คำสอนของศาสนาอิสลาม ในกรณีเรื่องที่เกี่ยวกับ รักร่วมเพศ เกย์,เลสเบียน กระเทย

กระทู้สนทนา
มีสมาชิกบางท่านสงสัยในคำสอนของศาสนาอิสลาม ในกรณีเรื่องที่เกี่ยวกับ รักร่วมเพศ เกย์,เลสเบียน กระเทย ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่เปิดเผย และเรียกร้องให้สังคมยอมรับในสถานะภาพทางเพศของพวกเขา ให้เท่าเทียมกับ เพศชายและเพศหญิงตาม บรรทัดฐานของสังคม ที่มีสภาบันครอบครัวด้วยการสมรสเป็นสามีภรรยา

   แต่บรรทัดฐานของสังคมโดยทั่วๆไป การแต่งงาน จะต้องเป็นระหว่างหญิงแท้และชายแท้เท่านั้น จึงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสถาบันครอบครัวที่ทุกๆศาสนารับรองและมีความถูกต้อง ทางกฏหมายและคุณธรรมตามความศรัทธาที่ทุกๆศาสนาและความเชื่อถือยอมรับ

  เรื่อง เกย์,เลสเบียน และ กระเทย จะไม่เป็นปัญหาสังคมของโลก ถ้า เกย์,เลสเบียน และ กระเทย ปฏิบัติตนในสังคม เช่นเดียวกับเพศอื่นๆ ซึ่งไม่แสดงออกทางเรื่อง เพศสัมพันธ์ ให้ออกมาอย่างน่ารังเกียจและผิดจรรยาธรรมของสังคม

   ไม่ใช่ว่าสังคมจะตำหนิแต่เฉพาะบรรดา เกย์,เลสเบียน และ กระเทย เท่านั้น,  แม้แต่ ชายจริงหญิงแท้ที่แสดงความสัมพันธ์ทางเพศอย่างออกหน้าออกตาอย่างผิดศีลธรรมและจรรยาธรรม ในสังคมที่รักษาจารีตประเพณี ทุกๆสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมตะวันตกและสังคมตะวันออกก็ตาม ย่อมจะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมที่เคร่งครัดในจารีตประเพณี เช่นในสังคมพุทธศาสนิกชน,สังคมชาวฮินดู,สังคมมุสลิม,สังคมยิวและคริสเตียน

การรักร่วมเพศ ได้ถูกบัญญัติว่าเป็นบาป ในคัมภีร์ของชาว ยิว,ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิม อย่างชัดเจน

ในอัลกุรอานมีอยู่หลายบัญญัติที่เกี่ยวกับเรื่อง เกย์เลสเบียน และ กระเทย ตามบัญญัติข้างล่างนี้

‘‘และ (จงรำลึกถึง) ลูฏ เมื่อเขากล่าวแก่หมู่ชนของเขาว่า แท้จริงพวกท่านได้กระทำการลามกซึ่งไม่มีผู้ใดในหมู่มวลชนกระทำมาก่อนพวกท่านเลย แท้จริงพวกท่านสมสู่พวกผู้ชาย(คือสมสู่พวกผู้ชายด้วยกันทางทวาร)และปล้นบนทางหลวงกระนั้นหรือ ? และกระทำอนาจารในที่ชุมชนของพวกท่าน(ทำอนาจารอย่างเปิดเผยในที่ชุมชนอย่างสนุกสนาน)แต่คำตอบของหมู่ชนของเขามิใช่อื่นใดนอกจากกล่าวว่า จงนำการลงโทษของอัลลอฮ์มาให้แก่พวกเราซิ(เป็นการกล่าวเยาะเย้ยนะบี ลูฏ )หากท่านอยู่ในหมู่ผู้สัตย์จริง’’
  อัลอังกาบูต(29: 28-29)

“แล้วเราได้พลิกแผ่นดินกลับส่วนบนของมันเป็นส่วนล่างและให้หินจากนรกหล่นมาเผาผลาญพวกเขา”
อัลฮิจรฺ (15: 74)

อัลกุรอาน ประณามว่า ความรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของมนุษย์ในการสมสู่ทางเพศ ที่พระองค์ทรงสร้าง เพศหญิงเพศชายขึ้นมาเพื่อการสืบพันธุ์, การสมสู่กับเพศเดียวกันเป็นการละทิ้งอีกเพศหนึ่ง ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์, ซึ่งเป็นการละเมิดและฝ่าฝืนกฏบัญญัติของพระเจ้า, พระเจ้ายกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นว่า พระองค์ได้ทรงลงโทษโดยการพลิกแผ่นดินกลับส่วนบนของมันเป็นส่วนล่างและให้หินจากนรกหล่นมาเผาผลาญพวกเขา

   เนื่องจากศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสำหรับมนุษยชาติ, ศาสนาอิสลาม สอนให้ มุสลิมมีความเคารพในสิทธิมนุษยชน ไม่มีคำว่า สูงกว่าหรือต่ำกว่ากันในความเป็นมนุษย์, ศาสนาอิสลามมีไว้สำหรับมนุษยชาติไม่จำกัดว่าจะเป็นใคร เพศ ขายหรือเพศหญิง หรือเชื้อชาติอะไร ดังนั้นมุสลิมจึงไม่มีสิทธิที่จะประณาม เกย์,เลสเบียน และ กระเทย ใความแตกต่างทางเพศของเขา, เป็นสิทธิของพระเจ้าเท่านั้น

   อิสลามวางบัญญัติทุกๆอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวัน และชีวิตในครอบครัว และการประกอบศาสนกิจ ไว้อย่างชัดเจน  ดังนั้นผู้ที่ยอมรับอิสลาม จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตนตามกฏบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด ด้วยความเข้าใจและด้วยการใช้เหตุผล เช่นเดียวกันกับการที่บุคคลใดเข้าไปอาศัยและเป็นพลเมืองของประเทศใดเขาก็จะต้องปฏิบัติตัวตามกฏหมายของประเทศนั้นๆอย่างไม่มีเงื่อนไข,และถ้าไม่ปฏิบัติตามเขาก็จะถือว่า เป็นผู้ที่ฝ่าฝืนกฏหมาย ซึ่งมีความผิดและจะถูกลงโทษตามที่กฏหมายบ้านเมืองนั้นๆบัญญัติไว้

ด้วยเหตุนี้เราจะเห็นได้ว่า อิสลามไม่ได้สอนให้มุสลิมออกมาต่อต้าน ความเป็นเกย์,เลสเบียน และ กระเทย ของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม

  ในสังคมมุสลิมทั่วโลก มี เกย์,เลสเบียน และ กระเทย อยู่ไม่มากน้อยกว่าในสังคมอื่นๆ แต่ด้วยกฏบัญญัติของอิสลาม เกย์,เลสเบียน และ กระเทย เหล่านั้น มีความจำเป็นที่จะต้อง ปฏิบัติตัวตามหลักการของศาสนาอิสลาม ถ้าเขาเหล่านั้นไม่ทำตาม กรอบของอิสลาม เขาก็มีบาป ซึ่งเป็นสิทธิของพระเจ้าจะต้องลงโทษเขาเหล่านั้น ในปรโลก

    ในโลกมนุษย์ มุสลิมไม่มีสิทธิที่จะไปลงโทษ หรือตำหนิติเตียนพวกเขา, หรือด่าสาปแช่งพวกเขาเนื่องจากสิทธิในเรื่องนี้เป็นของพระเจ้าเท่านั้น ตามที่กล่าวมาแล้ว และความเป็นบาปของพวกเขาก็ไม่ต่างจากความเป็นบาปของมุสลิมผู้อื่น ที่กระทำผิดในเรื่องประเวณีที่มีบัญญัติไว้ในอัลกุรอาน

     ถ้าการกระทำนั้น เป็นที่เปิดเผยในสังคมและสร้างตัวอย่างที่ผิดหลักจารีตประเพณีและคุณธรรมจริยาธรรมที่ดีของสังคมมุสลิม ก็เป็นเรื่องที่บ้านเมืองจะต้องจัดการตามกฏหมาย ซึ่งจะต้องไม่เกินขอบเขตที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอาน

เป็นที่รู้กันสำหรับมุสลิมว่า ชีวิตมนุษย์เราคือการทดสอบของพระเจ้า การทดสอบนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะบุคคลเท่านั้น แต่รวมถึงการทดสอบ ความรับผิดชอบของสังคมมุสลิมต่อมุสลิมด้วยกัน ว่าจะให้ความช่วยเหลือกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างไรหรือไม่?

    หน้าที่ของมุสลิมหรือพ่อแม่ที่ประสพปัญหาเรื่อง เกย์,เลสเบียน และ กระเทย ในครอบครัว หรือ ในสังคม ก็คือให้ความช่วยเหลือ ในทุกๆทาง ไม่ว่าจะในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือ ทางจิตวิญญาณตามหลักการของศาสนา อย่างสุดความสามารถ

      เกย์มุสลิม,เลสเบียนมุสลิม และ กระเทยมุสลิม เขาจะ ต้องจะรักษาความเป็นมุสลิมของเขานั้นคือ การยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้า,สังคมมุสลิมไม่ควรปล่อยปะละเลยกีดกันขับไล่ให้เขาออกจากสังคมมุสลิม ทั้งนี้เพราะว่า อิสลามได้วางระเบียบในเรื่องความประพฤติในเรื่องเพศไว้อย่างรัดกุมแล้ว

   มันเป็นสิ่งที่ เกย์,เลสเบียน และ กระเทย มุสลิม,ที่จะต้องปฏิบัติตาม หลักการของอิสลาม เช่นเดียวกันกับมุสลิมชายและหญิงทั่วๆไป คือไม่มีการสมสู่กันทางเพศที่ผิดหลักการของศาสนาอิสลาม หรือมีการกระทำทางเพศที่ผิดหลักการของศาสนาอิสลามอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ แต่ไม่ได้หมาย ความ ว่าถ้ามีการกระทำกันในที่ลับแล้วเป็นที่ยอมรับของอิสลาม ซึ่งการกระทำเช่นนั้น เขาไม่อาจจะซ่อนเร้นต่อพระเจ้าได้ และในวันปรโลกเขาก็จะถูกตัดสินในความผิด เช่นเดียวกับมุสลิมโดยทั่วๆไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่