นิวยอร์กไทมส์ลงบทบรรณาธิการ "ประชาธิปไตยในไทย" ระบุการชุมนุมประท้วงเหนี่ยวรั้งประเทศ แนะกำนันสุเทพและประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งเสนอแผนปฏิรูปให้ชัด ขณะ "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ควรเลิกคิดพาพี่ชายกลับประเทศ แล้วหันมาเน้นปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า
บทบรรณาธิการซึ่งปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐ ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ด้วยนั้น ให้ชื่อเรื่องว่า "Democracy in Thailand" (ประชาธิปไตยในประเทศไทย) โดยเกริ่นประโยคแรกว่า เป็นอีกครั้งที่ผู้ประท้วงกำลังคุกคามเสถียรภาพทางการเมืองที่เปราะบางของไทย
รัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่วันที่ 2 กุมภาพันธ์แล้ว แต่ผู้ชุมนุมที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแนวร่วมด้วย ก็ยังไม่พอใจ พวกเขาต้องการแทนที่สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งด้วยสภาประชาชนที่เป็นพวกเทคโนแครตจากการแต่งตั้ง และยังประกาศจะขัดขวางการเลือกตั้งทุกวิถีทาง
ไทมส์เล่าที่มาที่ไปของการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุด โดยกล่าวว่า เริ่มต้นจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์พยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะยกโทษให้พวกที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองที่มักเกิดรุนแรงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในนี้คือทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอซึ่งไปใช้ชีวิตพลัดถิ่นอยู่ที่ดูไบเพราะถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดคดีคอร์รัปชัน วุฒิสภาคว่ำกฎหมายนี้แล้ว
แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าเขาและผู้ชุมนุมจะไม่เลิกประท้วงจนกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะลาออก และตระกูลชินวัตรถูกห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองอย่างถาวร
"ผู้ประท้วงพยายามชักชวนกองทัพ ซึ่งเคยมีประวัติปลดรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มาประกาศสนับสนุนข้อเรียกร้องของตน น่ายินดีที่พวกนายพลปฏิเสธจะแทรกแซง และยังเสนอให้ความช่วยเหลือในการจัดการเลือกตั้งที่ 'บริสุทธิ์ยุติธรรม' ประเทศไทย ซึ่งเป็นระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่อาจทนรับรัฐบาลทหารหรือระบอบอัตตาธิปไตยโดยพวกเทคโนแครตได้อีกแล้ว"
บทบรรณาธิการสื่อดังของสหรัฐกล่าว
ไทมส์วิจารณ์นายสุเทพและบรรดาผู้สนับสนุนเขา ซึ่งถูกระบุว่าส่วนใหญ่เป็นพวกคนกรุงและเป็นตัวแทนชนกลางและชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ว่ากำลังเล่นเกมอันตรายและดูถูกเหยียมหยามคนอื่น คนเหล่านี้ลงความเห็นว่าถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งแพ้เลือกตั้งมาตลอดนับแต่ปี 2535 คงไม่มีทางชนะพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนโยบายประชานิยม เช่น การรักษาโรคฟรีและการอุดหนุนชาวนา ที่ทำให้ได้รับความภักดีจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน หากพวกเขาสามารถล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยน่าจะออกมาชุมนุมประท้วงกันเหมือนที่เคยทำเมื่อปี 2553
"นายสุเทพกล่าวไว้ว่าไม่ควรมีการเลือกตั้งจนกว่าประเทศจะปฏิรูปการเมือง แต่เขาปฏิเสธจะระบุถึงการปฏิรูปที่ว่านั้น แทนที่จะบั่นทอนประชาธิปไตยด้วยการพยายามขัดขวางการเลือกตั้ง นายสุเทพและพวกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง และประกาศข้อเสนอสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาคิดว่าจำเป็นต่อประเทศนี้"
บทบรรณาธิการทิ้งท้ายด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ควรเลิกพยายามพาพี่ชายกลับบ้านและหันมาให้ความสนใจกับเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนตัว กองทุนการเงินระหว่างประเทศเพิ่งแนะนำเมื่อไม่นานมานี้ว่าไทยควรลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษา เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งที่ครั้งหนึ่งไทยเคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในเสือเศรษฐกิจของเอเชีย แต่ช่วงหลายปีมานี้ ประเทศไทยกลับต้องดิ้นรนส่วนหนึ่ง เพราะความวุ่นวายทางการเมือง ความปั่นป่วนล่าสุดอาจกลายเป็นความเสื่อมถอยครั้งใหญ่อีกครั้งก็เป็นได้.
http://women.postjung.com/732106.html
นิวยอร์กไทมส์แนะยิ่งลักษณ์ เลิกคิดพาพี่กลับบ้าน
นิวยอร์กไทมส์ลงบทบรรณาธิการ "ประชาธิปไตยในไทย" ระบุการชุมนุมประท้วงเหนี่ยวรั้งประเทศ แนะกำนันสุเทพและประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งเสนอแผนปฏิรูปให้ชัด ขณะ "น.ส.ยิ่งลักษณ์" ควรเลิกคิดพาพี่ชายกลับประเทศ แล้วหันมาเน้นปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า
บทบรรณาธิการซึ่งปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐ ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ด้วยนั้น ให้ชื่อเรื่องว่า "Democracy in Thailand" (ประชาธิปไตยในประเทศไทย) โดยเกริ่นประโยคแรกว่า เป็นอีกครั้งที่ผู้ประท้วงกำลังคุกคามเสถียรภาพทางการเมืองที่เปราะบางของไทย
รัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่วันที่ 2 กุมภาพันธ์แล้ว แต่ผู้ชุมนุมที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแนวร่วมด้วย ก็ยังไม่พอใจ พวกเขาต้องการแทนที่สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งด้วยสภาประชาชนที่เป็นพวกเทคโนแครตจากการแต่งตั้ง และยังประกาศจะขัดขวางการเลือกตั้งทุกวิถีทาง
ไทมส์เล่าที่มาที่ไปของการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุด โดยกล่าวว่า เริ่มต้นจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์พยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะยกโทษให้พวกที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองที่มักเกิดรุนแรงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในนี้คือทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอซึ่งไปใช้ชีวิตพลัดถิ่นอยู่ที่ดูไบเพราะถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดคดีคอร์รัปชัน วุฒิสภาคว่ำกฎหมายนี้แล้ว
แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าเขาและผู้ชุมนุมจะไม่เลิกประท้วงจนกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะลาออก และตระกูลชินวัตรถูกห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองอย่างถาวร
"ผู้ประท้วงพยายามชักชวนกองทัพ ซึ่งเคยมีประวัติปลดรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มาประกาศสนับสนุนข้อเรียกร้องของตน น่ายินดีที่พวกนายพลปฏิเสธจะแทรกแซง และยังเสนอให้ความช่วยเหลือในการจัดการเลือกตั้งที่ 'บริสุทธิ์ยุติธรรม' ประเทศไทย ซึ่งเป็นระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่อาจทนรับรัฐบาลทหารหรือระบอบอัตตาธิปไตยโดยพวกเทคโนแครตได้อีกแล้ว"
บทบรรณาธิการสื่อดังของสหรัฐกล่าว
ไทมส์วิจารณ์นายสุเทพและบรรดาผู้สนับสนุนเขา ซึ่งถูกระบุว่าส่วนใหญ่เป็นพวกคนกรุงและเป็นตัวแทนชนกลางและชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ว่ากำลังเล่นเกมอันตรายและดูถูกเหยียมหยามคนอื่น คนเหล่านี้ลงความเห็นว่าถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งแพ้เลือกตั้งมาตลอดนับแต่ปี 2535 คงไม่มีทางชนะพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนโยบายประชานิยม เช่น การรักษาโรคฟรีและการอุดหนุนชาวนา ที่ทำให้ได้รับความภักดีจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน หากพวกเขาสามารถล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยน่าจะออกมาชุมนุมประท้วงกันเหมือนที่เคยทำเมื่อปี 2553
"นายสุเทพกล่าวไว้ว่าไม่ควรมีการเลือกตั้งจนกว่าประเทศจะปฏิรูปการเมือง แต่เขาปฏิเสธจะระบุถึงการปฏิรูปที่ว่านั้น แทนที่จะบั่นทอนประชาธิปไตยด้วยการพยายามขัดขวางการเลือกตั้ง นายสุเทพและพวกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง และประกาศข้อเสนอสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาคิดว่าจำเป็นต่อประเทศนี้"
บทบรรณาธิการทิ้งท้ายด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ควรเลิกพยายามพาพี่ชายกลับบ้านและหันมาให้ความสนใจกับเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนตัว กองทุนการเงินระหว่างประเทศเพิ่งแนะนำเมื่อไม่นานมานี้ว่าไทยควรลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษา เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งที่ครั้งหนึ่งไทยเคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในเสือเศรษฐกิจของเอเชีย แต่ช่วงหลายปีมานี้ ประเทศไทยกลับต้องดิ้นรนส่วนหนึ่ง เพราะความวุ่นวายทางการเมือง ความปั่นป่วนล่าสุดอาจกลายเป็นความเสื่อมถอยครั้งใหญ่อีกครั้งก็เป็นได้.
http://women.postjung.com/732106.html