Frozen (Chris Buck, Jennifer Lee,2013)
ยกให้ 5 นิ้วหัวแม่โป้งจาก 5 นิ้ว
ไม่รู้ว่าจะเป็นการออกตัวเกินหน้าเกินตาไปหรือเปล่าที่จะบอกว่า Frozen คงเป็นแอนิเมชั่นที่เราชอบที่สุดในรอบปี หนังคงไว้ซึ่งอารมณ์ถวิลย์หาการ์ตูนดิสนีย์ยุคเก่าๆ แต่เล่าเรื่องด้วยบริบทสมัยใหม่ เพลงก็พ็อพร่วมสมัย การเดินเรื่อง หรือซับพล็อตรองอย่างเจ้าหญิงเจ้าชายก็ไม่ได้โบราณกาลคร่ำครึอีกต่อไป
มิหนำซ้ำไคลแมกซ์ของเรื่องยังจัดหนักถึงเรื่องราชบัลลังก์ที่สั่นคลอนเพราะมีคนยุแยงตะแคงรั่ว ความรักชนะทุกสิ่ง (ที่กินใจและชวนลุ้นระทึกทุกครั้งที่ตัวละครสักคนอาจจะต้องตายก็เป็นได้ ซึ่งบีบหัวใจทุกฉาก (ขนาดไอ้เจ้าโอลาฟจะละลายน้ำตาข้าพเจ้ายังเกือบรื้นออกมาซะด้วยซ้ำ)
แน่นอนว่าฉากเพลงไฮไลท์ของเรื่องอย่าง Let it Go เพลงประจำตัวของราชินี้น้ำแข็งอย่างเอลซ่า (ไอดิน่า เมนเซล) น่าจะกลายเป็นเพลงลิปซิ้งของตุ๊ดแห่งปีไปเลย เพราะทั้งเพลงและบริบทของฉากนี้ Queer มากมากจนนิ้วก้อยกระดิกและรังแสงสีม่วงก็สาดกระจายสุดๆ
เราว่างานเรื่องบทของหนังค่อนข้างละเอียดและเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครได้กระชับ คืบหน้า โรแมนติกแม้กระทั่งฉากรวบรัดที่อันนา (คริสเทน เบลล์) พบรักกับเจ้าชายฮานส์ (ซานทิโอ ฟอนทาน่า) เพียงชั่วครู่เธอตัดสินใจขอแต่งงาน (ถ้าวิเคราะห์บริบทของตัวละครแล้วเธอก็เป็นตัวละครที่มีปูมหลัง เป็นเด็กร่าเริงที่ไม่ได้พบเจอผู้คน ทางออกของเธอคือการได้พบใครสักคนที่สามารถตอบสนองความต้องการส่วนลึกของเธอได้นั่นเอง)
จะว่าไปแล้วตัวละครแต่ละตัวในแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีความ "ลึก" อยู่ในตัวค่อนข้างมาก มีแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจนและโดดเด่นจนสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของผู้ชมไม่เว้นแต่กระทั่งบทสมทบอย่างเอกอัคราชฑูตจากต่างแดนที่มาเพื่อผลประโยชน์บางอย่างก็ตาม
ไม่ว่าจะดูเพื่อความบันเทิง (เพลงเพราะ ตลก สนุก ซึ้ง) หรือดูเพื่อเจาะลึกกับมัน Frozen เป็นได้ทุกอย่างที่เราอยากจะค้นหา
ที่มาจาก :
https://www.facebook.com/EntertainmentBite
[CR] Frozen (Chris Buck, Jennifer Lee,2013)
Frozen (Chris Buck, Jennifer Lee,2013)
ยกให้ 5 นิ้วหัวแม่โป้งจาก 5 นิ้ว
ไม่รู้ว่าจะเป็นการออกตัวเกินหน้าเกินตาไปหรือเปล่าที่จะบอกว่า Frozen คงเป็นแอนิเมชั่นที่เราชอบที่สุดในรอบปี หนังคงไว้ซึ่งอารมณ์ถวิลย์หาการ์ตูนดิสนีย์ยุคเก่าๆ แต่เล่าเรื่องด้วยบริบทสมัยใหม่ เพลงก็พ็อพร่วมสมัย การเดินเรื่อง หรือซับพล็อตรองอย่างเจ้าหญิงเจ้าชายก็ไม่ได้โบราณกาลคร่ำครึอีกต่อไป
มิหนำซ้ำไคลแมกซ์ของเรื่องยังจัดหนักถึงเรื่องราชบัลลังก์ที่สั่นคลอนเพราะมีคนยุแยงตะแคงรั่ว ความรักชนะทุกสิ่ง (ที่กินใจและชวนลุ้นระทึกทุกครั้งที่ตัวละครสักคนอาจจะต้องตายก็เป็นได้ ซึ่งบีบหัวใจทุกฉาก (ขนาดไอ้เจ้าโอลาฟจะละลายน้ำตาข้าพเจ้ายังเกือบรื้นออกมาซะด้วยซ้ำ)
แน่นอนว่าฉากเพลงไฮไลท์ของเรื่องอย่าง Let it Go เพลงประจำตัวของราชินี้น้ำแข็งอย่างเอลซ่า (ไอดิน่า เมนเซล) น่าจะกลายเป็นเพลงลิปซิ้งของตุ๊ดแห่งปีไปเลย เพราะทั้งเพลงและบริบทของฉากนี้ Queer มากมากจนนิ้วก้อยกระดิกและรังแสงสีม่วงก็สาดกระจายสุดๆ
เราว่างานเรื่องบทของหนังค่อนข้างละเอียดและเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครได้กระชับ คืบหน้า โรแมนติกแม้กระทั่งฉากรวบรัดที่อันนา (คริสเทน เบลล์) พบรักกับเจ้าชายฮานส์ (ซานทิโอ ฟอนทาน่า) เพียงชั่วครู่เธอตัดสินใจขอแต่งงาน (ถ้าวิเคราะห์บริบทของตัวละครแล้วเธอก็เป็นตัวละครที่มีปูมหลัง เป็นเด็กร่าเริงที่ไม่ได้พบเจอผู้คน ทางออกของเธอคือการได้พบใครสักคนที่สามารถตอบสนองความต้องการส่วนลึกของเธอได้นั่นเอง)
จะว่าไปแล้วตัวละครแต่ละตัวในแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีความ "ลึก" อยู่ในตัวค่อนข้างมาก มีแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจนและโดดเด่นจนสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของผู้ชมไม่เว้นแต่กระทั่งบทสมทบอย่างเอกอัคราชฑูตจากต่างแดนที่มาเพื่อผลประโยชน์บางอย่างก็ตาม
ไม่ว่าจะดูเพื่อความบันเทิง (เพลงเพราะ ตลก สนุก ซึ้ง) หรือดูเพื่อเจาะลึกกับมัน Frozen เป็นได้ทุกอย่างที่เราอยากจะค้นหา
ที่มาจาก : https://www.facebook.com/EntertainmentBite