ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับเหรียญทองทุกเหรียญของทัพนักกีฬาไทย อยากบอกว่าทุกเหรียญสุดยอด และมีความสำคัญจนทำให้ทัพนักกีฬาไทยเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ในครั้งนี้ เอาไว้ถ้ามีเวลาผมจะมารวบรวมความสุดยอดของนักกีฬาประเภทอื่นๆอีกทีครับ
กระทู้นี้ ผมขอทำตัวเป็นเซียนหลังเกมส์ วิเคราะห์ความสำเร็จเหรียญทองฟุตบอลชาย เหรียญที่แฟนบอลไทยบอกว่า ถ้าไม่ได้ ก็เหมือนว่าไทยไม่ได้เป็นเจ้าเหรียญทองอย่างสมบูรณ์ มาดูกันว่า ใครที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จครั้งนี้กันบ้าง
(เครดิตภาพทั้งหมด:goal.com)
นักฟุตบอล
-
ผู้รักษาประตู:"กวิน บินได้"หายจากอาการบาดเจ็บมาร่วมซีเกมส์ครั้งนี้ได้แบบฉิวเฉียด และเขาก็เป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญ ที่ทำให้ไทยคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้ การป้องกันประตูและการออกมาตัดลูกอันตราย ที่แทบจะไม่มีข้อผิดพลาดตลอดทัวร์นาเมนต์เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ไทยคว้าแชมป์ในครั้งนี้ได้ โดยเฉพาะการทำสองคลีนชีต ในสองแมทช์สุดท้าย นอกจากนี้ ผู้รักษาประตูสำรองทั้ง ชนินทรฺ์ แซ่เอียะ ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีในแมทช์เจอกัมพูชา และอุกฤษณ์ วงศ์มีมา นายประตูดาวรุ่งอีกคนหนึ่ง ทั้ง 3 ผู้รักษาประตูในทีมชุดนี้ี้ ทำให้เรามั่นใจได้ว่า จากนี้ไปอีกอย่างน้อย 10 ปี ทีมชาติไทยจะไม่ขาดแคลนผู้รักษาประตูฝีมือดีอย่างแน่นอน
-
กองหลัง: ขุมกำลังที่แฟนบอลไทยต่างปรามาสตั้งแต่ก่อนแข่งว่า นี่คือจุดอ่อนของทีมชาติไทยชุดนี้ แต่แบ๊กโฟร์ทั้งสี่ของไทย ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเค้าเล่นเกมส์รับได้อย่างมีวินัย เพียงใด ประวีณวัช และสกลวัชร์ ร่วมกันเล่นตรงกลางได้อย่างลงตัวขึ้นเรื่อยๆจนมาพีคในสองแมทช์สุดท้าย โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ ที่คู่ต่อสู้แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนี้ ประวีณวัช ยังมีทีเด็ดในการขึ้นเกมรุกมาช่วยทำประตูและการยิงจุดโทษที่เฉียบขาดอีกด้วย ส่วนแบ็คด้านข้าง เจ้าอุ้ม ธีราทร ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานนักเตะยอดเยี่ยมไทยพรีเมียร์ลีก รวมทั้งสอบผ่านฉลุยกับการเป็นกัปตันทีมชาติในการควบคุมอารมณ์และเป็นผู้นำ ส่วน อาทิตย์ ดาวสว่าง กับตำแหน่งแบ็คขวา ที่ใครหลายคนเป็นห่วง ทั้งในเรื่องที่ได้ตำแหน่งไม่ถนัดนักและเรื่องการควบคุมอารมณ์ แต่ อาทิตย์ ได้แสดงให้เห็นแล้วถึงความทุ่มเท และการสะกดกลั้นอารมณ์เมื่อมีธงไตรรงค์อยู่ที่หน้าอก โดยเฉพาะในนัดชิงที่มีความกดดัน และต้องบอกว่า อาทิตย์คือคนที่โดนโจมตีหนักที่สุดในตำแหน่งนั้น เพราะทั้งตัวจี๊ด ตัวสำรอง และตัวลูกครึ่งของอินโด เน้นการโจมตีทางฝั่งของอาทิตย์อย่างหนัก แต่แล้วอาทิตย์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างอดทน จนเป็นทางฝ่ายอินโดเองที่ตบะแตกมาเล่นนอกเกมใส่ แต่อาทิตย์กลับไม่ตอบโต้และตั้งใจเล่นต่อไป นี่ทำให้ชัยชนะของไทย กลายเป็นชัยชนะหมดจด และทิ้งคำว่า "บอลไทย ไปมวยโลก" ไว้เป็นเพียงอดีต
-
กองกลาง: นี่คือขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นจุดเด่นของทีมชาติไทยชุดนี้ ที่ทำให้ทุกชาติยกให้ไทยเป็นเต็งหนึ่ง สามขุนพลเอกตรงกลางสนาม ผมขอยกให้ ชาริล ชับปุยส์,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, และ ปกเกล้า อนันต์ ผมมั่นใจว่า ถ้าทั้งสามคนนี้ได้เล่นร่วมกันบ่อยๆ อนาคตที่สดใสของทีมชาติไทยชุดใหญ่จะอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน ตำแหน่งตัวริมเส่น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ คือคนที่เล่นได้อย่างจี๊ดจ๊าดและทุ่มเท และที่ผมชอบที่สุดคือ เกริกฤทธิ์ เสียการครอบครองบอลยากมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของตำแหน่งนี้ ส่วนเมสซี่ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็วูบวาบหวือหวาสมกับเป็นตัวโจ๊กเกอร์ของทีมเสมอ ส่วนศราวุฒิ มาสุข ปีกจอมยิง ก็มาคืนฟอร์มในนัดชิงสามารถทำประตูสำคัญที่สุดของทีมชาติไทยได้
-
กองหน้า: แม้ว่าทั้ง อดิศักดิ์ ไกรษร และชนานันท์ ป้อมบุปผา จะทำประตูไม่ได้เป็นกอบเป็นกำในซีเกมส์ครั้งนี้ อาจเพราะแทคติกที่ทำให้ทั้งสองต้องลงเป็นศูนย์หน้าตัวเดียว และมักโดดเดี่ยวอยู่ในแดนหน้า แต่การที่ไทยทำประตูได้จากกองกลางที่ดันขึ้นมา ก็ต้องยกเครดิตกองหน้าไทยบ้าง ที่ช่วยดึงตัวประกบให้ และยังมีส่วนร่วมเก็บบอลในแดนหน้าอยู่มากพอสมควร
โค้ชและทีมงาน
ซิโก้และทีมงาน แบกความกดดันมหาศาลไว้ด้วยโจทย์ที่ว่า "ต้องแชมป์สถานเดียวเท่านั้น" ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่า ฟุตบอลมันก็ลูกกลมๆ ไทยก็ไม่ใช่บราซิล อันดับฟีฟ่าก็ต่ำกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียนบางทีม แถมเพิ่งตกรอบแรกมา 2 ครั้งซ้อน แต่ไม่รู้ทำไม แฟนบอลไทยทุกคน (รวมทั้งผมด้วย) ถึงได้กดดันซิโก้นักหนาว่าต้องแชมป์เท่านั้น ซึ่งสำหรับบางคนยังไม่พอด้วยซ้ำ ยังเติมคำว่า "ต้องได้แชมป์แบบสวยงาม" ซะด้วยสิ
หากเปรียบเทียบซิโก้ดั่งนักกายกรรมเดินไต่เชือก กองเชียร์ที่มองอยู่ด้านล่าง ต่างก็ตะโกนเชียร์โห่ร้อง บางคนก็บอกว่าให้เดินเร็วๆสิ จะมัวชักช้าอยู่ทำไม ไม่เร้าใจเลย บางคนก็บอกว่าเอาแต่เดินทื่อๆช้าๆน่าเบื่อ ทำไมไม่เดินไขว้ขาบ้าง กระโดดบ้าง ให้มันดูสวยงามน่าติดตาม บางคนก็บอกว่าค่อยๆเดินไปก็ดีแล้ว เดินให้ถึงเส้นชัยก็พอ ส่วนในมุมมองของซิโก้ที่ยืนอยู่บนเส้นเชือกโดนปราศจากตาข่ายรองรับ เค้ารู้ดีว่า การแสดงของเค้า พลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ถ้าพลาดนั่นคือการตกลงไปตายสถานเดียว เค้าจึงเลือกที่จะเดินทีละก้าวๆ อย่างรอบคอบและสุขุม และในที่สุด เค้าก็ไปถึงเส้นชัยได้อย่างขาวสะอาด โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยใดๆ ผมจึงขอยกย่องซิโก้ที่จะเป็นตำนานนักเตะและโค้ชแห่งซีเกมส์ไปอีกนานแสนนาน หากปราศจากความกดดัน และเงื่อนไขดังกล่าว ผมมั่นใจว่า โค้ชซิโกเอง ก็สามารถที่จะทำฟุตบอลในสไตล์เกมรุกแบบสนุกสนานแบบที่แฟนบอลอยากเห็นได้เช่นกัน ดังที่ซิโก้เคยทำให้ดูมาแล้วในแมทช์ในตำนานชนะจีน 5-1
แฟนบอลชาวไทย
เหนือสิ่งอื่นใด ผมยกให้ "แฟนบอลชาวไทยทุกคน" คือผู้ชนะตัวจริง เพราะอะไรน่ะหรือครับ
1.เพราะคุณทำให้"คนคนนั้น"ไม่สามารถบริหารสมาคมแบบที่เคยทำส่งๆเหมือนเมื่อก่อนได้อีกต่อไปแล้ว เหล่าแฟนบอลที่ช่วยกันกดดันทั้งในโลกไซเบอร์และในสนามต่างๆ ทำให้"คนคนนั้น"ไม่สามารถพลาดได้ในซีเกมส์ครั้งนี้ ผลก็คือ การได้เวลาเตรียมทีมอย่างยาวนานและการสนับสนุนในด้านต่างๆที่ดีขึ้นของสมาคมนั่นเอง
2.เพราะคุณทำให้นักเตะหลายๆคนเกิดการพัฒนา ผมมั่นใจว่านักเตะไทยทุกคนจะต้องติดตามกระแสวิจารณ์การเล่นของตัวเองในโลกอินเตอร์เนตอย่างแน่นอน และแน่นอนว่านักเตะเองก็พยายามจะเล่นเพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลมากกว่าที่จะต้องโดนด่า วันนี้เราจึงได้เห็นกัปตันอุ้ม ธีราทร ที่เล่นแต่ฟุตบอล ไม่ได้เล่นคนอีกต่อไป และเราก็ยังได้เห็น อาทิตย์ ดาวสว่าง นักเตะเลือดร้อนของรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก กลายเป็นนักเตะที่นสงบดุจน้ำนิ่งในนามทีมชาติ
3.เพราะคุณทำให้ลีกไทยเกิดการพัฒนา เมื่อลีกแข็งแกร่ง นักเตะทีมชาติย่อมแข็งแกร่งตามไปด้วย
ดังนั้น "แฟนบอลชาวไทยทุกคน" ไม่ว่าจะ "เสียงชม"หรือ"เสียงด่า" ผมมองว่ายังไงพวกคุณก็สำคัญทั้งคู่ครับ "เสียงชม"จะช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาและทีมงานให้มีใจสู้ฮึกเหิม ส่วน"เสียงด่า"จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ที่ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาทีมชาติไทยที่สุด ก็คือ "จำนวนของแฟนบอลไทย" มากกว่าครับ บางคนถึงจะดูไป ด่าไป แต่ก็ดูไม่หยุดและดูมาได้เป็นสิบๆปี (พ่อผมก็คนนึงล่ะ) เพราะฉะนั้นมาเถอะครับ ชวนเพื่อนฝูง พ่อ แม่ พี่ น้อง มาดูบอลไทย มาเป็นแฟนบอลไทยกันดีกว่า จะดูไป ด่าไป หรือยังไงก็ได้ ขอแค่ "จำนวนของแฟนบอลไทย"มีมากขึ้นเท่านั้นแหละ แล้วทุกอย่างจะพัฒนาขึ้นเองครับ บอลไทยจะไปบอลโลกได้หรือไม่ คุณเองก็ช่วยได้ เอ้า...สู้ต่อไป...ไทยแลนด์!!!
ิวิเคราะห์เหรียญทองฟุตบอลชาย ฉบับ Positive Thinking...เหรียญนี้เป็นของแฟนบอลไทยทุกคนอย่างแท้จริง!!!
กระทู้นี้ ผมขอทำตัวเป็นเซียนหลังเกมส์ วิเคราะห์ความสำเร็จเหรียญทองฟุตบอลชาย เหรียญที่แฟนบอลไทยบอกว่า ถ้าไม่ได้ ก็เหมือนว่าไทยไม่ได้เป็นเจ้าเหรียญทองอย่างสมบูรณ์ มาดูกันว่า ใครที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จครั้งนี้กันบ้าง
(เครดิตภาพทั้งหมด:goal.com)
นักฟุตบอล
-ผู้รักษาประตู:"กวิน บินได้"หายจากอาการบาดเจ็บมาร่วมซีเกมส์ครั้งนี้ได้แบบฉิวเฉียด และเขาก็เป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญ ที่ทำให้ไทยคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้ การป้องกันประตูและการออกมาตัดลูกอันตราย ที่แทบจะไม่มีข้อผิดพลาดตลอดทัวร์นาเมนต์เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ไทยคว้าแชมป์ในครั้งนี้ได้ โดยเฉพาะการทำสองคลีนชีต ในสองแมทช์สุดท้าย นอกจากนี้ ผู้รักษาประตูสำรองทั้ง ชนินทรฺ์ แซ่เอียะ ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีในแมทช์เจอกัมพูชา และอุกฤษณ์ วงศ์มีมา นายประตูดาวรุ่งอีกคนหนึ่ง ทั้ง 3 ผู้รักษาประตูในทีมชุดนี้ี้ ทำให้เรามั่นใจได้ว่า จากนี้ไปอีกอย่างน้อย 10 ปี ทีมชาติไทยจะไม่ขาดแคลนผู้รักษาประตูฝีมือดีอย่างแน่นอน
-กองหลัง: ขุมกำลังที่แฟนบอลไทยต่างปรามาสตั้งแต่ก่อนแข่งว่า นี่คือจุดอ่อนของทีมชาติไทยชุดนี้ แต่แบ๊กโฟร์ทั้งสี่ของไทย ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเค้าเล่นเกมส์รับได้อย่างมีวินัย เพียงใด ประวีณวัช และสกลวัชร์ ร่วมกันเล่นตรงกลางได้อย่างลงตัวขึ้นเรื่อยๆจนมาพีคในสองแมทช์สุดท้าย โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ ที่คู่ต่อสู้แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนี้ ประวีณวัช ยังมีทีเด็ดในการขึ้นเกมรุกมาช่วยทำประตูและการยิงจุดโทษที่เฉียบขาดอีกด้วย ส่วนแบ็คด้านข้าง เจ้าอุ้ม ธีราทร ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานนักเตะยอดเยี่ยมไทยพรีเมียร์ลีก รวมทั้งสอบผ่านฉลุยกับการเป็นกัปตันทีมชาติในการควบคุมอารมณ์และเป็นผู้นำ ส่วน อาทิตย์ ดาวสว่าง กับตำแหน่งแบ็คขวา ที่ใครหลายคนเป็นห่วง ทั้งในเรื่องที่ได้ตำแหน่งไม่ถนัดนักและเรื่องการควบคุมอารมณ์ แต่ อาทิตย์ ได้แสดงให้เห็นแล้วถึงความทุ่มเท และการสะกดกลั้นอารมณ์เมื่อมีธงไตรรงค์อยู่ที่หน้าอก โดยเฉพาะในนัดชิงที่มีความกดดัน และต้องบอกว่า อาทิตย์คือคนที่โดนโจมตีหนักที่สุดในตำแหน่งนั้น เพราะทั้งตัวจี๊ด ตัวสำรอง และตัวลูกครึ่งของอินโด เน้นการโจมตีทางฝั่งของอาทิตย์อย่างหนัก แต่แล้วอาทิตย์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างอดทน จนเป็นทางฝ่ายอินโดเองที่ตบะแตกมาเล่นนอกเกมใส่ แต่อาทิตย์กลับไม่ตอบโต้และตั้งใจเล่นต่อไป นี่ทำให้ชัยชนะของไทย กลายเป็นชัยชนะหมดจด และทิ้งคำว่า "บอลไทย ไปมวยโลก" ไว้เป็นเพียงอดีต
-กองกลาง: นี่คือขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นจุดเด่นของทีมชาติไทยชุดนี้ ที่ทำให้ทุกชาติยกให้ไทยเป็นเต็งหนึ่ง สามขุนพลเอกตรงกลางสนาม ผมขอยกให้ ชาริล ชับปุยส์,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, และ ปกเกล้า อนันต์ ผมมั่นใจว่า ถ้าทั้งสามคนนี้ได้เล่นร่วมกันบ่อยๆ อนาคตที่สดใสของทีมชาติไทยชุดใหญ่จะอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน ตำแหน่งตัวริมเส่น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ คือคนที่เล่นได้อย่างจี๊ดจ๊าดและทุ่มเท และที่ผมชอบที่สุดคือ เกริกฤทธิ์ เสียการครอบครองบอลยากมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของตำแหน่งนี้ ส่วนเมสซี่ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็วูบวาบหวือหวาสมกับเป็นตัวโจ๊กเกอร์ของทีมเสมอ ส่วนศราวุฒิ มาสุข ปีกจอมยิง ก็มาคืนฟอร์มในนัดชิงสามารถทำประตูสำคัญที่สุดของทีมชาติไทยได้
-กองหน้า: แม้ว่าทั้ง อดิศักดิ์ ไกรษร และชนานันท์ ป้อมบุปผา จะทำประตูไม่ได้เป็นกอบเป็นกำในซีเกมส์ครั้งนี้ อาจเพราะแทคติกที่ทำให้ทั้งสองต้องลงเป็นศูนย์หน้าตัวเดียว และมักโดดเดี่ยวอยู่ในแดนหน้า แต่การที่ไทยทำประตูได้จากกองกลางที่ดันขึ้นมา ก็ต้องยกเครดิตกองหน้าไทยบ้าง ที่ช่วยดึงตัวประกบให้ และยังมีส่วนร่วมเก็บบอลในแดนหน้าอยู่มากพอสมควร
โค้ชและทีมงาน
ซิโก้และทีมงาน แบกความกดดันมหาศาลไว้ด้วยโจทย์ที่ว่า "ต้องแชมป์สถานเดียวเท่านั้น" ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่า ฟุตบอลมันก็ลูกกลมๆ ไทยก็ไม่ใช่บราซิล อันดับฟีฟ่าก็ต่ำกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียนบางทีม แถมเพิ่งตกรอบแรกมา 2 ครั้งซ้อน แต่ไม่รู้ทำไม แฟนบอลไทยทุกคน (รวมทั้งผมด้วย) ถึงได้กดดันซิโก้นักหนาว่าต้องแชมป์เท่านั้น ซึ่งสำหรับบางคนยังไม่พอด้วยซ้ำ ยังเติมคำว่า "ต้องได้แชมป์แบบสวยงาม" ซะด้วยสิ
หากเปรียบเทียบซิโก้ดั่งนักกายกรรมเดินไต่เชือก กองเชียร์ที่มองอยู่ด้านล่าง ต่างก็ตะโกนเชียร์โห่ร้อง บางคนก็บอกว่าให้เดินเร็วๆสิ จะมัวชักช้าอยู่ทำไม ไม่เร้าใจเลย บางคนก็บอกว่าเอาแต่เดินทื่อๆช้าๆน่าเบื่อ ทำไมไม่เดินไขว้ขาบ้าง กระโดดบ้าง ให้มันดูสวยงามน่าติดตาม บางคนก็บอกว่าค่อยๆเดินไปก็ดีแล้ว เดินให้ถึงเส้นชัยก็พอ ส่วนในมุมมองของซิโก้ที่ยืนอยู่บนเส้นเชือกโดนปราศจากตาข่ายรองรับ เค้ารู้ดีว่า การแสดงของเค้า พลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ถ้าพลาดนั่นคือการตกลงไปตายสถานเดียว เค้าจึงเลือกที่จะเดินทีละก้าวๆ อย่างรอบคอบและสุขุม และในที่สุด เค้าก็ไปถึงเส้นชัยได้อย่างขาวสะอาด โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยใดๆ ผมจึงขอยกย่องซิโก้ที่จะเป็นตำนานนักเตะและโค้ชแห่งซีเกมส์ไปอีกนานแสนนาน หากปราศจากความกดดัน และเงื่อนไขดังกล่าว ผมมั่นใจว่า โค้ชซิโกเอง ก็สามารถที่จะทำฟุตบอลในสไตล์เกมรุกแบบสนุกสนานแบบที่แฟนบอลอยากเห็นได้เช่นกัน ดังที่ซิโก้เคยทำให้ดูมาแล้วในแมทช์ในตำนานชนะจีน 5-1
แฟนบอลชาวไทย
เหนือสิ่งอื่นใด ผมยกให้ "แฟนบอลชาวไทยทุกคน" คือผู้ชนะตัวจริง เพราะอะไรน่ะหรือครับ
1.เพราะคุณทำให้"คนคนนั้น"ไม่สามารถบริหารสมาคมแบบที่เคยทำส่งๆเหมือนเมื่อก่อนได้อีกต่อไปแล้ว เหล่าแฟนบอลที่ช่วยกันกดดันทั้งในโลกไซเบอร์และในสนามต่างๆ ทำให้"คนคนนั้น"ไม่สามารถพลาดได้ในซีเกมส์ครั้งนี้ ผลก็คือ การได้เวลาเตรียมทีมอย่างยาวนานและการสนับสนุนในด้านต่างๆที่ดีขึ้นของสมาคมนั่นเอง
2.เพราะคุณทำให้นักเตะหลายๆคนเกิดการพัฒนา ผมมั่นใจว่านักเตะไทยทุกคนจะต้องติดตามกระแสวิจารณ์การเล่นของตัวเองในโลกอินเตอร์เนตอย่างแน่นอน และแน่นอนว่านักเตะเองก็พยายามจะเล่นเพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลมากกว่าที่จะต้องโดนด่า วันนี้เราจึงได้เห็นกัปตันอุ้ม ธีราทร ที่เล่นแต่ฟุตบอล ไม่ได้เล่นคนอีกต่อไป และเราก็ยังได้เห็น อาทิตย์ ดาวสว่าง นักเตะเลือดร้อนของรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก กลายเป็นนักเตะที่นสงบดุจน้ำนิ่งในนามทีมชาติ
3.เพราะคุณทำให้ลีกไทยเกิดการพัฒนา เมื่อลีกแข็งแกร่ง นักเตะทีมชาติย่อมแข็งแกร่งตามไปด้วย
ดังนั้น "แฟนบอลชาวไทยทุกคน" ไม่ว่าจะ "เสียงชม"หรือ"เสียงด่า" ผมมองว่ายังไงพวกคุณก็สำคัญทั้งคู่ครับ "เสียงชม"จะช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาและทีมงานให้มีใจสู้ฮึกเหิม ส่วน"เสียงด่า"จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ที่ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาทีมชาติไทยที่สุด ก็คือ "จำนวนของแฟนบอลไทย" มากกว่าครับ บางคนถึงจะดูไป ด่าไป แต่ก็ดูไม่หยุดและดูมาได้เป็นสิบๆปี (พ่อผมก็คนนึงล่ะ) เพราะฉะนั้นมาเถอะครับ ชวนเพื่อนฝูง พ่อ แม่ พี่ น้อง มาดูบอลไทย มาเป็นแฟนบอลไทยกันดีกว่า จะดูไป ด่าไป หรือยังไงก็ได้ ขอแค่ "จำนวนของแฟนบอลไทย"มีมากขึ้นเท่านั้นแหละ แล้วทุกอย่างจะพัฒนาขึ้นเองครับ บอลไทยจะไปบอลโลกได้หรือไม่ คุณเองก็ช่วยได้ เอ้า...สู้ต่อไป...ไทยแลนด์!!!