ศาสตรา...มหาเวทย์ ตอนที่ 11

กระทู้สนทนา
บทที่  11  เล่ห์ปีศาจ

          น้อยหลับตาลง..ก่อนพุ่งดวงจิตของตน เข้าร่างของ พัฒนะที่กำลังถูกมนต์สะกดจาก ปีศาจกาลี
น้อยเพียงรอช่องที่จะเข้าควบคุม แต่น้อยเข้าเพียงคนเดียว ส่วนดวงจิตของมรรค ยังอยู่ในร่างของนีรนุช
วิญญาณทั้งสองที่อยู่ร่วมกัน มีสองดวงจิต ดวงจิตแรกคือมรรค ซึ่งก็คือดวงวิญญาณของบุตรของฝนกับ
อ.บุญลือถ้าเทียบในปัจจุบัน มรรคนั้นอายุได้ 30 ปีแล้ว ส่วนน้อย คือดวงจิตของเด็กที่เป็นเจ้าของร่างนั้น
มรรคจะสามารถใช้เวทย์ได้รุนแรงกว่า ควบคุมการใช้เวทย์ดาบแสงได้ เวทย์ม้าสีหมอก ได้เชี่ยวชาญ
กว่า ความจริงน้อยก็ใช้คาถาเหล่านี้ได้ แต่ไม่ชำนาญเท่ามรรค ดังนั้นน้อยจึงปล่อยให้ดวงจิต ของมรรค
สั่งการแทน  แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองไม่เคยลองทำ... คือแยกจากกันแม้แต่นาทีเดียว แต่ตอนนี้ น้อยต้องลอง
เสี่ยง... พัฒนะสะท้านกาย เหมือนคนเกิดความหนาวเหน็บอย่างฉับพลัน ส่วน สุรเชษฐก็สะท้านกาย
แบบเดียวกันกับพัฒนะ แต่ที่แตกต่างคือดวงตาของสุรเชษฐเปลี่ยนเป็น ไร้แววมือที่ถือปืนหยุดสั่น ถือปืน
อย่างมั่นคง เขาถอยหลังแล้วยิ้มออกมา สุรเชษฐกล่าวออกมาอย่างเน้นถ้อยคำ

"ไอ้หนู... แกนี้ช่างคิดนักนะ ที่แยกตัวออกมาเพื่อคุ้มครองไอ้นั่น แต่แกก็ลืมไปอย่าง
ว่าข้าก็สามารถเข้าควบคุมร่างของใครก็ได้ ถ้าจิตของมันเกิดความ... หวั่นไหว.."

ส่วนพัฒนะก็ถอยหลังออกมาเช่นกัน ดวงตานั้นเป็นประกายของเด็กชาย ปืนยังคงจ่อไปที่สุรเชษฐ อย่าง
ระมัดระวัง พัฒนะกล่าวออกมา

"ความจริงผมคิดไว้แล้ว ว่าป้าต้องการแบบนี้ ถ้าผมไม่ควบคุมร่างนี้ไว้ก่อน ป้าก็จะมีแขนขาเพิ่ม
ผมแค่... ตัดแขนของป้าออกข้างหนึ่ง... เท่านั้น..."

"ปากดีนักนะแก... ข้าก็อยากจะเห็นว่า... แกจะมีปัญญาทำอะไรได้...
ไอ้... ผี... เด็ก... เมื่อ... วาน... ซืน..."

สุรเชษฐลั่นกระสุนปืน ออกจากปลายกระบอกปืน จุดสามแปดสเปเชียล หัวกระสุนพุ่งออกมาเพื่อเจาะ
ร่างพัฒนะที่มองเห็นหัวกระสุนมาอย่างชัดเจน น้อยในร่างนายตำรวจจึงเหนี่ยวไกลั่นกระสุน... แต่เป้า
หมายเป็นหัวกระสุนที่พุ่งตรงมา หัวกระสุนชนกันก่อนจะเจาะร่างของเขา เพียงเสี้ยววินาที หัวกระสุน
แฉลบพุ่งถากแขนเสื้อของพัฒนะจนขาด  แต่กระสุนที่ลั่นออกมาจากปลายกระบอกปืน ของสุรเชษฐ
ออกมาอย่างต่อเนื่อง  จนหมดโม่ กระสุนที่พุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง  น้อยเหนี่ยวไกออกมาอีก ห้านัด
หัวกระสุนของทั้งสองชนกันกลางอากาศ ทำให้หัวกระสุนเปลี่ยนทิศไปเจาะต้นไม้บ้าง พื้นดินบ้างจนเป็น
หลุม  สุรเชษฐมองปืนที่กระสุนหมด เขาเปลี่ยนมาจับลำกล้องปืนถึงมันจะร้อน แต่ตอนนี้สุรเชษฐไม่รู้สึก
อะไรทั้งสิ้น สิ่งที่เขาต้องการก็คือ ฟาดศีรษะของพัฒนะให้แหลกเหลว... ด้วยด้ามปืน น้อยในร่างพัฒนะ
เบี่ยงตัวหลบด้ามปืนที่ระดมตีอย่างต่อเนื่อง ส่วนนีรนุชที่ตอนนี้เป็นการควบคุมของดวงจิตของ มรรค
หันหน้ามามองที่ วรรณที่จ้องมาที่เขาเช่นกัน. มรรคเหยียดยิ้มออกมา

"ฉันจะได้คิดบัญชีกับแก.... นังปีศาจร้าย คราวนี้จะไม่ประมาทแกอีกแล้ว. แล้วแกจะได้รู้
ว่าฤทธิ์...ที่ร้ายกาจ มันเป็นยังไง..."

"หิๆๆๆ... ไอ้กุมารน้อย... แกไม่มีทางเทียบกับข้าได้  ทางที่แกจะไป มันก็คือทางเดียวกับ
อาๆ ของแก  ก็คือ สลายเป็นอากาศธาตุ หรือไม่ก็  นรกขุมสุดท้าย.. หิๆๆๆ... "

"เดี๊ยวก็รู้.... ว่าใคร... จะแน่กว่ากัน... นังปีศาจโรคจิต..."

มรรค ก้มลงหยิบทรายมากำไว้ในมือ ก่อนจะแบออก แล้วเป่ามันออกไป เม็ดทรายเหล่านั้น กลายเป็น
แท่งแก้วพุ่งตรงไปที่ร่างบอบบางของวรรณ ที่ยืนนิ่งเหมือนขุนเขา ที่ไม่หวั่นไหว ต่อสายฝนที่ซัดกระหน่ำ
เพราะกำแพงแก้วที่ป้องกันร่างนั้น ยังคงแข็งแกร่งดุจเดิม  วรรณยิ้มอย่างอ่อนหวาน แต่ดวงตานั้น
แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เธอมองแท่งแก้วอันแหลมคม ที่ลอยค้างอยู่รอบกาย แล้วมองไปที่นีรนุช แท่งแก้ว
เหล่านั้นพลันหันหัวกลับไปที่ นีรนุชที่ยืนมองอย่างไม่สะทกสะท้าน

"เอาของแกคืนไป..."

แท่งแก้วที่พุ่งเข้าหานีรนุช แต่จะแตกต่างจากการพุ่งเข้าหาวรรณ คือแท่งแก้วพุ่งเข้าหา แบบเรียงแถว
เป็นเส้นตรง ใส่ร่างนีรนุช ที่ยกมือขึ้นข้างหน้า เพื่อสร้างกำแพง แต่ด้วยความรุนแรง ร่างของนีรนุช ถูก
ผลักให้ถอยหลัง อย่างรวดเร็ว ส่วนน้อยในร่างของพัฒนะ ต้องคอยหลบ ด้ามปืนจากสุรเชษฐ ที่ฟาด
ใส่อย่างไม่มียั้ง รวดเร็วและรุนแรง แล้วพัฒนะก็คว้าข้อมือของสุรเชษฐ ดึงร่างเข้ามารับหมัดที่พุ่งตรง
เข้าครึ่งปากครึ่งจมูก จนใบหน้าของสุรเชษฐสะบัดไปตามแรงหมัด หมดสติไปทันที พัฒนะมองไปยัง
วรรณที่กำลังต่อสู้กับ นีรนุช  เมื่อกระโดดข้ามสุรเชษฐ แต่มือของสุรเชษฐ คว้าที่ข้อเท้าของพัฒนะ
สุรเชษฐลืมตาขึ้น แล้วแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม มืออีกข้างที่ถือปืนเงื้อสุดเหยียดที่หมายทุบไปที่
ข้อเท้าของพัฒนะให้หักสะบั้น......
........................................

          ที่ สถานีตำรวจที่พัฒนะทำงาน ห้องเก็บหลักฐาน ของคดีต่างๆ กล่องเก็บสิ่งของ ที่ได้จากโรงเรียน
ศรีสกุล ภายในกล่องมีขวดสีขาว มีฝาขวดปิดอยู่ ขวดขยับเองได้เหมือนมีชีวิต ฝาขวดที่เป็นจุกก๊อกเริ่ม
ค่อยๆ ดันออกที่ละนิด แล้วฝาขวดก็พุ่งออกเหมือนแรงดันจากก๊าชที่อัดแน่น ฝาขวดจุกก๊อก ทะลุผ่าน
กล่องกระดาษรูปตราครุฑ ทะลุเป็นรู กลุ่มควันสีเหลือง กับสีขาวบิดเป็นเกลียวออกมาจากกล่อง แล้วพุ่ง
ชนกระจกหน้าต่างจนแตกกระจาย ออกไปภายนอก กลุ่มควันนั้น พุ่งอย่างรวดเร็ว ทิศทางนั้นย่อมเป็นที่
ที่ร่างของเธอยังอยู่ตรงนั้น. เพราะนั่นคือดวงจิตของวรรณ กับนีรนุชที่ถูกกักขังอยู่ แต่ทำไมเธอจึง ฝ่า
มนต์สะกดออกมาจากขวดกักวิญญาณได้......

ก่อนที่ด้ามปืนจะตีเข้าถูกข้อเท้าของพัฒนะ เท้าของเขา ถีบเข้าที่มือของ สุรเชษฐด้ามปืนจึงตีเข้าไปที่
รากไม้จนฉีกขาด แล้วเท้าก็ถีบเข้าที่หน้าของสุรเชษฐอย่างจัง จนมือที่คว้าข้อเท้า จึงหลุดออก น้อยใน
ร่างพัฒนะ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว สุรเชษฐในตอนนี้ ใบหน้าบวมปูด ริมฝีปากบวมเจ่อ ดวงตาก็บวม
แทบปิด เพราะฤทธิ์หมัด กับเท้าของพัฒนะ เขาลุกขึ้นแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันที่หัก... น้อยนั้นพยายาม
หาทางที่จะหยุด สุรเชษฐ ที่ถูกปีศาจควบคุมร่าง ตอนนี้ที่น้อยคิดได้ก็คือต้องจับนายคนนี้มัดให้แน่น
เท่านั้น สุรเชษฐร้องคำรามดังสัตว์ป่าที่ กำลังคลั่งพุ่งเข้าหา พัฒนะทันที

มรรคในร่างนีรนุช สะบัดมือออก ทำให้แท่งแก้วกลายเป็นฝุ่นทราย ตอนนี้มรรคนึกถึงดาบฟื้นฟ้า
ที่มรรคถนัดเวทย์นี้ที่สุด แต่ตอนนี้ มรรคจนใจ เพราะมีแต่ร่างของผู้ชายเท่านั้นที่จะควบคุมเวทย์นี้ได้
แต่เมื่อมรรคคิดดูอย่างแท้จริง ตอนที่ปีศาจฝนทำลายร่างของน้อย เธอก็สามารถใช้เวทย์นี้ได้ นั่น
หมายถึง มิใช่เพียงบุรุษเท่านั้นที่ใช้เวทย์นี้ สตรีก็สามารถใช้เวทย์นี้ได้เช่นกัน แต่ตอนนี้ด้ามดาบนั้น
อยู่ในมือของอาจารย์บุญลือ  ตอนนี้มรรคต้องหาทางล่อหลอกแล้วหาทางเข้าไปเอาดาบ มาจัดการ
กับปีศาจตนนี้ให้ได้.... นีรนุชหันหลังทำท่าวิ่งหนี ปีศาจสาวทำท่าคว้าอากาศวนมืออันเรียวงามเป็น
วงกลมจนเกิดเป็นลมหมุนในมือแล้วยาวขึ้น กลายเป็นแส้สีขาวยาวอ่อนสะบัดไหว แล้วมันก็ถูกฟาด
ออกไปกลางหลังของนีรนุช จนเสื้อด้านหลังของเธอขาด เผยหลังขาวเนียน   มรรคกระโดดหลบไป
หลังต้นไม้ใหญ่ ปีศาจในร่างของวรรณเพิ่มแส้พายุหมุนอีกข้างในมือ ฟาดกระหน่ำไปที่ต้นไม้ สามถึงสี่
ครั้ง จนต้นไม้หักโค่นลง ปีศาจลอยตัวขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 5 ถึง 6 เมตรอ้อมไปที่ใต้ต้นไม้ที่ขาด
โค่นลง แต่ไม่มีร่างของนีรนุชอยู่ใต้ต้นไม้ เพราะระหว่างที่ต้นไม้หักโค่น มรรคได้ใช้คาถาเคลื่อนตะวัน
จนไปอยู่ที่ด้านหน้าของอาจารย์บุญยืน มรรคในร่างนีรนุชยกมือขึ้นไหว้ ร่างอาจารย์บุญลือ ที่สลบไม่ได้
สติ เขากล่าวคำขอขมา ที่จะหยิบดาบมหาเวทย์มาใช้งาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่