ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ เป็นการมาญี่ปุ่นครั้งแรกโดยไม่ค่อยมีแผนอะไร มีแค่ที่พักตามเมืองต่างๆ คร่าวๆ เท่านั้น แถมภาษาญี่ปุ่นนั้นผมอยู่ในขั้นไม่รู้เรื่องเลย อาศัยความมั่นใจจากการที่คนรู้จักที่เป็นนักเรียนเก่าญี่ปุ่นบอกว่า "ไม่ต้องกลัวพี่ เขาก็พยายามหาวิธีพูดกับพี่จนได้นั่นแหละ..." มาถึงแล้วก็พบว่า คนญี่ปุ่นพูดอังกฤษได้ซะเยอะ ถึงคนที่พูดได้น้อยเขาก็พยายามพูดเป็นคำๆ หรือเอาไอ้นู่นไอ้นี่มาชี้ให้ดู เรียกว่าสบายๆ
วันแรกผมไป akiba แต่วุ่นวายนิดหน่อยตอนที่ผมผ่านสถานีโตเกียวแล้วพยายามจอง shinkansen เพื่อจะไปโอซาก้าในวันหลัง แต่ปรากฏว่าไปได้แค่ขาไป เจ๊คนจองตั๋วเขาบอกว่า ขาไปมีค่ะ แต่ขากลับท่าจะยาก เพราะวันที่ผมเลือกมันคนกลับโตเกียวกันเยอะ อ้าว เวรกรรม เลยยังไม่ตกลง ไปเดิน akiba ด้วยความกังวลนิดหน่อย หมุนไปหมุนมาพักนึงก็ได้ไอ้นี่มา

ปกนี้รู้สึกจะเป็นปกเฉพาะร้านเกมเมอร์สนะครับ ร้านอยู่ใกล้สถานีมากจนกือบเดินเลย
ตอนซื้อคนขายเขาพยายามบอกผมว่ามันเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ ผมบอกเขาว่าผมจะซื้อไปเป็น souvenir ท่าทางเขาไม่ค่อยเข้าใจ แต่ไม่เป็นไร ราคาก็ 798 เยน ผมจ่ายด้วย suica เพราะขี้เกียจเก็บเศษตังค์ทอน
สภาพ akiba ส่วนหนึ่งมันก็บ้านหม้อเราดีๆ นี่เอง ราคาบางอย่าก็ถูกบางอย่างก็แพง บวกกับห้างไอทีขนาดมหึมาอย่าง sofmap ที่เดินนานไม่ได้ เพราะมันอยากซื้อไปทั้งนั้น ราคาบางอย่างถูกกว่าบ้านเราจริงๆ แต่หลักร้อย กับมีของให้เลือกแปลกๆ ตากว่า สุดท้ายผมไปโดน lens ของ panasonic ตัว 45-150 ธรรมดาๆ ที่โยโดบาชิ ราคาคิดเป็นเงินไทย เจ็ดพันกว่า ได้ลดภาษีอีก 5% แล้วก็ได้ Ghost in the shell ภาค Arise แผ่น 2 ราคา blu-ray ก็ 6380 เยน
ร้าน manga ทั้งหลายมันจะมีบรรยากาศบางอย่างอยู่ เสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้เพราะดูจะผิดมารยาท และบางร้านถามแล้วเขาห้าม บางร้านมีชั้นเฉพาะขายพวก 18+ โดยตรง พวกนี้ผมไม่พยายามเดินเข้าไปเพราะขี้เกียจไปเติมเงินใน suica บ่อยเกินความจำเป็น
สุดท้าย ปัญหาเรื่องขากลับจากโอซาก้าของผมก็ได้รับการแก้ไขโดยเครื่องบิน ผมจอง low-cost ได้ในราคาแพงกว่า shinkansen เล็กน้อย ส่วนขาไปผมยังใช้ shinkansen เหมือนเดิม แต่คราวนี้ซื้อจากเครื่อง กดไปกดมาเป็นตั๋วแบบไม่ระบุเวลา ที่นั่งไม่จอง คงได้แย่งกันสนุก ผมเอาไปซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ JR แล้วตรงกับที่ผมเข้าใจ เป็นอันว่ารอดตัวไปทีนึง
เล่าเรื่องแบบเร็วๆ เมื่อผมไป akiba ครั้งแรก
วันแรกผมไป akiba แต่วุ่นวายนิดหน่อยตอนที่ผมผ่านสถานีโตเกียวแล้วพยายามจอง shinkansen เพื่อจะไปโอซาก้าในวันหลัง แต่ปรากฏว่าไปได้แค่ขาไป เจ๊คนจองตั๋วเขาบอกว่า ขาไปมีค่ะ แต่ขากลับท่าจะยาก เพราะวันที่ผมเลือกมันคนกลับโตเกียวกันเยอะ อ้าว เวรกรรม เลยยังไม่ตกลง ไปเดิน akiba ด้วยความกังวลนิดหน่อย หมุนไปหมุนมาพักนึงก็ได้ไอ้นี่มา
ปกนี้รู้สึกจะเป็นปกเฉพาะร้านเกมเมอร์สนะครับ ร้านอยู่ใกล้สถานีมากจนกือบเดินเลย
ตอนซื้อคนขายเขาพยายามบอกผมว่ามันเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ ผมบอกเขาว่าผมจะซื้อไปเป็น souvenir ท่าทางเขาไม่ค่อยเข้าใจ แต่ไม่เป็นไร ราคาก็ 798 เยน ผมจ่ายด้วย suica เพราะขี้เกียจเก็บเศษตังค์ทอน
สภาพ akiba ส่วนหนึ่งมันก็บ้านหม้อเราดีๆ นี่เอง ราคาบางอย่าก็ถูกบางอย่างก็แพง บวกกับห้างไอทีขนาดมหึมาอย่าง sofmap ที่เดินนานไม่ได้ เพราะมันอยากซื้อไปทั้งนั้น ราคาบางอย่างถูกกว่าบ้านเราจริงๆ แต่หลักร้อย กับมีของให้เลือกแปลกๆ ตากว่า สุดท้ายผมไปโดน lens ของ panasonic ตัว 45-150 ธรรมดาๆ ที่โยโดบาชิ ราคาคิดเป็นเงินไทย เจ็ดพันกว่า ได้ลดภาษีอีก 5% แล้วก็ได้ Ghost in the shell ภาค Arise แผ่น 2 ราคา blu-ray ก็ 6380 เยน
ร้าน manga ทั้งหลายมันจะมีบรรยากาศบางอย่างอยู่ เสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้เพราะดูจะผิดมารยาท และบางร้านถามแล้วเขาห้าม บางร้านมีชั้นเฉพาะขายพวก 18+ โดยตรง พวกนี้ผมไม่พยายามเดินเข้าไปเพราะขี้เกียจไปเติมเงินใน suica บ่อยเกินความจำเป็น
สุดท้าย ปัญหาเรื่องขากลับจากโอซาก้าของผมก็ได้รับการแก้ไขโดยเครื่องบิน ผมจอง low-cost ได้ในราคาแพงกว่า shinkansen เล็กน้อย ส่วนขาไปผมยังใช้ shinkansen เหมือนเดิม แต่คราวนี้ซื้อจากเครื่อง กดไปกดมาเป็นตั๋วแบบไม่ระบุเวลา ที่นั่งไม่จอง คงได้แย่งกันสนุก ผมเอาไปซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ JR แล้วตรงกับที่ผมเข้าใจ เป็นอันว่ารอดตัวไปทีนึง