สรุปเรื่อง Air inverter กับ Eco ตามที่ผมเข้าใจ แบบนี้ถูกต้องไหมครับ???

หาข้อมูลในเน็ตมาพักนึงละ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันเยอะดีจัง  ตอนนี้ผมใช้ Air Eco ของ LG มา 3-4 ปีแล้วครับ อยากเปลี่ยน Air ใหม่ เพราะจะย้ายห้องนอนใหม่ไปยังอีกห้องที่กว้างขึ้นกว่าเดิม  แต่พอหาข้อมูลสักพัก บ้างก็บอกว่า Inverter ถ้าเปิดไม่นานมันก็ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟอะไรมากเท่าไหร่ แบบที่ในโฆษณาบอกประหยัด 40-60% นั้นเว่อร์?  เพราะข้อดีของระบบนี้มันแค่
1. ทำให้อุณภูมิคงที่
2. เสียงเงียบ
3. เปิดนานๆ จะประหยัดไฟ

ข้อเสียคือ
1. เย็นไม่ฉ่ำ
2. หากพังแล้วเสียค่าซ่อมแพงเพราะตัวระบบซับซ้อน

แถมราคาส่วนต่างระหว่าง inverter กับ Ego มันต่างกันถึง 10,000 บาท ขึ้นไป

คำถามที่ 1  ทั้งหมดนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ?????

และคำถามที่ 2 รบกวนเพื่อนๆ สมาชิกช่วยแนะนำหน่อยครับว่า ผมควรคิดแอร์แบบไหนดีครับ?
โดย Style การใช้งานของผมคือ
1. วันธรรมดา เปิด 10-11 ชม. ช่วงเวลาที่เปิด 20:00 น. - 07:00 น. โดยประมาณ
2. วันเสาร์ - อาทิตย์  เปิด 12-13 ชม.  21:00 น. - 09:00 น. โดยประมาณ

ขอบคุณครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คุณคห. 2 นี่เล่นมุขใช่มั้ยครับ แอร์รุ่น Eco ความจริงแปรว่ารุ่นประหยัดครับ คือรุ่นที่ถูกที่สุดในไลน์ ส่วนมากจะไม่มีลูกเล่นอะไร ทำความเย็นอย่างเดียวแต่แอร์ที่ใช้ระบบปรกตินั้นไม่ได้มีแต่รุ่น Eco มีรุ่นอื่นๆที่อาจเพิ่มฟังชั่นการใช้งานเช่นกรองอากาศ ระบบอัจริยะบลาๆครับ

ส่วน inverter จริงๆเป็นชื่อระบบครับ มีหลายรุ่นเช่นกัน ตั้งแต่ทำความเย็นอย่างเดียว และรุ่นที่เพิ่มความสามารถเช่นกรองอากาศบลาๆ

ส่วน inverter นั้นไม่ใช่ว่ามันกลับร้อนเป็นเย็นเช่นนั้นครับ คือคุณต้องเข้าใจก่อนว่าปรกติมอเตอร์ที่เราเอามาทำ compressor นั้นเป็นมอเตอร์กระแสสลับที่เราเรียกว่าSynchronous motor  ซึ่งรอบมันจะคงที่ครับเพราะรอบมันจะถูกกำหนดโดยความถี่ของไฟฟ้าที่เราป้อน ซึ่งในบ้านเราคือ 50 hz รอบมันก็จะเป็นจำนวนเท่าของความถี่ ดังนั้นเมื่อเวลาคอมแอร์ทำงานมันจะทำงานที่ความเร็วคงสูงสุดครับ หรือพูดง่ายๆว่ามันทำงาน 100% ตลอด  ดังนั้นการทำงานของแอร์ประเภทนี้คือ แอร์จะทำงาน 100% จนกระทั่ง ได้ความเย็นที่ตัองการแล้วจะตัด คือหยุดทำงานไป จนอุณหภูมิสูงขึ้น จึงกลับทำงานใหม่ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมแอร์ประเภทนี้จึงเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวดัง เดี๋ยวเงียบ (เพราะเวลาทำงาน 100%) นอกจากนั้นการที่คอมต้องเปิดปิดบ่อยๆนั้นจะเกิดการกระชากของไฟ จึงทำให้ถ้าห้องที่เราอยู่อุณภูมิเปลี่ยนบ่อยๆแอร์ประเภทนี้จะกินไฟมากกว่า (แต่ถ้าอุณภูมิค่อนข้างคงที่แอร์ไม่ตัดบ่อย ก็จะไม่ต่างกันมากครับ)

ส่วนแอร์อินเวอร์เตอร์นั้นจะต่างกันที่แทนที่เราจะเอาไฟบ้านความถี่ 50 Hz ยัดไปตรงๆ เราเอามันมาทำเป็นไฟกระแสตรงก่อน แล้วค่อยเอาไฟกระแสตรงนั้นกลับมาทำเป็นกระแสสลับอีกครั้ง(ตรงนี้เป็นที่มาของคำว่า inverter ครับ อินเวอร์เตอร์จริงๆในทางไฟฟ้าคืออุปกรณ์แปลงไฟตรงเป็นสลับ)โดยการแปลงกลับนี้เราสามารถเลือกความถี่ได้ ทำให้เราสามารถเร่งรอบของมอเตอร์ได้ครับ ส่งผลให้เราสามารถควบคุมการทำงานของคอมได้ครับ คือช่วงเปิดใหม่ๆก็เร่งคอม เมื่ออุณภูมิได้แล้วก็แค่ลดการทำงานคอมรักษาอุณหภูมิเฉยๆ ดังนั้นแอร์ประเภทนี้อุณภูมิจะคงที่ และเนื่องจากแอร์ไม่ตัดบ่อย จึงไม่ได้เสียกำลังไฟฟ้าตอนคอมเริ่มทำงานใหม่ (แต่ไปเสียที่ระบบ inverter แต่โดยรวมก็ประหยัดกว่าครับ)

ส่วนคำว่าไม่เย็นช่ำนั้นจะว่าไปจริงๆนั้นก็ใช่และไม่ใช่ครับ เพราะอย่างที่บอกแอร์ธรรมดาเวลาทำงานคอมจะทำ 100% ดังนั้นลมที่ออกตอนคอมทำงานจะเย็นมาก ดังนั้นถ้าคุณไปโดนลมจังๆจะรู้สึกเย็นมาก และแอร์มักจะทำงานจนต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ 1-2 องศาก่อนตัด ในขณะที่แอร์อินเวอร์เตอร์นั้นลมที่ออกจะเย็นแค่ในระดับที่พอรักษาอุณภูมิไว้ เมื่อโดนตัวจึงไม่รู้สึกเย็นมาก ในขณะที่อุณภูมิในห้องทั่วไปจะเท่ากับที่เราตั้งพอดี ดังนั้นถ้าเทียบกัน ตั้งอุณหภูมิเท่ากันแอร์ระบบธรรมดาจะมีช่วงที่เย็นกว่า 1-2 องศา(และจริงๆก็จะมีช่วงทีร้อนกว่า) ดังนั้นคนที่ไม่เคยชินระบบจะรู้สึกว่ามันไม่เย็นเท่า(เมื่อตั้งอุณหภูมิเท่าที่เราเคยตั้ง) ซึ่งจริงๆปัญหานี้ง่ายมาก คือตั้งอุณหภูมิให้ต่ำลงกว่าที่เคยตั้ง มันก็เย็นฉ่ำแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่