เหมือง Bitcoin ที่หมดสภาพแล้ว จะเอาไปทำอะไรได้บ้างครับ ?

กระแสตื่นทอง บ้าทอง มันช่างยั่วยวนคนให้หน้ามืดตามัว อะไรที่เริ่มก่อนมักจะได้เปรียบ

การเป็นเจ้าของ Bitcoin เท่าที่ผมรู้ก็มีอยู่ 3 ทาง

1.  ขอ ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ด้วยเงินจริง
2.  ทำการค้า แล้วรับชำระด้วย Bitcoin
3.  ขุดทองด้วย Hardware  (ฺBitcoin Mining)

ตัวสุดท้าย น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกับคนขี้เกียจและชอบไอที

ประเด็นคือ .. ตามทฤษฎี bitcoin จะขุดยากขึ้นเรื่อยๆ ต้องใช้ hardware แรงๆ

นั่นหมายความว่า มันเกิดมาเอื้อกับพวกเจ๊กโรงงาน ASIC Chip

คนไม่รู้ก็ซื้อการ์ดจอ CPU เทพมารันโปรแกรมขุดกัน แต่ก็แพ้พวกที่ใช้ asic chip


คราวนี้เศรษฐีน้อย ก็บ้าพลัง ซื้อเครื่องขุดเฉพาะทางมูลค่าหลักแสนมาเลย

ขุดกันเป็นล่ำเป็นสัน ได้ bitcoin มาจำนวนหนึ่ง


ประเด็นที่อยากรู้ก็คือว่า .. ปีหน้า มันจะขุดได้อัตราเดิมไหม ? ต้องเปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่หรือเปล่า ?

เจ๊กมันทำโรงงาน ASIC ออกมาขายถล่มตัวเก่า  ครองสายการขุดจนตัวเก่าขุดไม่ออกจะทำยังไง ?

จำเป็นต้องซื้อตัวแรงกว่าเดิม มาขุดอีกหรือเปล่า ? คืนทุนหรือยัง ?


แล้วตัวเก่าล่ะ เอาไปทำอะไรได้บ้าง ? ที่จ่ายไปคุ้มกับค่าเสื่อมราคาหรือเปล่า ?


ถ้าเอาำไปทำ server แปลงไฟล์ VDO หรือ Database server ได้ก็น่าสน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มีผมอยู่คนเดียวหรือเปล่าที่ไม่เข้าใจ T T
ความคิดเห็นที่ 18
ไม่ว่าจะเป็นสกุลไหน bitcoin litecoin primecoin protoshare
พวกนี้ล้วนแต่เป็นเทคโนโลยีขยะ ส่งเสริมให้โลกร้อน เพียงแค่ต้องการเงินเท่านั้นเอง
อีกหน่อยพวกกรีนพีวคงออกมาต่อต้าน
เพราะการเอาคอมมาคำนวนอะไรซักอย่างแล้วไม่ได้เอาไปใช้งานให้เกิดประโยชน์อะไรต่อชาวโลก นอกจากคนขุดได้เงินแค่นั้นเอง
มันเป็นการเอาเทคโนโลยี มาใช้งานแบบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ขุดเสร็จเอาไปเก็บแค่นั้น
จบโปรเจคแล้วการประมวลผลเหล่านั้นเป็นศูนย์

มันจะเจ๋งมากเลยถ้าเปลี่ยนไปร่วมกันประมวลผลเป็นซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ ให้กับโรงพยาบาล หน่วยงานการกุศล อะไรซักอย่างเพื่อจะได้ลดการซื้อเครื่องคอมไปใช้ คงจะดีมากๆ
ความคิดเห็นที่ 60
ไม่ต้องมองอนาคตไกลครับ เอาช่วงใกล้ให้คุ้มก่อนจะได้คำนวณง่าย ถ้าขุดเจอเมื่อไหร่ เอาเหรียญเข้าบิทคับรอขาย มีคนซื้อนั่นคือจบเลย หรือ จะเก็บไว้ให้ขึ้นอีกหน่อยแล้วขายก็คุ้มค่าการรอคอย แต่เท่าที่ทราบ ไม่ได้เจอกันง่ายแล้วนี่สิ
ความคิดเห็นที่ 11
เราก็ไม่อยากขวางทางปืนใครหรอก แต่เผอิญเจ้าของกระทู้นี้ รู้ที่มาที่ไปเป็นอย่างดี
สิ่งที่เค้ารุ้ลึกคือ การที่ต้องใช้ฮาร์แวร์สังเคราะห์ กราฟฟิคกำลังสูง  ในการทำงานกะบิดคอย
โครงสร้างปฎิบัติการ ..บิดคอย...(ตั้งใจเขียน..ป่าวโง่)
1. ใช้โครงสร้างจำกัดปริมาณแบบ หุ้น..ทอง..หรือสิ่งสมมุติอย่างอื่น
2. ผลประโยชน์ต่อเนื่อง  ด้วยเทคนิคของ แชร์ลูกโซ่ กะ ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด(พวกผู้ผลิตฮาร์แวร์..สำหรับตอนนี้นะ)  

คำถาม ในใจทุกคน.....ใครคิดมาวะ  ..ตอบว่า  เป็นเซียนออกแบบโครงสร้างชิพ  ในหุบเขาซิลิกอน
เค้ามองเห็นการอิ่มตัวของเทคโนโลยี  จึงหาทางออก ในการเอาเทคโนที่ทำกันออกมานั้น
ทำเงินให้มากกว่า การแค่ผลิตชิพออกมาขายเพื่อเล่นเกมเฉยๆ    หรืองานสามมิติต่างๆ
..พูดแค่นี้  คนหัวไว  คงเห็นเงาอะไรลางๆๆ ขึ้นมาแล้ว
..ในเมื่อพูดให้คนเล่นหุ้นฟัง...บิดคอย..ก็เหมือนหุ้นปั่นจ้าวมือตัวนึงไง เหมือนกันแต่ต่างด้วยเทคนิค
เพราะยังไม่มีกฎควบคุม...ตอนนี้มันจึงเป็น ชิพในบ่อน  ต้องบ่อนถึงรับแลก
ดังนั้น ต้องให้  มวลมหาประชาชนชาวหุ้นมาเล่นกันก่อน จึงเป็น การรับประกันที่ดี

ดังนั้น  เหมือง บิดคอยที่หมดสภาพ  คือ ฮาร์แวร์ที่ไร้ค่า แต่เค้ายังให้เอาไปเล่นเกมต่อได้ไง
...เพราะต้นเรื่อง  ของปฎิบัติการนี้  คือการสร้างลูกค้าที่บริโภคฮาร์แวร์กำลังสูงให้เกิดต่อเนื่องไง...
เอาแหละรู้แค่นี้พอแล้ว...ที่เหลือ...ฮ่าฮ่า ...จ้างให้ก็ไม่บอกเฟ๊ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่