระเป๋าหนีไปนอนบ้านเพื่อน 1 อาทิตย์ครับ โทรศัพท์มือถือของผมก็ไม่ได้เอาไปด้วย แม่ผมตามหาผมทั่วตำบลเลยครับ แต่ผมหนีออกจากบ้านข้ามจังหวัด แบบว่าอยู่กันคนละจังหวัดเลย เงินมีติดตัวอยู่ 40บาท อาศัยเดินเท้าริมถนนรถไปเรื่อยๆ จนถึงบ้านเพื่อน ก็ประมาณ 10 กิโลได้ เพราะหมู่บ้าน ใน ตจว. มันห่างกันครับ
* ผมไม่ได้เอาความไม่ดีของคนในครอบครัวมาประจานนะครับ แค่อยากเล่าประสบการณ์ที่ถูกทำร้ายจิตใจมาตลอด ผมไม่รู้ว่า เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับผมคนเดียวหรือไม่
** ถ้าเพื่อนๆ พันทิปคนใด มีเรื่องราวคล้ายๆกับผม มาเล่ามาแชร์ให้อ่านกันก็ได้นะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
เพื่อนๆ พันทิป เคยโดนคุณพ่อของตัวเองทำร้ายจิตใจอย่างไรบ้าง ?
เพียงแต่ว่า จขกท. ดูละครซิทคอม ตอนที่ 270 อู๊ดรับไม่ได้ แล้วมีฉากที่ พี่อู๊ดเป็นต่อตัดหนังยางลูก นาทีที่ 29.30 น พอผมเห็นแล้ว มันมีความคิดแว๊บขึ้นมาในหัวสมอง ว่าตอนเราเด็กๆ เราก็เคยโดนพ่อทำร้ายจิตใจ ในทำนองนี้มาก่อน
เรื่องของผมที่โดนพ่อตัวเองทำร้ายจิตใจก้มีอยู่ไม่กี่เรื่องนะครับ จะเล่าประมาณ ดังนี้
1. รถแข่งทามิยา
หลังจากเลิกเรียน ด้วยความเป็นเด็กก็เลยกลับมาบ้านหลังเลิกเรียนแล้วมันก้อยากมาเล่น ก้ไปหยิบออกมาเล่น แต่เสียงมอเตอร์รถมันดังมาก บ้านผมเป็นบ้าน 2 ชั้นตอนนั้นพ่ออยู่ใต้ถุนบ้านตอนนั้นน้องผมก็ยังเล็ก ประมาณ 1 ขวบกว่าๆก็นอนหลับ พ่อก็ไกวเปลอยู่ใต้ถุนบ้าน ผมอยู่ชั้นบน ก็ได้หยิบรถออกมาเล่นเสียงดัง พ่อโมโหมากที่ทำเสียงดัง จับรถของเล่นของผม ปาเข้าไปอัดกับฝาบ้าน เศษรถแตกกระจายเป้นเสี่ยงๆ ต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นผมน้ำตาไหลเลยครับ เพราะเป็นรถที่ออมเงินค่าขนมอย่างลำบากไปซื้อมา
2.กระเพาะปลา
วันนั้นเป็นวันเสาร์แถวบ้านมีตลาดนัด ผมก็เป็นคนชอบกินกระเพาะปลามาก อันนี้รู้ทั้งบ้านครับ พ่อ แม่ น้อง และผมได้ไปตลาดกับพ่อไปซือมาด้วยเงินของตนเอง แต่พอกลับมาถึงบ้าน จำไม่ได้ว่าทะเลาะกับพ่อเรื่องอะไรไม่รู้ จำได้ลางๆว่า ผมพูดอะไรสักอย่างนี่ยละ ทำนองออกความเห็นและพ่อก็ไม่เห็นด้วย พ่อโมโหมาก หยิบถุงกระเพาะปลาของผม ที่อยู่บนโต๊ะกินข้าว หยิบกระเพาะปลาออกมา ปาลงพื้นครัว ต่อหน้าต่อตาผมเลยครับ ผมหันหลังเดินออกไปโดยมีเศษกระเพาะปลาติดเท้าอยู่ เพราะพ่อปาลงมา ตรงเท้าผมเลย ตอนนั้นหัวใจผมมันชามากๆเลย ไม่คิดเลยว่า เวลาที่พ่อผมโมโห ชอบเอาของที่เป็นของผม มาทำลายต่อหน้าผม ให้ผมได้เห็นเเละน้ำตาตกในหัวใจ
3.โน๊ตบุ๊กเครื่องแรก
โน๊ตบุ๊กเครื่องนี้ ลุง(พี่ชายของแม่)เป็นคนซื้อให้ครับ ลุงเห็นว่าผมเรียนใกล้จบ มอ.ปลายแล้ว เลยอยากให้ผมฝักใฝ่ไปในทางใดทางหนึ่ง เป็นแนวทางการเรียนมหาลัยต่อไปว่า ชอบเรียนเกี่ยวกับอะไร ถนัดชื่นชอบอะไร ลุงผมส่งเสริมด้านการเรียนเต็มที่ อ่ะเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนั้นหลังเลิกเรียนครับ ผมก็กลับมาบ้านตามปกติ กฏของบ้านคือ ลูกคนไหนกลับมาบ้านเป้นคนเเรกต้องเป็นคนหุงข้าว อันนี้ปฏิบัติกันมานาน เย็นวันนั้นผมกลับมาเป็นคนที่ 2 ครับ เพราะน้องชายผม ที่อายุอ่อนกว่า 5 ปี กลับมาก่อน ผมก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ผมกลับมาผมเห็นน้องนั่งเล่นเกม Counter-Strike อย่างเมามัน ผมเลยถามไปว่า "เอ็งกลับมาก่อน เอ็งไปหุงข้าวยัง เด๊ยวข้าวไม่ทันสุกก่อนแม่จะกลับมาจากตลาด" น้องผมก็บอกว่า "ยัง ยังไม่ได้หุงเลย เอ็งนั่นแหละกลับมาแล้ว เอ็งก็ไปหุงซิ กูจะเล่นเกม " โห ผมได้ยินคำนี้ ผมโมโหมากเลยครับ ผมเดินเข้าไป พับฝาโน๊ตบุ๊กปิดทันทีเลย ผมบอกว่า "ไปหุงข้าวก่อน แล้วค่อยมาเล่น" แต่น้องผมไม่เป็นอย่างนั้น น้องผมมันก็ โวยวายเสียงดังลั่น ผมเลยดึงเข็มขัด นร.ผมออกมา ฟาดไปกลางหลังมันเลยครับ เพราะอารมณ์ตอนนั้นผมโมโหกับคำพูดน้องมาก น้องมันร้องลั่นบ้าน ตอนนั้นพ่อผมอยู่ข้างบ้าน กำลังขุดดินอยู่เพื่อปลูกอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่ได้สนใจ พอขึ้นมาบนบ้านทันที พ่อเดินเข้ามาหาผม เขาถามว่า "โน๊ตบุ๊ก มีปัญหามากใช่ไหม " พ่อผมเดินมาหยิบโน๊ตบุ๊กของผมกำลังจะทุ่มลงพื้น ผมร้องลั่นสุดเสียงว่า "อย่าาาาาาาาาาา........." พ่อชะงักไป เหมือนเขาคิดได้ว่า โน๊ตบุ๊กเครื่องนี้ราคาแพง ตอนนั้นก็ประมาณ 24,000 บาทเลยนะครับ พอวางโน๊ตบุ๊กลง หันไปคว้าเม้าไร้สายของผม ปาเข้าข้างฝาบ้าน ภาพเดินแว๊บเข้ามาในหัวอีกแล้วเหมือนรถแข่งทามิย่าเราเลย ชิ้นส่วนกระจายเลยครับ ผมเลยรีบเก็บโน๊ตบุ๊กเข้าห้องนอนตัวเอง นอนร้องไห้อยู่ 3 ชม จนแม่เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง พอเสร็จแล้วผมก็เก็บเสื้อผ้า นร. ใส่กระเป๋าหนีไปนอนบ้านเพื่อน 1 อาทิตย์ครับ โทรศัพท์มือถือของผมก็ไม่ได้เอาไปด้วย แม่ผมตามหาผมทั่วตำบลเลยครับ แต่ผมหนีออกจากบ้านข้ามจังหวัด แบบว่าอยู่กันคนละจังหวัดเลย เงินมีติดตัวอยู่ 40บาท อาศัยเดินเท้าริมถนนรถไปเรื่อยๆ จนถึงบ้านเพื่อน ก็ประมาณ 10 กิโลได้ เพราะหมู่บ้าน ใน ตจว. มันห่างกันครับ
* ผมไม่ได้เอาความไม่ดีของคนในครอบครัวมาประจานนะครับ แค่อยากเล่าประสบการณ์ที่ถูกทำร้ายจิตใจมาตลอด ผมไม่รู้ว่า เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับผมคนเดียวหรือไม่
** ถ้าเพื่อนๆ พันทิปคนใด มีเรื่องราวคล้ายๆกับผม มาเล่ามาแชร์ให้อ่านกันก็ได้นะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์