"พงศ์เทพ"สะท้อนท่ามกลางการเมืองขัดแย้งรุนแรงฝ่ายท่านเป็นคนเขียนกติกาเอง พวกผมไม่เคยทำเลย รัฐธรรมนูญปี50ที่พวกท่านยกร่าง นายกฯไม่เกี่ยวเลย
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านทางการเมืองที่ขยับเข้าใกล้คำว่า "สงครามกลางเมือง" เข้าไปทุกที ดูเหมือนทุกฝ่ายจะมีถ้อยคำ วลี ที่เป็นเหตุผลสนับสนุนและอธิบายจุดยืนของฝ่ายตนมากมาย
บางเหตุผลก็พอฟังได้ แต่หลายเหตุผลก็บิดเบือน...
การรู้เท่าทันเหตุผลเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจะรู้เท่าทันได้ ต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานการณ์ ณ ปัจจุบันเสียก่อน
แต่ประวัติศาสตร์ก็มีหลายด้าน หลายมุมมอง วันนี้ลองมาฟังมุมมองของคนในรัฐบาลอย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรับภาระหนักอึ้งในช่วงนี้ ทั้งงานด้านกฎหมายและการปฏิรูปประเทศ
เราไม่เคยร่างกติกา
ประเด็นที่ พงศ์เทพ ตั้งคำถามย้อนกลับก่อนที่จะตอบคำถามแรกเรื่องโมเดล "สภาปฏิรูปประเทศ" ก็คือ เขาไม่รู้ว่า "กติกาการเลือกตั้ง" ที่ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะแกนนำ กปปส. หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องการให้ปฏิรูปและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง ถึงขนาดยอมให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ไม่ได้นั้น หมายถึงอะไรกันแน่ เพราะแกนนำ กปปส.คือผู้ที่ยกร่างกติกาการเลือกตั้งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
"ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า รัฐธรรมนูญปี 50 นั้นพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมยกร่าง นักวิชาการที่ร่วมร่าง ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็มีกติกาการเลือกตั้งด้วย วันนี้นักวิชาการเหล่านั้นบางส่วนก็ขึ้นเวที กปปส. บางส่วนก็อยู่ในองค์กรอิสระ เช่น ท่านจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"
"ตอนที่จะมีการยกร่างก็มีการเชิญผู้แทนพรรคการเมืองไปคุยในลักษณะขอรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้ง ปรากฏว่าพรรคการเมืองทุกพรรคก็เสนอรูปแบบเขตเดียวคนเดียว ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอแบบพวง (เขตใหญ่ 3 คน) ปรากฏว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยกร่างกติกาการเลือกตั้งไปแบบนั้น รวมทั้งระบบบัญชีรายชื่อแบบใหม่ที่ไม่ได้เป็นบัญชีเดียวทั่วประเทศ แต่เป็นแบบสัดส่วนแยกรายภาค"
พงศ์เทพ อธิบายว่า กติกานี้ใช้ในการเลือกตั้ง 1 ครั้ง เมื่อ 23 ธ.ค.50 พรรคพลังประชาชน (พรรคใหม่ของสมาชิกพรรคไทยรักไทย) ก็ชนะการเลือกตั้ง ต่อมามีการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งปี 54 ก็แก้รัฐธรรมนูญ กลับไปใช้ระบบเขตเดียวคนเดียว และในระบบบัญชีรายชื่อก็กลับไปเป็นบัญชีเดียวทั่วประเทศ แต่เพิ่มเป็น 125 คน
"กติกาใหม่นี้เลขาธิการ กปปส. คือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นี่แหละเป็นคนแก้เอง ทีนี้พอมาพูดถึงการปฏิรูประบบเลือกตั้ง ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าจะปฏิรูปอะไร ปฏิรูปไปเป็นแบบไหนอีก เพราะฝ่ายท่านเป็นคนเขียนกติกาทั้งหมด พวกผมไม่เคยทำเลย แม้แต่กติกาการเป็นรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภาเราก็ไม่ได้เป็นคนยกร่าง แต่เป็นรัฐธรรมนูญปี 50 ที่พวกท่านยกร่าง ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย"
"วันนี้คุณสุเทพบอกว่ามีมวลมหาประชาชนสนับสนุนท่าน ถ้าหมายความว่าเป็นเสียงข้างมากที่เห็นด้วยกับท่าน ทำไมกลุ่มของท่านไม่ไปสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง จะได้ชนะเลือกตั้ง จากนั้นท่านจะทำอะไรก็ได้ ปฏิรูปอะไรก็ได้ แต่ก็น่าตั้งคำถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นรัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลชุดนี้ ได้ปฏิรูปอะไรบ้าง วันนี้ท่านบอกปฏิรูปได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ตอนนั้นท่านอยู่ในอำนาจ 2 ปีกว่าเกือบ 3 ปี ก็น่าจะทำเสร็จแล้วสิ"
อ่านต่อ....ที่นี่ครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20131229/552950/%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E:%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-.html
'พงศ์เทพ':คุณร่างกติกาเองแล้วจะปฏิรูปอะไร?
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านทางการเมืองที่ขยับเข้าใกล้คำว่า "สงครามกลางเมือง" เข้าไปทุกที ดูเหมือนทุกฝ่ายจะมีถ้อยคำ วลี ที่เป็นเหตุผลสนับสนุนและอธิบายจุดยืนของฝ่ายตนมากมาย
บางเหตุผลก็พอฟังได้ แต่หลายเหตุผลก็บิดเบือน...
การรู้เท่าทันเหตุผลเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจะรู้เท่าทันได้ ต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานการณ์ ณ ปัจจุบันเสียก่อน
แต่ประวัติศาสตร์ก็มีหลายด้าน หลายมุมมอง วันนี้ลองมาฟังมุมมองของคนในรัฐบาลอย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรับภาระหนักอึ้งในช่วงนี้ ทั้งงานด้านกฎหมายและการปฏิรูปประเทศ
ประเด็นที่ พงศ์เทพ ตั้งคำถามย้อนกลับก่อนที่จะตอบคำถามแรกเรื่องโมเดล "สภาปฏิรูปประเทศ" ก็คือ เขาไม่รู้ว่า "กติกาการเลือกตั้ง" ที่ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะแกนนำ กปปส. หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องการให้ปฏิรูปและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง ถึงขนาดยอมให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ไม่ได้นั้น หมายถึงอะไรกันแน่ เพราะแกนนำ กปปส.คือผู้ที่ยกร่างกติกาการเลือกตั้งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
"ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า รัฐธรรมนูญปี 50 นั้นพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมยกร่าง นักวิชาการที่ร่วมร่าง ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็มีกติกาการเลือกตั้งด้วย วันนี้นักวิชาการเหล่านั้นบางส่วนก็ขึ้นเวที กปปส. บางส่วนก็อยู่ในองค์กรอิสระ เช่น ท่านจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"
"ตอนที่จะมีการยกร่างก็มีการเชิญผู้แทนพรรคการเมืองไปคุยในลักษณะขอรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้ง ปรากฏว่าพรรคการเมืองทุกพรรคก็เสนอรูปแบบเขตเดียวคนเดียว ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอแบบพวง (เขตใหญ่ 3 คน) ปรากฏว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยกร่างกติกาการเลือกตั้งไปแบบนั้น รวมทั้งระบบบัญชีรายชื่อแบบใหม่ที่ไม่ได้เป็นบัญชีเดียวทั่วประเทศ แต่เป็นแบบสัดส่วนแยกรายภาค"
พงศ์เทพ อธิบายว่า กติกานี้ใช้ในการเลือกตั้ง 1 ครั้ง เมื่อ 23 ธ.ค.50 พรรคพลังประชาชน (พรรคใหม่ของสมาชิกพรรคไทยรักไทย) ก็ชนะการเลือกตั้ง ต่อมามีการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งปี 54 ก็แก้รัฐธรรมนูญ กลับไปใช้ระบบเขตเดียวคนเดียว และในระบบบัญชีรายชื่อก็กลับไปเป็นบัญชีเดียวทั่วประเทศ แต่เพิ่มเป็น 125 คน
"กติกาใหม่นี้เลขาธิการ กปปส. คือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นี่แหละเป็นคนแก้เอง ทีนี้พอมาพูดถึงการปฏิรูประบบเลือกตั้ง ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าจะปฏิรูปอะไร ปฏิรูปไปเป็นแบบไหนอีก เพราะฝ่ายท่านเป็นคนเขียนกติกาทั้งหมด พวกผมไม่เคยทำเลย แม้แต่กติกาการเป็นรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภาเราก็ไม่ได้เป็นคนยกร่าง แต่เป็นรัฐธรรมนูญปี 50 ที่พวกท่านยกร่าง ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย"
"วันนี้คุณสุเทพบอกว่ามีมวลมหาประชาชนสนับสนุนท่าน ถ้าหมายความว่าเป็นเสียงข้างมากที่เห็นด้วยกับท่าน ทำไมกลุ่มของท่านไม่ไปสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง จะได้ชนะเลือกตั้ง จากนั้นท่านจะทำอะไรก็ได้ ปฏิรูปอะไรก็ได้ แต่ก็น่าตั้งคำถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นรัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลชุดนี้ ได้ปฏิรูปอะไรบ้าง วันนี้ท่านบอกปฏิรูปได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ตอนนั้นท่านอยู่ในอำนาจ 2 ปีกว่าเกือบ 3 ปี ก็น่าจะทำเสร็จแล้วสิ"
อ่านต่อ....ที่นี่ครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20131229/552950/%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E:%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-.html