เอเอฟพี - ทนายความของ "ทอม ครูซ" เปิดเผยว่านักแสดงซูเปอร์สตาร์สามารถตกลงยอมความกับบริษัทเจ้าของนิตยสารเล่มดัง ในคดีความที่เขาฟ้องร้องคู่กรณีเป็นเงินมหาศาล 50 ล้านเหรียญฯ เพื่อเป็นค่าเสียหายที่ตัวเองโดนใส่ร้ายว่าทอดทิ้งลูกสาว เพราะความเชื่อทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้จะไม่มีการเปิดเผยถึงข้อตกลงดังกล่าว แต่แถลงการณ์ของสำนักพิมพ์ Bauer จากเยอรมันก็ยืนยันว่าพวกเขา "ไม่เคยตั้งใจ" ที่จะกล่าวหาว่าพระเอกหนัง Mission Impossible ทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองอย่างที่ว่าแต่อย่างใด
โดย ทอม ครูซ และอดีตภรรยา เคที โฮล์มส์ ประกาศแยกทางกันในเดือน มิ.ย. ปีก่อนหลังฝ่ายหญิงเป็นผู้ยื่นเอกสารขอหย่า ต่อมานิตยสาร Life & Style ของ Bauer จึงได้นำเสนอข่าวที่มีพาดหัวว่า "ซูริ เสียน้ำตา, โดนพ่อของตัวเองทอดทิ้ง" ประกอบกับภาพของ ซูริ ครูซ ขณะกำลังร้องไห้ ระหว่างอยู่กับแม่ที่ นิวยอร์ก
ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับ ทอม ครูซ เป็นอย่างมาก จนตัดสินใจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และขั้นตอนของกฎหมายได้ดำเนินมามากกว่า 1 ปีแล้ว จนคดีสิ้นสุดลงได้เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงยอมความกัน โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงให้สาธารณะชนทราบแต่อย่างใด นอกจากรายละเอียดที่ทางเว็บไซต์ TMZ ทราบมาว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายทางกฎหมายของแต่ละฝ่ายเอง
Bauer Publishing ที่เป็นเจ้าของนิตยสาร In Touch และ Life & Style ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสื่อสารว่า ทอม ครูซ ตัดขาด และทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองแต่อย่างใด และรู้สึกเสียใจหากมีใครอ่านบทความดังกล่าว และเข้าใจไปในทางนั้น
ครูซ กับ โฮล์มส แต่งงานกันในปี 2006 หลังพบรักกันก่อนหน้านั้นไม่นานนัก และขอแต่งงานกันอย่างโรแมนติกที่หอไอเฟลในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่แล้วความรักสุดหวานกลับต้องจบลงอย่างกะทันหันหลังฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจฟ้องหย่าในปี 2012 ซึ่งเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเป็นการฟ้องหย่าที่ตัวของ ทอม ครูซ ไม่ได้ทราบระแคะระคายมาก่อนล่วงหน้าเลย
เมื่อเดือนก่อน ทอม ครูซ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาทอดทิ้งลูก แม้จะมีบทบัญญัติของไซแอนโทโลยี ลัทธิที่เขาศรัทธาอยู่เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้นับถือลัทธินี้ต้องตัดขาดจากบุคคลที่ออกจากลัทธิไป แม้บุคคลดังกล่าวจะเป็นญาติสนิทกันก็ตาม อย่างไรก็ตาม ครูซ ยอมรับว่าระยะหลังเขามีโอกาสพบลูกน้อยลง แต่นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกาก็ยังกล่าวอย่างหนักแน่นว่าความสัมพันธ์ของเขาและลูกสาวยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม และเชื่อว่าลูกก็ "ไม่เคยคิดว่าตัวเอง โดนผมทอดทิ้งแน่นอน"
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156721
"ทอม ครูซ" ยุติศึกคดี 50 ล้านเหรียญฯ โดนกล่าวหาทอดทิ้งลูกสาว
เอเอฟพี - ทนายความของ "ทอม ครูซ" เปิดเผยว่านักแสดงซูเปอร์สตาร์สามารถตกลงยอมความกับบริษัทเจ้าของนิตยสารเล่มดัง ในคดีความที่เขาฟ้องร้องคู่กรณีเป็นเงินมหาศาล 50 ล้านเหรียญฯ เพื่อเป็นค่าเสียหายที่ตัวเองโดนใส่ร้ายว่าทอดทิ้งลูกสาว เพราะความเชื่อทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้จะไม่มีการเปิดเผยถึงข้อตกลงดังกล่าว แต่แถลงการณ์ของสำนักพิมพ์ Bauer จากเยอรมันก็ยืนยันว่าพวกเขา "ไม่เคยตั้งใจ" ที่จะกล่าวหาว่าพระเอกหนัง Mission Impossible ทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองอย่างที่ว่าแต่อย่างใด
โดย ทอม ครูซ และอดีตภรรยา เคที โฮล์มส์ ประกาศแยกทางกันในเดือน มิ.ย. ปีก่อนหลังฝ่ายหญิงเป็นผู้ยื่นเอกสารขอหย่า ต่อมานิตยสาร Life & Style ของ Bauer จึงได้นำเสนอข่าวที่มีพาดหัวว่า "ซูริ เสียน้ำตา, โดนพ่อของตัวเองทอดทิ้ง" ประกอบกับภาพของ ซูริ ครูซ ขณะกำลังร้องไห้ ระหว่างอยู่กับแม่ที่ นิวยอร์ก
ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับ ทอม ครูซ เป็นอย่างมาก จนตัดสินใจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และขั้นตอนของกฎหมายได้ดำเนินมามากกว่า 1 ปีแล้ว จนคดีสิ้นสุดลงได้เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงยอมความกัน โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงให้สาธารณะชนทราบแต่อย่างใด นอกจากรายละเอียดที่ทางเว็บไซต์ TMZ ทราบมาว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายทางกฎหมายของแต่ละฝ่ายเอง
Bauer Publishing ที่เป็นเจ้าของนิตยสาร In Touch และ Life & Style ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสื่อสารว่า ทอม ครูซ ตัดขาด และทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองแต่อย่างใด และรู้สึกเสียใจหากมีใครอ่านบทความดังกล่าว และเข้าใจไปในทางนั้น
ครูซ กับ โฮล์มส แต่งงานกันในปี 2006 หลังพบรักกันก่อนหน้านั้นไม่นานนัก และขอแต่งงานกันอย่างโรแมนติกที่หอไอเฟลในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่แล้วความรักสุดหวานกลับต้องจบลงอย่างกะทันหันหลังฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจฟ้องหย่าในปี 2012 ซึ่งเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเป็นการฟ้องหย่าที่ตัวของ ทอม ครูซ ไม่ได้ทราบระแคะระคายมาก่อนล่วงหน้าเลย
เมื่อเดือนก่อน ทอม ครูซ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเขาทอดทิ้งลูก แม้จะมีบทบัญญัติของไซแอนโทโลยี ลัทธิที่เขาศรัทธาอยู่เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้นับถือลัทธินี้ต้องตัดขาดจากบุคคลที่ออกจากลัทธิไป แม้บุคคลดังกล่าวจะเป็นญาติสนิทกันก็ตาม อย่างไรก็ตาม ครูซ ยอมรับว่าระยะหลังเขามีโอกาสพบลูกน้อยลง แต่นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกาก็ยังกล่าวอย่างหนักแน่นว่าความสัมพันธ์ของเขาและลูกสาวยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม และเชื่อว่าลูกก็ "ไม่เคยคิดว่าตัวเอง โดนผมทอดทิ้งแน่นอน"
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000156721