กับประกาศครั้งล่าสุดของยื่งลัก เรื่องกรรมการสรรหาคณะกรรมการปฎิรูปประเทศ หลายคนเห็นแล้วคงว่าทะแมงทะแมง แต่หากเราเข้าใจบริบทของรับบาลตอนนี้ จะเข้าใจได้ว่ายิ่งลักกำลังทำอะไร กล่าวคือ
1. ต้องยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาลเข้าตาจน ถึงทหารจะไม่ออกมารัฐประหาร แต่รับรองได้ว่า ได้เตี๊ยมกันแล้วที่จะยืนดูรัฐบาลยิ่งลักแห้งตาย จะไม่ช่วยอะไรสักแอะ ขึ้นกับฝีมือเทพกับองคาพยพอื่นๆ ที่จะช่วยกันโค่นล้มยิ่งลักลงให้จงได้
2. พลังประชาชนที่พร้อมจะยืนข้างรัฐบาลยังไม่มากพอที่จะต้านกระสุนของทหารได้ ยิ่งลักจึงเลือกทางแตกหักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะหากเลือก ทหารจะออกมาล้มรัฐบาลทันที ซ้ำกลับต้องดึงพลังของประชาชนเข้ามาให้มากที่สุด
3. รัฐบาลใช้แผนเดียวกับการบริหารจัดการน้ำ ในการจัดการม๊อบเทพ คือดึงเอาฝ่ายที่มีท่าทีจะเป็นปฎิปักษ์ออกมากลางแจ้ง คือจัดให้มีตำแหน่งในการเข้ามาแก้ปัญหาโดยตรง คนพวกนี้ก็จำเป็นต้องเข้ามาเล่นในเกม ไม่สามารถยึกยักอีกต่อไปได้ สภาสรรหาจึงประกอบด้วยผู้คนในกลุ่มที่พร้อมจะเป็นปฎิปักษ์ ให้ออกมาเล่นกลางแจ้งให้หมด และเพื่อให้คนกลุ่มนี้ดิ้นไม่หลุด จึงแต่งตั้งคนพวกเดียวกันเองยกก๊วนเลย เกือบไม่มีคนฝ่ายรัฐบาลอยู่ด้วย เพราะในคราวกรรมการบริหารจัดการน้ำ ตาสุเมธที่ได้รับการแต่งตั้ง เคยทำเกรียนโดยอ้างว่าไม่ได้รับความร่วมมือ คนส่วนใหญ่ในกรรมการเป็นคนของรัฐบาล คราวนี้ไม่มีคนของรัฐบาลอยู่เลย
4. การวางกฎเกณท์ของสภาสรรหา ถ้ามีเนื้อหาหรือกระบวนการที่ตุกติกหรือไม่เป็นธรรม ประชาชนและโลกก็จะจับผิดได้ คะแนนลบกลุ่มอรืสโตแครทก็จะเพิ่มขึ้น คะแนนสงสารยิ่งลักก็จะเพิ่มถึงขีดสุด
5. ถ้ากรรมการสรรหาไม่ให้ความร่วมมือ ทำงานช้า ตุกติก ก็จะเป็นการดิสเครดิตตัวเอง เอาเชือกผูกคอตัวเอง แต่ถ้าทำงานดี มีสาระ แก้ปัญหาได้ ก็เท่ากับยืมดาบศัตรู ฆ่าพวกเดียวกันเอง
ยามนี้เปรียบดั่งรัฐบาลยิ่งลักเป็นเมียที่มีแต่ทะเบียนสมรส ผัวตัวดีพร้อมจะออกจากบ้านไปทุกเมื่อ บ้านก็จะถูกยึด ลูกก็จะโดนแย่งไป กฎหมายก็พร้อมจะหันหลังให้ จึงต้องใช้ปัญญาเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า เกมก็เลยออกมาเป็นแบบนี้
แผนยืมดาบฆ่าศัตรู
1. ต้องยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาลเข้าตาจน ถึงทหารจะไม่ออกมารัฐประหาร แต่รับรองได้ว่า ได้เตี๊ยมกันแล้วที่จะยืนดูรัฐบาลยิ่งลักแห้งตาย จะไม่ช่วยอะไรสักแอะ ขึ้นกับฝีมือเทพกับองคาพยพอื่นๆ ที่จะช่วยกันโค่นล้มยิ่งลักลงให้จงได้
2. พลังประชาชนที่พร้อมจะยืนข้างรัฐบาลยังไม่มากพอที่จะต้านกระสุนของทหารได้ ยิ่งลักจึงเลือกทางแตกหักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะหากเลือก ทหารจะออกมาล้มรัฐบาลทันที ซ้ำกลับต้องดึงพลังของประชาชนเข้ามาให้มากที่สุด
3. รัฐบาลใช้แผนเดียวกับการบริหารจัดการน้ำ ในการจัดการม๊อบเทพ คือดึงเอาฝ่ายที่มีท่าทีจะเป็นปฎิปักษ์ออกมากลางแจ้ง คือจัดให้มีตำแหน่งในการเข้ามาแก้ปัญหาโดยตรง คนพวกนี้ก็จำเป็นต้องเข้ามาเล่นในเกม ไม่สามารถยึกยักอีกต่อไปได้ สภาสรรหาจึงประกอบด้วยผู้คนในกลุ่มที่พร้อมจะเป็นปฎิปักษ์ ให้ออกมาเล่นกลางแจ้งให้หมด และเพื่อให้คนกลุ่มนี้ดิ้นไม่หลุด จึงแต่งตั้งคนพวกเดียวกันเองยกก๊วนเลย เกือบไม่มีคนฝ่ายรัฐบาลอยู่ด้วย เพราะในคราวกรรมการบริหารจัดการน้ำ ตาสุเมธที่ได้รับการแต่งตั้ง เคยทำเกรียนโดยอ้างว่าไม่ได้รับความร่วมมือ คนส่วนใหญ่ในกรรมการเป็นคนของรัฐบาล คราวนี้ไม่มีคนของรัฐบาลอยู่เลย
4. การวางกฎเกณท์ของสภาสรรหา ถ้ามีเนื้อหาหรือกระบวนการที่ตุกติกหรือไม่เป็นธรรม ประชาชนและโลกก็จะจับผิดได้ คะแนนลบกลุ่มอรืสโตแครทก็จะเพิ่มขึ้น คะแนนสงสารยิ่งลักก็จะเพิ่มถึงขีดสุด
5. ถ้ากรรมการสรรหาไม่ให้ความร่วมมือ ทำงานช้า ตุกติก ก็จะเป็นการดิสเครดิตตัวเอง เอาเชือกผูกคอตัวเอง แต่ถ้าทำงานดี มีสาระ แก้ปัญหาได้ ก็เท่ากับยืมดาบศัตรู ฆ่าพวกเดียวกันเอง
ยามนี้เปรียบดั่งรัฐบาลยิ่งลักเป็นเมียที่มีแต่ทะเบียนสมรส ผัวตัวดีพร้อมจะออกจากบ้านไปทุกเมื่อ บ้านก็จะถูกยึด ลูกก็จะโดนแย่งไป กฎหมายก็พร้อมจะหันหลังให้ จึงต้องใช้ปัญญาเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า เกมก็เลยออกมาเป็นแบบนี้