*** รีวิวเบาๆ "FROZEN" หนังปี 2013 ที่ผมชอบที่สุดเป็น 'อันดับ 5' ***

รีวิวเบาๆ | หนังปี 2013 ที่ชอบที่สุด
อันดับ 5 "Frozen"

Genre : Animation, Adventure, Comedy
Director : Chris Buck, Jennifer Lee
Writers : Jennifer Lee (screenplay), Hans Christian Andersen(story)
Cast : Kristen Bell (Anna), Idina Menzel (Elsa), Jonathan Groff (Kristoff), Josh Gad (Olaf), Santino Fontana (Hans)
IMDb : 8.1

“Let it go, let it go. Can’t hold it back any more.!!”…เพลงประกอบหนังยังคงดังกึกก้องธรณีหูของหนุ่มบ้านนานายนึง ผู้เพิ่งทัศนาหนังเรื่องนี้จบใหม่ๆ (แค่ดังก้องในหูเฉยๆ นะครับ ผมหาได้กรีดกรายและร่ายรำไปพร้อมกับเพลงไม่!! - -“)

Frozen เป็นเรื่องราวของเมืองแห่งหนึ่งที่ต้องมนต์หิมะของเจ้าหญิง ‘Elsa’ ที่สาปให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นน้ำแข็งเย็นยะเยือกแบบ The Day After Tomorrow อย่างไม่ได้ตั้งใจ เดือดร้อนถึงเจ้าหญิง ‘Anna’ ผู้เป็นขนิษฐาต้องตามตัวพระพี่นางกลับมายุติภัยหนาว Mae Kha Ning ให้จงได้

ผมไม่เคยคิดเลยฮะ ว่าตัวเองจะรู้สึกชอบตูนดิสนีย์แนวเจ้าหญิงกระโปรงพลิ้ว วิ่งละลิ่วพบรักกับเจ้าชาย ผมมันประเภทชอบหนังที่ท้าทาย พล๊อตเจ๋ง บทแจ่ม การแสดงเจิด มโนนึกของตูนดิสนีย์ที่ฝังกะโหลกอันบางเบาของผม จึงเป็นเรื่องเจ้าหญิงผู้อ่อนหวานอ่อนไหว ผู้ถูกกระทำ พบรักกับเจ้าชายและได้แต่งงานกัน เป็นอันจบบริบูรณ์การ์ตูนเต้นรำ!!

มันช่างเดาเนื้อเรื่องได้ง่ายดายแท้ เพราะฉะนั้นผมจึงเลือกดูหนังเรื่องนี้ เพื่อฆ่าเวลาเท่านั้นแหละ!! (ขอบคุณนะ! ที่สรุปได้แรงดีอ่ะ)

แต่สิ่งที่ตั้งธงและคิดไว้ในใจแต่แรกนั้นผิดคาดมากฮะ แม้ Frozen จะยังคงเอกลักษณ์บางอย่างแบบดิสนีย์เอาไว้ ทั้งเรื่องเจ้าหญิง-เจ้าชาย พูดถึงประเด็นความรักและการเอาชนะใจตัวเอง ฯลฯ แต่หลายๆ อย่างก็เริ่มที่จะ ‘แหวกขนบเบาๆ’ และ ‘โตขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ’

มา Start กันที่คาแรคเตอร์ตัวละคร เรื่องนี้ใส่มิติให้ตัวละครมากขึ้น ไม่ใช่เอะอะก็เป็นสาวใสไร้เดียงสา วิ่งเล่นกะนกกะกาอย่างเดียว Elsa เป็นตัวละครที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นราชินีผู้เพียบพร้อม แต่เธอ Negative Thinking ครับ เพราะการมีมนต์น้ำแข็ง ทำให้คิดว่าตัวเองเป็นตัวอันตราย จึงพยายามแปลกแยกจากสังคมและขาดการนับถือตนเอง ส่วน Anna นางโก๊ะ นางเปิ่น นางรั่ว แม้นางจะสวยน่ารักฝุดๆ ประดุจฝาแฝดเจ้าหญิงราพันเซล แต่ก็มีความเป็นมนุษย์ทั่วๆ ไป ไม่ใช่เจ้าหญิงที่ Perfect ทุกท่วงท่า นางตื่นมาพร้อมผมเผ้ากระเซอะกระเซิง น้ำลายยืดติดหมอนเป็นแผนที่โลก และไม่แน่นางอาจจะแอบตด แต่มันล่องหน เพราะโดนกระโปรงดูดกลิ่นไว้ - -!

ประเด็นเรื่องความรักซึ่งเป็นแก่นที่อยู่คู่กับตูนดิสนีย์มาตลอดกาล อารมณ์ประมาณครกคู่สาก หมากคู่กับคนแก่ แต่ Frozen ก็ไม่ได้โฟกัสที่ความรักของเจ้าหญิง-เจ้าชาย แต่มุ่งไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองศรีพี่น้อง Elsa กับ Anna ด้วย Theme ที่ว่า ‘ความรักคือการเสียสละ มันสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้’ ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะไปคลี่คลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่และปัญหาที่ตามแก้มาทั้งเรื่อง

มาต่อกันด้วยการแหวกขนบของโทนหนังและการเดินเรื่อง หนังใส่ความดาร์กเข้าไป ไม่ได้เน้นเฉพาะเรื่องสดใสวัยเด็กน้อย เรื่องราวและสถานการณ์จึงมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นความรู้สึกแปลกแยกทางสังคมของ Elsa ที่พยายามปิดตายตัวเองในทุกการกระทำ ส่วนการเดินเรื่องก็เริ่มมีการหักมุมเล็กๆ น้อยๆ เป็นการทดลองงานให้เข้ายุคเข้าสมัย แม้ไม่ได้หักโป๊ะ! ราวกับหนัง The Mist แต่ก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ ใครยังไม่ได้ดูห้ามอ่านสปอยล์!!

โดยภาพรวมก็ถือว่า Frozen ทำดีเกินกว่าที่ผมคาดไว้ฮะ หนังเพลิดเพลิน เพลงเพราะ คละเคล้าประเด็นที่หนักแน่นขึ้น
และส่วนสำคัญที่คิดว่า ทำให้ผมหลงใหลได้ปลื้มตูนเรื่องนี้ ก็คือ ความฮาที่ใส่มาได้อย่างถูกจังหวะ โดยเฉพาะบทบาทของน้อง Olaf เจ้ารูปปั้นหิมะจมูกแจ่ม ที่ทั้งฮา ทั้งน่ารัก และแย่งซีนโดนใจพี่สุดๆ ไปเลยไอ้น้องง!!

★★★★…8/10
-----------------------------------------------------
"ความสุข คือการได้ทัศนาภาพยนตร์
ความสุข คือการได้ชวนคนรักหนังมาพูดคุยกัน"

Talk about movies แบบชิวๆ ได้ที่เพจหนัง "เบิกโรงซินีม่า" ครับ ยิ้ม
https://www.facebook.com/BergRongCinema

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่