อันที่จริง รู้ตัวเองว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ตั้งแต่อายุ 15-16ปี เพราะไปบริจาคเลือดแล้วมีจม.มาบอกว่าไม่ผ่าน บริจาค 2 ที่ก็ได้จม.มา 2 ฉบับรพ.มาออกบูธในรร.รณรงค์เรื่องไวรัสตับอักเสบ มีการเจาะเลือดตรวจผลให้ทราบด้วย เราก็ไปกับพี่สาว ผลว่าเรามีเชื้อไวรัส บี พี่สาวปรกติ ในตอนนั้นเป็นเด็ก ก็ไม่ได้คิดมาก ว่าติดมาจากไหน อันตรายหรือเปล่า ไม่ได้สนใจ แต่ก็คุยกับที่บ้านปรึกษากัน ก็คิดว่า เราน่าจะติดมาจาก ช่วง อายุสิบกว่าขวบ เป็นไข้เลือดออก แล้วได้รับการถ่ายเลือด ในช่วงนั้น ยี่สิบกว่าปีก่อน เลือดที่ได้รับบริจาคยังไม่น่าจะคัดกรองได้ดีเท่าไหร่ เพราะทั้งบ้านไม่มีใครมีเชื้อเลยนอกจากเรา แล้วเด็กเพิ่งอายุ 10-16 ยังไม่น่าจะไปติดจากใครมาได้ เลยคิดว่าน่าจะได้มาจากการรับเืลือด สรุปก็รับรู้ แต่ไม่สนใจ เป็นเด็ก พ่อแม่ความรู้น้อยเค้าก็ไม่ใส่ใจ เค้าว่าเดี๋ยวก็หาย จนเราลืมไปเลย
จนผ่านไป เรียนจบ ทำงาน ขอวีซ่า ไปต่างประเทศก็ต้องไปตรวจเลือด เราก็ผ่าน ผลเลือดปรกติ จะแต่งงานก็ไปตรวจเลือดกับสามี ผลก็ปรกติ ก็แทบไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็อยู่ปรกติมาหลายปี กลับไทยก็ไปตรวจสุขภาพประจำปี อยู่เมกาก็ตรวจสุขภาพประจำปี ผลก็ปรกติ แล้วทีนี้ กลับไทยเดือนที่แล้ว ก็ไปตรวจสุขภาพประจำปี ผลออกมาก็ปรกติ ร่างกายแข็งแรงดี จู่ๆก็นึกถึงเรื่องไวรัสตับอักเสบขึ้นมา เลยไปรพ.อีกรอบ คุยกับเค้าเรื่องนี้ เค้าก็เลยแนะนำให้ตรวจเลือดหาเชื้อ ผลก็ปรากฎว่า เรามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ 100% แต่ยังไม่ได้ตรวจให้ละเอียดมากกว่านั้น เพราะต้องใช้เวลา และการรักษาต่อเนื่อง ก็ต้องกลับมารักษาต่อที่เมกานี่แหละ เสียใจนะ เสียใจมาก ทำไมตัวเองถึงได้ซวยแบบนี้ ก็นั้งหาข้อมูลในเนท ตอนนี้ก็ทำใจขึ้นมาได้เยอะแล้ว คนเป็นกันเยอะแยะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ก็อยู่กับมันได้สบาย คิดมากไปทำร้ายตัวเองเปล่าๆ
กลับมา้บ้าน ก็ค้นหาผลตรวจสุขภาพอันเก่าๆที่เคยเก็บไว้ ปรากฎว่า ไม่มีเลยสักอันที่บอกผลเลือดมากไปว่า เลือด ไขมง ไขมัน น้ำตาลปรกติ ค่าตับ ไต หัวใจ ฉี่ ปรกติ (เราตรวจกับรพ.ทั้งรัฐ และเอกชนนะคะ เลปเอกชนก็ตรวจมาแล้ว) ก็เลยอยากจะบอกทุกๆคนว่า แค่ตรวจสุขภาพประจำปีไม่พอค่ะ ต้องเน้นผลเลือดด้วย นี่ถ้าเราไม่บริจาคเลือด เราจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ไม่แปลกใจที่เชื้อนี้จะแพร่กับคนหมู่มากต่อไป เพราะคนคิดว่าตัวเองเลือดปรกติ แต่ที่จริงมันบอกไม่หมดเท่านั้นเอง คนไทยคงแพร่เชื้อกันสนุกสนานกันหมดแล้ว ถ้าเชื่อว่าผลเลือดตัวเองปรกติดี กับโปรแกรมตรวจสุขภาพของรพ. หรือของบริษัทที่จัดหาให้ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ใครจะเชื่อหรือไม่ ก็ตัวคุณค่ะ สุขภาพร่างกาย เรื่องแบบนี้ ไม่เล่ากันเล่นๆหรอก ถ้าคิดถึงฝั่งรพ.ว่าทำไมถึงไม่บอกผลให้ละเอียด เพราะหลายๆบริษัทคงจะไม่รับคนเข้าทำงาน แน่ ถ้าได้รับผลทางลบแบบนี้ หลายคนอาจจะพลาดไปทำงานตปท.ด้วยก็ได้ อันนี้มันก็เป็นเรื่องจริงหละนะ
ก็ยังอยากรู้นะคะ ว่าทำไม โปรแกรมตรวจสุขภาพ ถึงบอกไม่หมด ใครพอทราบบ้าง ช่วยให้ความกระจ่างที ขอบคุณมาล่วงหน้าค่ะ
ัปัญหาจากการตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดตามรพ.สมัยนี้ ทำไมไม่บอกผลเลือดให้ละเอียด มีใครพอให้ความกระจ่างได้บ้างค่ะ
จนผ่านไป เรียนจบ ทำงาน ขอวีซ่า ไปต่างประเทศก็ต้องไปตรวจเลือด เราก็ผ่าน ผลเลือดปรกติ จะแต่งงานก็ไปตรวจเลือดกับสามี ผลก็ปรกติ ก็แทบไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็อยู่ปรกติมาหลายปี กลับไทยก็ไปตรวจสุขภาพประจำปี อยู่เมกาก็ตรวจสุขภาพประจำปี ผลก็ปรกติ แล้วทีนี้ กลับไทยเดือนที่แล้ว ก็ไปตรวจสุขภาพประจำปี ผลออกมาก็ปรกติ ร่างกายแข็งแรงดี จู่ๆก็นึกถึงเรื่องไวรัสตับอักเสบขึ้นมา เลยไปรพ.อีกรอบ คุยกับเค้าเรื่องนี้ เค้าก็เลยแนะนำให้ตรวจเลือดหาเชื้อ ผลก็ปรากฎว่า เรามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ 100% แต่ยังไม่ได้ตรวจให้ละเอียดมากกว่านั้น เพราะต้องใช้เวลา และการรักษาต่อเนื่อง ก็ต้องกลับมารักษาต่อที่เมกานี่แหละ เสียใจนะ เสียใจมาก ทำไมตัวเองถึงได้ซวยแบบนี้ ก็นั้งหาข้อมูลในเนท ตอนนี้ก็ทำใจขึ้นมาได้เยอะแล้ว คนเป็นกันเยอะแยะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ก็อยู่กับมันได้สบาย คิดมากไปทำร้ายตัวเองเปล่าๆ
กลับมา้บ้าน ก็ค้นหาผลตรวจสุขภาพอันเก่าๆที่เคยเก็บไว้ ปรากฎว่า ไม่มีเลยสักอันที่บอกผลเลือดมากไปว่า เลือด ไขมง ไขมัน น้ำตาลปรกติ ค่าตับ ไต หัวใจ ฉี่ ปรกติ (เราตรวจกับรพ.ทั้งรัฐ และเอกชนนะคะ เลปเอกชนก็ตรวจมาแล้ว) ก็เลยอยากจะบอกทุกๆคนว่า แค่ตรวจสุขภาพประจำปีไม่พอค่ะ ต้องเน้นผลเลือดด้วย นี่ถ้าเราไม่บริจาคเลือด เราจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ไม่แปลกใจที่เชื้อนี้จะแพร่กับคนหมู่มากต่อไป เพราะคนคิดว่าตัวเองเลือดปรกติ แต่ที่จริงมันบอกไม่หมดเท่านั้นเอง คนไทยคงแพร่เชื้อกันสนุกสนานกันหมดแล้ว ถ้าเชื่อว่าผลเลือดตัวเองปรกติดี กับโปรแกรมตรวจสุขภาพของรพ. หรือของบริษัทที่จัดหาให้ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ใครจะเชื่อหรือไม่ ก็ตัวคุณค่ะ สุขภาพร่างกาย เรื่องแบบนี้ ไม่เล่ากันเล่นๆหรอก ถ้าคิดถึงฝั่งรพ.ว่าทำไมถึงไม่บอกผลให้ละเอียด เพราะหลายๆบริษัทคงจะไม่รับคนเข้าทำงาน แน่ ถ้าได้รับผลทางลบแบบนี้ หลายคนอาจจะพลาดไปทำงานตปท.ด้วยก็ได้ อันนี้มันก็เป็นเรื่องจริงหละนะ
ก็ยังอยากรู้นะคะ ว่าทำไม โปรแกรมตรวจสุขภาพ ถึงบอกไม่หมด ใครพอทราบบ้าง ช่วยให้ความกระจ่างที ขอบคุณมาล่วงหน้าค่ะ