ตอนนี้ประสบปัญหา อยากปาระเบิดใส่คู่โปรเจคค่ะ ขอเกริ่นแนะนำคู่โปรเจคที่แสนน่ารักก่อนนะคะ
he เป็นคนที่เรียนดี เกรดสวย ภาษาเลิศ ตอนนี้เกรด he ได้เกียรตินิยมเรียบร้อย สอบไปฝึกงานที่ตปท.ได้ ทุนของ IAESTE ค่ะ
แต่ he เคยมีประวัติในแง่ลบตอนปี 2 จนเพื่อนหลายๆคนใน sec.1 บอยคอต he เบาๆ ส่วน sec.2 ที่เป็น sec. he ก็ยังคบกันอยู่
เลยไม่มีใครชวน he ไปเข้าร่วมโปรเจค บวกกับตอนนั้นคู่โปรเจคเราตอนแรกขอไปสหกิจกับโรงงานเพื่อนสนิทแทน
แล้วภาควิชาส่วนใหญ่ก็จับกลุ่มกันไปหมดแล้ว สรุปเราเป็นผู้เลือก he เข้ามาในชีวิตค่ะ (เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน)
เริ่มเรื่องค่ะ ตอนแรกๆ เค้าก็ช่วยงานเราดี กระตือรือร้น แต่จะขอกลับเร็วเพื่อไปเทคแคร์แฟนที่อยู่อีกคณะเราก็ไม่รู้สึกอะไร
เพราะเราเข้าใจว่า ถ้าเรามีแฟนก็อยากให้แฟนมีเวลาให้ ซึ่งเราก็อยู่ทำแล็ปจนดึกคนเดียว (แอบกลัวผีมาก)
พอจบเทอม 1 ในช่วงปิดเทอมตุลา บ้านเราน้ำท่วมจึงลาอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจคกลับบ้าน 1 สัปดาห์แต่พอกลับมาก็ลุยงานเหมือนเดิม
ก่อนกลับบ้านเราก็เคลียร์เล่ม 3 บทส่งให้อาจารย์เรียบร้อยค่ะ ซึ่งเค้าไม่มีส่วนร่วมใดๆเลย ไม่เคยถามถึงเล่มเลยซักนิด
แต่แล้ววันนึงอาจารย์ก็ขอให้กลุ่มเราเปลี่ยนหัวข้อโปรเจค เพื่อไปช่วยงานวิจัยที่อาจารย์อีกท่านได้รับทุนมา แต่ไม่มีนศ.ว่างแล้ว
ตอนแรกเราก็งอแง เพราะต้องทำเล่มใหม่ (คนเดียวอีกแล้วหรอ) อาจารย์บอกว่าเนื้องานไม่เยอะ บวกกับเราเคยลงเรียนวิชาเฉพาะนั้นมา
อาจารย์ก็บอกให้คู่โปรเจคช่วยเราทำเล่ม หรือช่วยหาข้อมูล ซึ่งเค้าก็รับปากค่ะ (อาจารย์รู้ว่าเค้าไม่ค่อยช่วยงาน)
พอปลายเดือน ต.ค. ก็คุยกันว่าต้องขยันทุ่มเทกันมากกว่านี้ งานจะได้เสร็จทันกำหนด เค้าก็รับปากเรานะว่าเปิดเทอมเค้าจะอยู่จนดึก
แรกๆเค้าอยู่ถึง 3-4 ทุ่ม เราก็นั่งลงเชื้อไป แล้วเค้าก็นั่งหลับรอเรา = =" เพื่อ?? นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราต้องรีบลุยงานเพื่อจะได้กลับพร้อมกัน
เพราะเค้าบอกว่าไม่ได้สิต้องกลับพร้อมกัน แต่หลังๆ เค้าก็กลับตั้งแต่ 2 ทุ่มจนสุดท้ายทุกวันนี้ 4-5 โมงก็กลับแล้วซึ่งงานยังไม่เสร็จ
เราก็โอเคไม่เป็นไร (หวังว่าวันนึงจะสำนึกได้ว่าตัวต้องไป ตปท.งานต้องเสร็จก่อนไม่งั้นอด) เราก็นั่งทำเองคนเดียว
แรกๆก็ 4-5 ทุ่ม แต่หลังๆ ตี 3-4 ทุกวัน แล้วเรามีตัวดรอปค่ะ วิชาหนักๆซึ่งเรามีปัญหาเรื่องสุขภาพตอนปี 2 ยังไงเทอมนี้ต้องผ่าน
แต่เค้าจะลงวิชาเลือกตอนแรกเยอะมาก จนเราท้วงไปว่าไม่ไหวนะ เค้าก็ดรอปทิ้งไปบ้างแต่ก็หลายวิชาอยู่ดี คือเรียนเราไม่ว่าค่ะ
แต่ต้องมีเวลาให้งานส่วนรวมด้วย....เพื่อนสนิทเราก็เริ่มด่าเราละว่า ยอมได้ไง
จุดพีคมันเริ่มตรงนี้ค่ะ เราทำแล็ปเกือบเช้าทุกวัน แต่เพื่อนสนิทเราเห็นเค้าเดินไปฟิตเนส (ซึ่งต้องไปทุกวันตอนเย็น ย้ำว่าทุกวันค่ะ
รักสุขภาพมาก เป็นพวกชอบสร้าง sixpack ซึ่งตอนนี้นน.เราพุ่งพรวด 12 กิโล เพราะกินๆนอนๆในแล็ป ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย
เลือกสรรอาหารมากไม่ได้ มีอะไรก็ต้องกิน ฝากคนอื่นซื้อบ้างเค้าเอาอะไรมาให้ก็ต้องกิน นอนไม่พอ สารพัดค่ะสุขภาพแย่)
เราก็เริ่มนอยด์ๆว่า เราเหนื่อยแทบตาย แต่เค้ากลับยังมีเวลาให้ตัวเอง ดูแลตัวเอง เทคแคร์ตัวเองได้เสมอ....แต่นอยด์แป้บเดียวก็หาย
แต่ที่ทำให้โมโหและสวดไปชุดใหญ่เลยคือ เค้าเป็นคนที่ทำอะไรขอไปที ทำลวกๆ แค่เสร็จ แพลนงานอะไรไว้ แบ่งงานอะไรกันไว้
เค้าจะทำไปงั้นๆ จนเราต้องมานั่งตามแก้ ซึ่งการตามแก้งานคนอื่นเป็นสิ่งที่เราเกลียดมาก และพาลจะทำให้เราอารมณ์ขึ้นเสมอ
แต่...ขนาดเราสวดไป 1 จบ เค้าก็เหมือนจะดีขึ้นค่ะในเรื่องอยู่ทำแล็ปจนดึก (5 ทุ่ม) แต่ก็ยังทำอะไรลวกๆอยู่ดี ไม่มีความละเอียด
แพลนงานไม่เป็น เทคนิคแล็ปแย่มาก แต่เกรด 3.xx ฝากงานไม่ได้ วันไหนเราป่วยนอนพักกลางวัน เย็นก็ต้องแว๊นพี่วินไปทำแล็ป
กลับเช้า แบบนี้ตลอด และที่สำคัญเรากลับแท็กซี่ค่ะ เงินก็ไม่มีจะกินละ แล้วเมื่อวาน เพลทสำหรับทำแล็ปไม่พอ ซึ่งตอนแรกเราหุ้นกัน
ซื้อเพลทพลาสติก ใช้รวมๆกับเพลทแก้ว เพื่อที่จะถ่ายภาพลงเล่มสวยๆ และสะดวกในการใช้งาน เราก็ปรึกษาเค้าว่าทำไงกันดี
เค้าบอกให้ไปขออาจารย์ซึ่ง!! อาจารย์ให้เราแพลนงานกันเองใหม่ ให้ใช้ให้พอ แต่มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเหลือเวลาอีก 1 เดือน
เลี้ยงเชื้อต่อครั้ง 14 วัน เราเลยจะสั่งเพลทพลาสติกเพิ่ม ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมาก เพราะพี่ที่ขายเป็นรุ่นพี่เรา ปกติ 1500 แต่ลดให้เหลือ 900
แม่เราซัพพอตเต็มที่ค่ะ แต่เค้านิ่งๆกับการสั่งเพลทครั้งนี้ เราเลยจะวัดใจกันไปเลยว่าจะหารมั้ย และตอนนี้หลายๆคนทั้งเพื่อนที่สนิท
และเพื่อนใน sec. เค้าก็แนะนำว่า ลากยาวไปจบพ.ค.เลย เราจะได้ทำแล็ปสบายๆมีเวลาพักผ่อนไม่ต้องเร่งอยู่คนเดียวเพราะเราไม่เดือดร้อนค่ะ
ปีหน้าเราพักเรียนภาษาเพิ่มเพื่อจะศึกษาต่อป.โท ส่วนเค้าต้องไปฝึกงาน ตปท.ช่วงเม.ย. แต่ต้องเตรียมตัวเรื่องเอกสารโน้นนี่ เดือน มี.ค.
ตอนนี้เลยสองจิตสองใจว่าจะทำยังไงดี เพราะถ้าจบพ.ค. คนนั้นเค้าก็ไม่ได้ไปฝึกงาน ตัดอนาคตเค้าแต่ก็เป็นบทเรียนให้เค้า
ยังไงขอคำแนะนำเพื่อนๆพี่ๆในพันทิปด้วยนะคะ ขอความเห็นค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดัดนิสัยคนประเภทนี้ได้ยังไง เหนื่อยใจมาก
บ่นซะยาว อึดอัดค่ะ นี่ก็จะสอบวันศุกร์แล้ว ปวดใจ

อุยตาย! ยาวมากจริงๆ
ทำอย่างไรกับคู่โปรเจคประเภทนี้ดี (help me please!!)
he เป็นคนที่เรียนดี เกรดสวย ภาษาเลิศ ตอนนี้เกรด he ได้เกียรตินิยมเรียบร้อย สอบไปฝึกงานที่ตปท.ได้ ทุนของ IAESTE ค่ะ
แต่ he เคยมีประวัติในแง่ลบตอนปี 2 จนเพื่อนหลายๆคนใน sec.1 บอยคอต he เบาๆ ส่วน sec.2 ที่เป็น sec. he ก็ยังคบกันอยู่
เลยไม่มีใครชวน he ไปเข้าร่วมโปรเจค บวกกับตอนนั้นคู่โปรเจคเราตอนแรกขอไปสหกิจกับโรงงานเพื่อนสนิทแทน
แล้วภาควิชาส่วนใหญ่ก็จับกลุ่มกันไปหมดแล้ว สรุปเราเป็นผู้เลือก he เข้ามาในชีวิตค่ะ (เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน)
เริ่มเรื่องค่ะ ตอนแรกๆ เค้าก็ช่วยงานเราดี กระตือรือร้น แต่จะขอกลับเร็วเพื่อไปเทคแคร์แฟนที่อยู่อีกคณะเราก็ไม่รู้สึกอะไร
เพราะเราเข้าใจว่า ถ้าเรามีแฟนก็อยากให้แฟนมีเวลาให้ ซึ่งเราก็อยู่ทำแล็ปจนดึกคนเดียว (แอบกลัวผีมาก)
พอจบเทอม 1 ในช่วงปิดเทอมตุลา บ้านเราน้ำท่วมจึงลาอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจคกลับบ้าน 1 สัปดาห์แต่พอกลับมาก็ลุยงานเหมือนเดิม
ก่อนกลับบ้านเราก็เคลียร์เล่ม 3 บทส่งให้อาจารย์เรียบร้อยค่ะ ซึ่งเค้าไม่มีส่วนร่วมใดๆเลย ไม่เคยถามถึงเล่มเลยซักนิด
แต่แล้ววันนึงอาจารย์ก็ขอให้กลุ่มเราเปลี่ยนหัวข้อโปรเจค เพื่อไปช่วยงานวิจัยที่อาจารย์อีกท่านได้รับทุนมา แต่ไม่มีนศ.ว่างแล้ว
ตอนแรกเราก็งอแง เพราะต้องทำเล่มใหม่ (คนเดียวอีกแล้วหรอ) อาจารย์บอกว่าเนื้องานไม่เยอะ บวกกับเราเคยลงเรียนวิชาเฉพาะนั้นมา
อาจารย์ก็บอกให้คู่โปรเจคช่วยเราทำเล่ม หรือช่วยหาข้อมูล ซึ่งเค้าก็รับปากค่ะ (อาจารย์รู้ว่าเค้าไม่ค่อยช่วยงาน)
พอปลายเดือน ต.ค. ก็คุยกันว่าต้องขยันทุ่มเทกันมากกว่านี้ งานจะได้เสร็จทันกำหนด เค้าก็รับปากเรานะว่าเปิดเทอมเค้าจะอยู่จนดึก
แรกๆเค้าอยู่ถึง 3-4 ทุ่ม เราก็นั่งลงเชื้อไป แล้วเค้าก็นั่งหลับรอเรา = =" เพื่อ?? นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราต้องรีบลุยงานเพื่อจะได้กลับพร้อมกัน
เพราะเค้าบอกว่าไม่ได้สิต้องกลับพร้อมกัน แต่หลังๆ เค้าก็กลับตั้งแต่ 2 ทุ่มจนสุดท้ายทุกวันนี้ 4-5 โมงก็กลับแล้วซึ่งงานยังไม่เสร็จ
เราก็โอเคไม่เป็นไร (หวังว่าวันนึงจะสำนึกได้ว่าตัวต้องไป ตปท.งานต้องเสร็จก่อนไม่งั้นอด) เราก็นั่งทำเองคนเดียว
แรกๆก็ 4-5 ทุ่ม แต่หลังๆ ตี 3-4 ทุกวัน แล้วเรามีตัวดรอปค่ะ วิชาหนักๆซึ่งเรามีปัญหาเรื่องสุขภาพตอนปี 2 ยังไงเทอมนี้ต้องผ่าน
แต่เค้าจะลงวิชาเลือกตอนแรกเยอะมาก จนเราท้วงไปว่าไม่ไหวนะ เค้าก็ดรอปทิ้งไปบ้างแต่ก็หลายวิชาอยู่ดี คือเรียนเราไม่ว่าค่ะ
แต่ต้องมีเวลาให้งานส่วนรวมด้วย....เพื่อนสนิทเราก็เริ่มด่าเราละว่า ยอมได้ไง
จุดพีคมันเริ่มตรงนี้ค่ะ เราทำแล็ปเกือบเช้าทุกวัน แต่เพื่อนสนิทเราเห็นเค้าเดินไปฟิตเนส (ซึ่งต้องไปทุกวันตอนเย็น ย้ำว่าทุกวันค่ะ
รักสุขภาพมาก เป็นพวกชอบสร้าง sixpack ซึ่งตอนนี้นน.เราพุ่งพรวด 12 กิโล เพราะกินๆนอนๆในแล็ป ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย
เลือกสรรอาหารมากไม่ได้ มีอะไรก็ต้องกิน ฝากคนอื่นซื้อบ้างเค้าเอาอะไรมาให้ก็ต้องกิน นอนไม่พอ สารพัดค่ะสุขภาพแย่)
เราก็เริ่มนอยด์ๆว่า เราเหนื่อยแทบตาย แต่เค้ากลับยังมีเวลาให้ตัวเอง ดูแลตัวเอง เทคแคร์ตัวเองได้เสมอ....แต่นอยด์แป้บเดียวก็หาย
แต่ที่ทำให้โมโหและสวดไปชุดใหญ่เลยคือ เค้าเป็นคนที่ทำอะไรขอไปที ทำลวกๆ แค่เสร็จ แพลนงานอะไรไว้ แบ่งงานอะไรกันไว้
เค้าจะทำไปงั้นๆ จนเราต้องมานั่งตามแก้ ซึ่งการตามแก้งานคนอื่นเป็นสิ่งที่เราเกลียดมาก และพาลจะทำให้เราอารมณ์ขึ้นเสมอ
แต่...ขนาดเราสวดไป 1 จบ เค้าก็เหมือนจะดีขึ้นค่ะในเรื่องอยู่ทำแล็ปจนดึก (5 ทุ่ม) แต่ก็ยังทำอะไรลวกๆอยู่ดี ไม่มีความละเอียด
แพลนงานไม่เป็น เทคนิคแล็ปแย่มาก แต่เกรด 3.xx ฝากงานไม่ได้ วันไหนเราป่วยนอนพักกลางวัน เย็นก็ต้องแว๊นพี่วินไปทำแล็ป
กลับเช้า แบบนี้ตลอด และที่สำคัญเรากลับแท็กซี่ค่ะ เงินก็ไม่มีจะกินละ แล้วเมื่อวาน เพลทสำหรับทำแล็ปไม่พอ ซึ่งตอนแรกเราหุ้นกัน
ซื้อเพลทพลาสติก ใช้รวมๆกับเพลทแก้ว เพื่อที่จะถ่ายภาพลงเล่มสวยๆ และสะดวกในการใช้งาน เราก็ปรึกษาเค้าว่าทำไงกันดี
เค้าบอกให้ไปขออาจารย์ซึ่ง!! อาจารย์ให้เราแพลนงานกันเองใหม่ ให้ใช้ให้พอ แต่มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเหลือเวลาอีก 1 เดือน
เลี้ยงเชื้อต่อครั้ง 14 วัน เราเลยจะสั่งเพลทพลาสติกเพิ่ม ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมาก เพราะพี่ที่ขายเป็นรุ่นพี่เรา ปกติ 1500 แต่ลดให้เหลือ 900
แม่เราซัพพอตเต็มที่ค่ะ แต่เค้านิ่งๆกับการสั่งเพลทครั้งนี้ เราเลยจะวัดใจกันไปเลยว่าจะหารมั้ย และตอนนี้หลายๆคนทั้งเพื่อนที่สนิท
และเพื่อนใน sec. เค้าก็แนะนำว่า ลากยาวไปจบพ.ค.เลย เราจะได้ทำแล็ปสบายๆมีเวลาพักผ่อนไม่ต้องเร่งอยู่คนเดียวเพราะเราไม่เดือดร้อนค่ะ
ปีหน้าเราพักเรียนภาษาเพิ่มเพื่อจะศึกษาต่อป.โท ส่วนเค้าต้องไปฝึกงาน ตปท.ช่วงเม.ย. แต่ต้องเตรียมตัวเรื่องเอกสารโน้นนี่ เดือน มี.ค.
ตอนนี้เลยสองจิตสองใจว่าจะทำยังไงดี เพราะถ้าจบพ.ค. คนนั้นเค้าก็ไม่ได้ไปฝึกงาน ตัดอนาคตเค้าแต่ก็เป็นบทเรียนให้เค้า
ยังไงขอคำแนะนำเพื่อนๆพี่ๆในพันทิปด้วยนะคะ ขอความเห็นค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดัดนิสัยคนประเภทนี้ได้ยังไง เหนื่อยใจมาก
บ่นซะยาว อึดอัดค่ะ นี่ก็จะสอบวันศุกร์แล้ว ปวดใจ