โดดเด่น ที่โน่น-ไม่ใช่ที่นี่ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 1 มติชนออนไลน์

วันส่งท้ายปีเก่า 2556
พม่าประกาศว่า พม่าเป็นประเทศที่ปลอดนักโทษการเมืองแล้ว
เพราะอภัยโทษ ให้กับนักโทษการเมืองชุดสุดท้ายในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามคำประกาศของ ประธานาธิบดี พลเอก เต็ง เส่ง
ที่บอกว่าจะคืนอิสรภาพให้กับนักโทษการเมืองทั้งหมด ภายในปี 2556
อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศที่พม่าดำเนินการต่อเนื่องมา 3 ปี
ขีดเส้นใต้คำ การปฏิรูปประเทศ ไว้สักนิด
และต่อมาเมื่อ 2 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศ ร่วมใจกันเสนอความคืบหน้า
ในการปฏิรูปประชาธิปไตยของพม่า อีกครั้ง
ขีดเส้นใต้ การปฏิรูปประชาธิปไตยของพม่า ไว้อีกเส้น
พลเอก เต็ง เส่ง ให้สัมภาษณ์ว่า จะสนับสนุนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าจะสมรสกับชาวต่างชาติ หรือมีบุตรถือ
สัญชาติประเทศอื่น สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของพม่าได้
ถือเป็นความก้าวหน้า อีกขั้นในการปฏิรูปประเทศของพม่า ซึ่งเคยถูกการปกครอง
แบบเผด็จการรัฐบาลทหารครอบงำ มานานกว่า 50 ปี
"ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่แข็งแรงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของสังคม เศรษฐกิจ และประเทศชาติ
ผมไม่อยากให้กฎเกณฑ์ที่มีอยู่ขัดกับสิทธิพึงมีของประชาชนในการก้าว
ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ"
นั่นคือสิ่งที่ พลเอก เต็ง เส่ง ให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์นิวไลต์ ออฟ เมียนมาร์
พูดง่ายๆ คือ พลเอก เต็ง เส่ง พร้อมจะยกเลิกข้อบังคับที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกีดกัน
คู่แข่งทางการเมือง ของตนเองและรัฐบาล คือนางออง ซาน ซูจี หัวหน้า
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่แต่งงานกับนายไมเคิล อริส
นักเขียนชาวอังกฤษ และลูกชายทั้ง 2 คน ที่ถือสัญชาติอังกฤษ นั่นเอง
แล้วเปิดทางให้นางออง ซาน ซูจี มีสิทธิสมัครชิงประธานาธิบดี
ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2558
ซึ่ง พล.อ.เต็ง เส่ง ก็น่าจะรู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร
แต่ก็เดินหน้าไป
เดินหน้าไปสู่การ ปฏิรูปประเทศพม่า ที่จงใจเน้นให้ขีดเส้นใต้นั่นแหละ
ต้องยอมรับว่า พล.อ.เต็ง เส่ง ใจใหญ่ จริงๆ
เช่นเดียวกับ ออง ซาน ซูจี นี่คือบำเหน็จรางวัลแห่ง คนยังคง ยืนเด่น
โดยท้าทาย อันงดงาม
การยืนหยัดท้าทายเผด็จการทหารของเธอ ในที่สุด ก็ผลิดอกออก
ใบให้คนทั่วโลกได้เห็น
ซึ่งถ้าหากแนวทางปฏิรูปของพม่าขับเคลื่อนไปเช่นนี้
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประชาธิปไตยพม่าที่ติดหล่มมา 50 ปี อาจจะแซงหน้า
ประเทศไทยที่พร่ำบ่น ปฏิรูปประเทศ เหมือนๆ กันไปก็ได้
เพราะวันนี้เรายังไม่รู้ว่า การยืนเด่นโดยท้าทาย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพื่อที่จะประคับประคองให้ ประชาธิปไตย เดินหน้าต่อไปอย่างไร
จะกระ

กระสนไปต่อได้อีกมากน้อยแค่ไหน
จะม้วยมรณาตามการปิดประเทศ ในวันที่ 13 มกราคม ของ มวลมหาประชาชน
ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลยหรือไม่ ก็คาดเดาไม่ถูก
เช่นเดียว จะมีการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์หรือไม่ ก็ไม่มีใครยืนยัน
จะมี สถานการณ์กำหนด ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำปฏิวัติ
หรือเปล่า ก็ทายใจไม่ออกเช่นกัน
และถ้านายสุเทพ ชนะ!!
ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่า ประเทศจะถูกนำพาไปทางไหน
ที่ว่า ปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปอย่างไร
จะนำไปสู่ความหวัง อย่างที่พม่าทำให้เห็นหรือไม่ บอกไม่ได้จริงๆ
โดยส่วนตัว คงไม่ได้ร่วมฝันไปกับมวลมหาประชาชน ถึง ฟ้าสีทอง อย่างแน่นอน
เพราะข้างหน้าในความรู้สึก ทำไมเห็น ฟ้าดำ นักก็ไม่รู้
(ที่มา:มติชนรายวัน 6 มกราคม 2557)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388995959&grpid=&catid=02&subcatid=0207
พม่าเปิดประเทศ ต้อนรับการเป็นประชาธิปไตย นิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ทั้งหมด
แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อความเป็นประชาธิปไตย
แต่เราเป็นประชาธิปไตย อยู่แล้ว ปิดกรุงเทพ ขับไล่รัฐบาล ที่มาจาการเลือกตั้ง
เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ขัดขวางการเลือกตั้ง
ประชาธิปไตย กำลังโดดเด่นที่นั่น แต่ไม่ใช่ที่นี่ ประเทศไทย
ปฏิรูปประเทศ หนทางข้างหน้า ฟ้าสีทองผ่องอำไพ หรือ ฟ้าดำ ... มติชนออนไลน์
วันส่งท้ายปีเก่า 2556
พม่าประกาศว่า พม่าเป็นประเทศที่ปลอดนักโทษการเมืองแล้ว
เพราะอภัยโทษ ให้กับนักโทษการเมืองชุดสุดท้ายในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามคำประกาศของ ประธานาธิบดี พลเอก เต็ง เส่ง
ที่บอกว่าจะคืนอิสรภาพให้กับนักโทษการเมืองทั้งหมด ภายในปี 2556
อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศที่พม่าดำเนินการต่อเนื่องมา 3 ปี
ขีดเส้นใต้คำ การปฏิรูปประเทศ ไว้สักนิด
และต่อมาเมื่อ 2 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศ ร่วมใจกันเสนอความคืบหน้า
ในการปฏิรูปประชาธิปไตยของพม่า อีกครั้ง
ขีดเส้นใต้ การปฏิรูปประชาธิปไตยของพม่า ไว้อีกเส้น
พลเอก เต็ง เส่ง ให้สัมภาษณ์ว่า จะสนับสนุนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าจะสมรสกับชาวต่างชาติ หรือมีบุตรถือ
สัญชาติประเทศอื่น สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของพม่าได้
ถือเป็นความก้าวหน้า อีกขั้นในการปฏิรูปประเทศของพม่า ซึ่งเคยถูกการปกครอง
แบบเผด็จการรัฐบาลทหารครอบงำ มานานกว่า 50 ปี
"ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่แข็งแรงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของสังคม เศรษฐกิจ และประเทศชาติ
ผมไม่อยากให้กฎเกณฑ์ที่มีอยู่ขัดกับสิทธิพึงมีของประชาชนในการก้าว
ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ"
นั่นคือสิ่งที่ พลเอก เต็ง เส่ง ให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์นิวไลต์ ออฟ เมียนมาร์
พูดง่ายๆ คือ พลเอก เต็ง เส่ง พร้อมจะยกเลิกข้อบังคับที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกีดกัน
คู่แข่งทางการเมือง ของตนเองและรัฐบาล คือนางออง ซาน ซูจี หัวหน้า
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่แต่งงานกับนายไมเคิล อริส
นักเขียนชาวอังกฤษ และลูกชายทั้ง 2 คน ที่ถือสัญชาติอังกฤษ นั่นเอง
แล้วเปิดทางให้นางออง ซาน ซูจี มีสิทธิสมัครชิงประธานาธิบดี
ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2558
ซึ่ง พล.อ.เต็ง เส่ง ก็น่าจะรู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร
แต่ก็เดินหน้าไป
เดินหน้าไปสู่การ ปฏิรูปประเทศพม่า ที่จงใจเน้นให้ขีดเส้นใต้นั่นแหละ
ต้องยอมรับว่า พล.อ.เต็ง เส่ง ใจใหญ่ จริงๆ
เช่นเดียวกับ ออง ซาน ซูจี นี่คือบำเหน็จรางวัลแห่ง คนยังคง ยืนเด่น
โดยท้าทาย อันงดงาม
การยืนหยัดท้าทายเผด็จการทหารของเธอ ในที่สุด ก็ผลิดอกออก
ใบให้คนทั่วโลกได้เห็น
ซึ่งถ้าหากแนวทางปฏิรูปของพม่าขับเคลื่อนไปเช่นนี้
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประชาธิปไตยพม่าที่ติดหล่มมา 50 ปี อาจจะแซงหน้า
ประเทศไทยที่พร่ำบ่น ปฏิรูปประเทศ เหมือนๆ กันไปก็ได้
เพราะวันนี้เรายังไม่รู้ว่า การยืนเด่นโดยท้าทาย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพื่อที่จะประคับประคองให้ ประชาธิปไตย เดินหน้าต่อไปอย่างไร
จะกระ
จะม้วยมรณาตามการปิดประเทศ ในวันที่ 13 มกราคม ของ มวลมหาประชาชน
ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลยหรือไม่ ก็คาดเดาไม่ถูก
เช่นเดียว จะมีการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์หรือไม่ ก็ไม่มีใครยืนยัน
จะมี สถานการณ์กำหนด ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำปฏิวัติ
หรือเปล่า ก็ทายใจไม่ออกเช่นกัน
และถ้านายสุเทพ ชนะ!!
ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่า ประเทศจะถูกนำพาไปทางไหน
ที่ว่า ปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปอย่างไร
จะนำไปสู่ความหวัง อย่างที่พม่าทำให้เห็นหรือไม่ บอกไม่ได้จริงๆ
โดยส่วนตัว คงไม่ได้ร่วมฝันไปกับมวลมหาประชาชน ถึง ฟ้าสีทอง อย่างแน่นอน
เพราะข้างหน้าในความรู้สึก ทำไมเห็น ฟ้าดำ นักก็ไม่รู้
(ที่มา:มติชนรายวัน 6 มกราคม 2557)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388995959&grpid=&catid=02&subcatid=0207
พม่าเปิดประเทศ ต้อนรับการเป็นประชาธิปไตย นิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ทั้งหมด
แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อความเป็นประชาธิปไตย
แต่เราเป็นประชาธิปไตย อยู่แล้ว ปิดกรุงเทพ ขับไล่รัฐบาล ที่มาจาการเลือกตั้ง
เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ขัดขวางการเลือกตั้ง
ประชาธิปไตย กำลังโดดเด่นที่นั่น แต่ไม่ใช่ที่นี่ ประเทศไทย