คุณเคยเป็นแบบนี้บ้างไหม ?
1. ตั้งแต่เรียนจบมาทำงานไม่ลืมหูลืมตา หวังว่าสักวันเราจะได้ดีกว่าคนที่เรารู้จักเช่น เพื่อนที่เคยดูถูกเรา
2. ไปทำงานที่ไกลๆไม่ได้ เนื่องจากต้องดูแลพ่อแม่ แก่แล้ว ทำงานไม่ไหว ประมาณว่า เราเองต้องทำงานเองทุกอย่าง สากกะเบือ ยันเรือรบ บริษัทไกลบ้านสวัสดิการดีกว่า ประมาณนั้น เงินเดือนงานใกล้บ้านมันน้อย แต่มันประหยัดค่าใช้จ่ายตรงที่อยู่บ้าน ค่ากิน นี่แหละ
3. คิดเสมอว่าอยากเก็บเงินมากกว่าใช้ เวลาควักเงินออกจากกระเป๋า มันเป็นอารมณ์ที่แย่ที่สุด
4. ตั้งเป้าหมายการเก็บเงินให้ตัวเองเสมอ แข่งกับเวลาและอายุของตัวเอง
5. คิดว่าเงินเก็บของตัวเองมากพอที่จะเอาไปพูดอย่างภูมิใจได้ เพราะบางคนอายุเท่าเรา แต่ก็ ไม่ได้มีเงินเก็บมากอย่างเรานะ
แต่พอมาวันหนึ่ง
1. เด็กที่อายุน้อยกว่า สตาร์ทเงินเดือนมากกว่าสุด ๆ ป่านนี้เงินเก็บเพียบ
2. ทิ้งระยะมาเกือบปี เพื่อนที่เรียนอยู่ด้วยกันตอนนี้ก็เริ่มได้งานกันหมดแล้ว แล้วก็เป็นงานที่ค่อนข้างดี มั่นคง เช่น การไฟฟ้า หรือ งานเกี่ยวกับบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียง เงินเดือนสตาร์ทมากกว่า สวัสดิการดีกว่า บางคนก็ได้จ๊อบพิเศษทำ เพราะหน้าตาดี ในขณะที่จ๊อบของเราคือการเก็บขวดขาย
3. น้อยใจฝุดๆเมื่อมีเพื่อนร่วมงานแซวว่า จะเก็บเงินไปทำไมนักหนา หน้าอย่างไม่รวยขึ้นมาหรอก เด๋วตายก็ไม่ได้ใช้แล้ว ดูถูกเรามองเราที่ภายนอก เห็นเราไม่มีอะไรไฮโซ ก็ดูถูก ว่าบ้านสงสัยมุงด้วยสังกะสี จุดเทียนแทนไฟ นั่งส้วมหลุม (แอบคิดในใจ ว่าดีไม่ดี บ้านกูหลังใหญ่กว่าห้องเช่าเมิงอีก)
4. รู้สึกว่าเงินเก็บที่เราภูมิใจนักหนา เริ่มด้อยค่าลงทันที ในขณะที่เราแหงนหน้ามองบุคคลที่ดีกว่าเรา
5. รู้สึกว่าตอนเรียนมหาลัยไม่ยอมหาจ๊อปพิเศษทำ คิดว่าตัวเองโง่มากๆ (แต่มันจะไหวเป่า)
6. ไม่ยอมมีครอบครัว หมายถึงแฟนหน่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราลำบากมาก ๆ
7. คิดถึงแฟนคนแรกของเรา ที่เขากลับไปหาแฟนเขาแล้ว เขาทิ้งเราไปเพราะผู้หญิงคนที่ยืนข้างเขา สวยกว่า รวยกว่า แล้วเราหล่ะ ? ไม่มีคุณค่าเลยเหรอ
8. รู้สึกว่า น้อยเนื้อต่ำใจ สุดๆเลยว่ะ
9. ทำใจกับทุกอย่าง ในเมื่อเรายังมีพ่อแม่อยู่ ต้องดูแลไปจนกว่าเขาจะตายจากเราไป ในเมื่อเราเป็นบุคคลที่ด้อยค่าและไม่มีความหมายใด ๆ ก็ช่างเถอะ พยายามทำใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
อดทนและ”จน”ใจ
1. ตั้งแต่เรียนจบมาทำงานไม่ลืมหูลืมตา หวังว่าสักวันเราจะได้ดีกว่าคนที่เรารู้จักเช่น เพื่อนที่เคยดูถูกเรา
2. ไปทำงานที่ไกลๆไม่ได้ เนื่องจากต้องดูแลพ่อแม่ แก่แล้ว ทำงานไม่ไหว ประมาณว่า เราเองต้องทำงานเองทุกอย่าง สากกะเบือ ยันเรือรบ บริษัทไกลบ้านสวัสดิการดีกว่า ประมาณนั้น เงินเดือนงานใกล้บ้านมันน้อย แต่มันประหยัดค่าใช้จ่ายตรงที่อยู่บ้าน ค่ากิน นี่แหละ
3. คิดเสมอว่าอยากเก็บเงินมากกว่าใช้ เวลาควักเงินออกจากกระเป๋า มันเป็นอารมณ์ที่แย่ที่สุด
4. ตั้งเป้าหมายการเก็บเงินให้ตัวเองเสมอ แข่งกับเวลาและอายุของตัวเอง
5. คิดว่าเงินเก็บของตัวเองมากพอที่จะเอาไปพูดอย่างภูมิใจได้ เพราะบางคนอายุเท่าเรา แต่ก็ ไม่ได้มีเงินเก็บมากอย่างเรานะ
แต่พอมาวันหนึ่ง
1. เด็กที่อายุน้อยกว่า สตาร์ทเงินเดือนมากกว่าสุด ๆ ป่านนี้เงินเก็บเพียบ
2. ทิ้งระยะมาเกือบปี เพื่อนที่เรียนอยู่ด้วยกันตอนนี้ก็เริ่มได้งานกันหมดแล้ว แล้วก็เป็นงานที่ค่อนข้างดี มั่นคง เช่น การไฟฟ้า หรือ งานเกี่ยวกับบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียง เงินเดือนสตาร์ทมากกว่า สวัสดิการดีกว่า บางคนก็ได้จ๊อบพิเศษทำ เพราะหน้าตาดี ในขณะที่จ๊อบของเราคือการเก็บขวดขาย
3. น้อยใจฝุดๆเมื่อมีเพื่อนร่วมงานแซวว่า จะเก็บเงินไปทำไมนักหนา หน้าอย่างไม่รวยขึ้นมาหรอก เด๋วตายก็ไม่ได้ใช้แล้ว ดูถูกเรามองเราที่ภายนอก เห็นเราไม่มีอะไรไฮโซ ก็ดูถูก ว่าบ้านสงสัยมุงด้วยสังกะสี จุดเทียนแทนไฟ นั่งส้วมหลุม (แอบคิดในใจ ว่าดีไม่ดี บ้านกูหลังใหญ่กว่าห้องเช่าเมิงอีก)
4. รู้สึกว่าเงินเก็บที่เราภูมิใจนักหนา เริ่มด้อยค่าลงทันที ในขณะที่เราแหงนหน้ามองบุคคลที่ดีกว่าเรา
5. รู้สึกว่าตอนเรียนมหาลัยไม่ยอมหาจ๊อปพิเศษทำ คิดว่าตัวเองโง่มากๆ (แต่มันจะไหวเป่า)
6. ไม่ยอมมีครอบครัว หมายถึงแฟนหน่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราลำบากมาก ๆ
7. คิดถึงแฟนคนแรกของเรา ที่เขากลับไปหาแฟนเขาแล้ว เขาทิ้งเราไปเพราะผู้หญิงคนที่ยืนข้างเขา สวยกว่า รวยกว่า แล้วเราหล่ะ ? ไม่มีคุณค่าเลยเหรอ
8. รู้สึกว่า น้อยเนื้อต่ำใจ สุดๆเลยว่ะ
9. ทำใจกับทุกอย่าง ในเมื่อเรายังมีพ่อแม่อยู่ ต้องดูแลไปจนกว่าเขาจะตายจากเราไป ในเมื่อเราเป็นบุคคลที่ด้อยค่าและไม่มีความหมายใด ๆ ก็ช่างเถอะ พยายามทำใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น