ประเทศไทยเคยรณรงค์ในเรื่องการคัดสรรคนดี
จนเราได้คนดีมาเป็นผู้ว่า จำลอง ไงครับ มหาห้าขัน ตอนนั้น เลือกตั้งผู้ว่า ก็โปรโมทกันเข้าไป เป็นคนดี
เป็นคนอยู่ในศิลในธรรม รู้จักปฏิบัติตน รู้จักมัธยัสต์ และเป็นถึงนายพล อะโหอวยกันเข้าไป คะแนนก็เทกันมายกใหญ่ ผมก็ด้วย
พอเลือกมาแล้วเป็นไงล่ะครับ บริหารงานกรุงเทพฯ แล้วมีเงินเหลือคืนคลัง
อะโห เป็นคนดีจริงนะ บริหารกทม. มีเงินเหลือด้วย
แต่จริงๆแล้วต้องบอกว่าไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารเลย ทำอย่างกะว่ากทม นั้นทุกอย่างดีพร้อมหมดแล้ว
ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะก็ได้ ไม่มีอะไรต้องปรับปรุงอีกแล้ว
ผมบ้าไปเลยคราวนั้น เฮ้ยนี่ตรูเลือกมันมาให้บริหารเงิน ให้ใช้จ่ายเงินให้คุ้มค่านะ ให้คุ้มเวลาที่เสียไปสี่ปี
ให้ทำให้กทมเจริญขึ้น นี่มันคิดทำได้แค่นั้นเหรอ มีเงินเหลือเงินคืนคลังนี่ สาธารณสุขมันไม่ต้องปรับปรุงแล้ว
ห้องสมุดประชาชน ในกทม.มีมากแล้วเหรอ น้ำคลำน้ำเสียหมดไปแล้วเหรอ ท่อน้ำทิ้งไม่ต้องขยายให้มันใหญ่ขึ้นเหรอ
ระบบทำลายขยะสมดุลแล้วเหรอ ถนนดีหมดทุกสายแล้ว ทางเดินท้าวไม่มีขยะรกหูรกตาแล้ว
มีอะไรที่ต้องทำอีกตั้งเยอะแยะ แต่คิดได้แค่นั้น หมดศรัทธาเลย
พอๆกับพรรคปชปเลย แรกๆผมก็เลือกเพราะฟังเขาว่า(โดยเฉพาะพี่ๆผมเอง) เป็นคนดี ไม่โกงไม่กิน
ใช่ไม่โกงก็ไม่กิน แต่มันโกงอะดิ มันเลยกินกันเพียบ(คงไม่ต้องบอกนะว่าโกงอะไรบ้างมีคนเขียนไปมากแล้ว) บ้านเมืองก็ไม่เจริญอะไรซักอย่าง
เอาภาษีตรูไปทำไรหมดวะ
เหมือนกับจำลองตรงวิสัยทัศน์ในการทำความเจริญให้ชาติบ้านเมืองนี่แหล่ะ
พอทักษิณมาทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น มีการปรับปรุงอะไรๆ ให้มันดีขึ้น คนเขาก็เลยติดใจ
แล้วก็มีปัญหาการโกง คนเขาก็ยังติดใจในวิสัยทัศน์ที่ทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น เลยคิดว่า
เอาวะ โกงนิดโกงหน่อยไม่เป็นไร แต่ชาวประชาส่วนใหญ่หน้าใสยิ้มแย้มกันเอาน่าตู๋กันไป
แล้วจะให้เลือกใครระหว่าง พรรคดี แต่อดอยาก หรือ พรรคโกงแต่กินกันอิ่ม
ที่สำคัญคือ ไอ้ที่ว่าดีมันดีจริงหรือเปล่า และ ไอ้ที่ว่าโกงน่ะเขาโกงจริงหรือเปล่า และอีกฝั่งมันก็โกงเหมือนกัน
มันทำให้คนคลางแคลง จะเลือกคนที่ความดีไม่โกง มันชึ้ชัดไม่ได้
งั้นเลือกมันที่ความเก่งนี่ก่อนล่ะเห็นชัดดี พอจะเข้าใจความรู้สึกของคนบ้างไหมครับ
อยากให้เขาเลือกความดี มันต้องมีความดีให้ปรากฏเห็นชัดแจ้ง ว่าดีจริง ไม่ใช่ขมุกขมัวแบบนี้
เขาก็เลือกความเก่งกันเท่านั้นแหล่ะ และ ทักษิณเขาเก่งทั้งก็ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เลือกคนดีหรือคนเก่ง
จนเราได้คนดีมาเป็นผู้ว่า จำลอง ไงครับ มหาห้าขัน ตอนนั้น เลือกตั้งผู้ว่า ก็โปรโมทกันเข้าไป เป็นคนดี
เป็นคนอยู่ในศิลในธรรม รู้จักปฏิบัติตน รู้จักมัธยัสต์ และเป็นถึงนายพล อะโหอวยกันเข้าไป คะแนนก็เทกันมายกใหญ่ ผมก็ด้วย
พอเลือกมาแล้วเป็นไงล่ะครับ บริหารงานกรุงเทพฯ แล้วมีเงินเหลือคืนคลัง
อะโห เป็นคนดีจริงนะ บริหารกทม. มีเงินเหลือด้วย
แต่จริงๆแล้วต้องบอกว่าไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารเลย ทำอย่างกะว่ากทม นั้นทุกอย่างดีพร้อมหมดแล้ว
ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะก็ได้ ไม่มีอะไรต้องปรับปรุงอีกแล้ว
ผมบ้าไปเลยคราวนั้น เฮ้ยนี่ตรูเลือกมันมาให้บริหารเงิน ให้ใช้จ่ายเงินให้คุ้มค่านะ ให้คุ้มเวลาที่เสียไปสี่ปี
ให้ทำให้กทมเจริญขึ้น นี่มันคิดทำได้แค่นั้นเหรอ มีเงินเหลือเงินคืนคลังนี่ สาธารณสุขมันไม่ต้องปรับปรุงแล้ว
ห้องสมุดประชาชน ในกทม.มีมากแล้วเหรอ น้ำคลำน้ำเสียหมดไปแล้วเหรอ ท่อน้ำทิ้งไม่ต้องขยายให้มันใหญ่ขึ้นเหรอ
ระบบทำลายขยะสมดุลแล้วเหรอ ถนนดีหมดทุกสายแล้ว ทางเดินท้าวไม่มีขยะรกหูรกตาแล้ว
มีอะไรที่ต้องทำอีกตั้งเยอะแยะ แต่คิดได้แค่นั้น หมดศรัทธาเลย
พอๆกับพรรคปชปเลย แรกๆผมก็เลือกเพราะฟังเขาว่า(โดยเฉพาะพี่ๆผมเอง) เป็นคนดี ไม่โกงไม่กิน
ใช่ไม่โกงก็ไม่กิน แต่มันโกงอะดิ มันเลยกินกันเพียบ(คงไม่ต้องบอกนะว่าโกงอะไรบ้างมีคนเขียนไปมากแล้ว) บ้านเมืองก็ไม่เจริญอะไรซักอย่าง
เอาภาษีตรูไปทำไรหมดวะ
เหมือนกับจำลองตรงวิสัยทัศน์ในการทำความเจริญให้ชาติบ้านเมืองนี่แหล่ะ
พอทักษิณมาทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น มีการปรับปรุงอะไรๆ ให้มันดีขึ้น คนเขาก็เลยติดใจ
แล้วก็มีปัญหาการโกง คนเขาก็ยังติดใจในวิสัยทัศน์ที่ทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น เลยคิดว่า
เอาวะ โกงนิดโกงหน่อยไม่เป็นไร แต่ชาวประชาส่วนใหญ่หน้าใสยิ้มแย้มกันเอาน่าตู๋กันไป
แล้วจะให้เลือกใครระหว่าง พรรคดี แต่อดอยาก หรือ พรรคโกงแต่กินกันอิ่ม
ที่สำคัญคือ ไอ้ที่ว่าดีมันดีจริงหรือเปล่า และ ไอ้ที่ว่าโกงน่ะเขาโกงจริงหรือเปล่า และอีกฝั่งมันก็โกงเหมือนกัน
มันทำให้คนคลางแคลง จะเลือกคนที่ความดีไม่โกง มันชึ้ชัดไม่ได้
งั้นเลือกมันที่ความเก่งนี่ก่อนล่ะเห็นชัดดี พอจะเข้าใจความรู้สึกของคนบ้างไหมครับ
อยากให้เขาเลือกความดี มันต้องมีความดีให้ปรากฏเห็นชัดแจ้ง ว่าดีจริง ไม่ใช่ขมุกขมัวแบบนี้
เขาก็เลือกความเก่งกันเท่านั้นแหล่ะ และ ทักษิณเขาเก่งทั้งก็ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด