SPOIL จ้า
มุมมองของผมหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้
ระหว่างที่หนังกำลังดำเนินไปคุณจะพอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนึง และความรู้สึกนี้มันจะมาเฉลยตอนจบของเรื่อง นั่นก็คือ...คุณค่าของความพยายาม
“หากคุณตั้งใจทำสิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะนานแค่ไหน....คุณก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ”
Walter Mitty ทำหน้าที่ของเขามานานกว่า 16 ปี โดยรับผิดชอบผลงานของ ฌอน โอ คอนเนลล์...และช่างภาพชื่อดังผู้นี้ก็ได้ส่งจดหมายและของขวัญพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพระเอกที่ได้ช่วยทำให้ผลงานของเขาสมบูรณ์.....แต่เนื่องจากเป็นตอนต้นเรื่อง จึงยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่
และมาถึงตอนจบของเรื่องที่ได้เฉลยภาพถ่ายลำดับ 25 ที่ฌอน อยากให้เอาขึ้นหน้าปกนิตยสาร กลับกลายเป็นรูปพระเอก พร้อมกับคำกล่าวขอบคุณถึงความช่วยเหลือที่ผ่านมา....(ฉากนี้ทำน้ำตาไหล ซึ้งจริงครับ คนที่ผ่านมันมาจะเข้าใจดี).....
นี่แหละครับ เมื่อคุณพยายามตั้งใจทำอะไรสักอย่างอย่างเต็มที่ ถึงผลลัพธ์จะออกมาไม่ดี แต่มันมีคุณค่าเสมอครับ
ข้อคิดอีกอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกได้คือ หนังได้สะท้อนคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตครับ...
“Life is about courage and going into the unknown.”
คุณใช้ชีวิตเพื่ออะไร? จุดประสงค์ของชีวิตคุณคืออะไร?.....คุณเรียนจบ เข้าสู่ชีวิตทำงานที่ต้องตื่นนอน 6 โมง อาบน้ำแต่งตัวและไปให้ทันก่อนเวลา ถึงที่ทำงานก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆ....พักกลางวัน......กลับมาทำงานถึงเวลาเลิกงานก็กลับบ้าน แล้วก็วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย...!!?!
นี่คือชีวิตหรอครับ......เปล่านี่คือระบบ....คุณไม่ได้ใช้ชีวิต ชีวิตคืออะไรที่ไม่มีแบบแผนตายตัวแบบนี้ แต่คุณกำลังทำตามระเบียบแบบแผนที่ถูกกำหนด....อย่าให้ระบบพวกนี้มันลามเข้ามาจนคุณเสียคำว่า “ชีวิต” ภายในจิตใจคุณไป
เริ่มแรกคุณต้องถามตัวเองก่อนเลยครับ...เหมือนกับเวลาก่อนทำงานต้องรู้ก่อนว่าจุดประสงค์ เป้าหมายงานนี้ต้องการอะไร....ถามตัวเองว่า นี่ใช่ความต้องการเราใช่ไหม ใช่เป้าหมายเราใช่ไหม หรือที่เราทำเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระยะยาวของเรา
...ถ้าใช่ จงทำต่อไป คุณมาถูกทาง
...แต่ถ้าไม่ใช่ รีบเปลี่ยนซะ!! ก่อนที่มันจะทำลายความฝันและโอกาสในอนาคตของคุณไป
ผมขอฝาก Motto ของ Life ซึ่งเป็นบริษัทที่พระเอกทำงานครับ
“To see things thousands of miles away,
things hidden behind walls and within rooms,
things dangerous to come to, to draw closer,
to see and be amazed and to feel that is the purpose of life.”
คุณสามารถฝันได้เสมอ....แต่โอกาสที่คุณจะทำความฝันของคุณจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลาที่เสียไป
สุดท้ายผมคิดว่า ดีที่สุดคือทำสิ่งที่คุณรัก ผลลัพธ์จะออกมาดีที่สุด
http://on.fb.me/KpDfSe
The Secret Life of Walter Mitty ข้อคิดในมุมมองคนทำงานครับ
มุมมองของผมหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้
ระหว่างที่หนังกำลังดำเนินไปคุณจะพอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนึง และความรู้สึกนี้มันจะมาเฉลยตอนจบของเรื่อง นั่นก็คือ...คุณค่าของความพยายาม
“หากคุณตั้งใจทำสิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะนานแค่ไหน....คุณก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ”
Walter Mitty ทำหน้าที่ของเขามานานกว่า 16 ปี โดยรับผิดชอบผลงานของ ฌอน โอ คอนเนลล์...และช่างภาพชื่อดังผู้นี้ก็ได้ส่งจดหมายและของขวัญพร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพระเอกที่ได้ช่วยทำให้ผลงานของเขาสมบูรณ์.....แต่เนื่องจากเป็นตอนต้นเรื่อง จึงยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่
และมาถึงตอนจบของเรื่องที่ได้เฉลยภาพถ่ายลำดับ 25 ที่ฌอน อยากให้เอาขึ้นหน้าปกนิตยสาร กลับกลายเป็นรูปพระเอก พร้อมกับคำกล่าวขอบคุณถึงความช่วยเหลือที่ผ่านมา....(ฉากนี้ทำน้ำตาไหล ซึ้งจริงครับ คนที่ผ่านมันมาจะเข้าใจดี).....
นี่แหละครับ เมื่อคุณพยายามตั้งใจทำอะไรสักอย่างอย่างเต็มที่ ถึงผลลัพธ์จะออกมาไม่ดี แต่มันมีคุณค่าเสมอครับ
ข้อคิดอีกอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกได้คือ หนังได้สะท้อนคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตครับ...
“Life is about courage and going into the unknown.”
คุณใช้ชีวิตเพื่ออะไร? จุดประสงค์ของชีวิตคุณคืออะไร?.....คุณเรียนจบ เข้าสู่ชีวิตทำงานที่ต้องตื่นนอน 6 โมง อาบน้ำแต่งตัวและไปให้ทันก่อนเวลา ถึงที่ทำงานก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆ....พักกลางวัน......กลับมาทำงานถึงเวลาเลิกงานก็กลับบ้าน แล้วก็วนลูปซ้ำ ๆ ไปเรื่อย...!!?!
นี่คือชีวิตหรอครับ......เปล่านี่คือระบบ....คุณไม่ได้ใช้ชีวิต ชีวิตคืออะไรที่ไม่มีแบบแผนตายตัวแบบนี้ แต่คุณกำลังทำตามระเบียบแบบแผนที่ถูกกำหนด....อย่าให้ระบบพวกนี้มันลามเข้ามาจนคุณเสียคำว่า “ชีวิต” ภายในจิตใจคุณไป
เริ่มแรกคุณต้องถามตัวเองก่อนเลยครับ...เหมือนกับเวลาก่อนทำงานต้องรู้ก่อนว่าจุดประสงค์ เป้าหมายงานนี้ต้องการอะไร....ถามตัวเองว่า นี่ใช่ความต้องการเราใช่ไหม ใช่เป้าหมายเราใช่ไหม หรือที่เราทำเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระยะยาวของเรา
...ถ้าใช่ จงทำต่อไป คุณมาถูกทาง
...แต่ถ้าไม่ใช่ รีบเปลี่ยนซะ!! ก่อนที่มันจะทำลายความฝันและโอกาสในอนาคตของคุณไป
ผมขอฝาก Motto ของ Life ซึ่งเป็นบริษัทที่พระเอกทำงานครับ
“To see things thousands of miles away,
things hidden behind walls and within rooms,
things dangerous to come to, to draw closer,
to see and be amazed and to feel that is the purpose of life.”
คุณสามารถฝันได้เสมอ....แต่โอกาสที่คุณจะทำความฝันของคุณจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลาที่เสียไป
สุดท้ายผมคิดว่า ดีที่สุดคือทำสิ่งที่คุณรัก ผลลัพธ์จะออกมาดีที่สุด
http://on.fb.me/KpDfSe