บันได 4 ขั้น + 1 เงื่อนไข สู่ความ “มั่งคั่ง” อย่าง “มั่นคง” ...
ตัวผมเองก็ยึดหลักการนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงให้แก่ตัวเองและครอบครัว … เป็นแนวทางที่ธรรมดาสามัญแต่ผมเชื่อว่ามันสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งแนวทางนี้ผมนำมาปรับใช้และตีความมาจากหนังสือดีที่ชื่อว่า ...
ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน โดย T. Harv Eker ... และในช่วงนี้ผมนึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อนที่ผมคิดว่าเข้าต้องมั่งคั่งอย่างมั่นคงในไม่ช้าแน่นอน ... ดังนั้นในบทนี้ผมจึงขอเขียนถึงแนวทางนี้และเล่าถึงเขาสักครั้ง ...
บันไดขั้นแรก คือ ... ความขยัน
งานหนักก็เอา งานเอาเบาก็สู้ ทำงานเต็มกำลังทำอย่างสม่ำเสมอด้วยความอดทน ไม่เกียจคร้าน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ... ซึ่งความขยันเหล่านี้จะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความมั่งคั่งในอนาคต ...
ความขยันนั้นจะส่งผลโดยตรงกับรายได้ ... คนขยันย่อมจะมีช่องทางการหารายได้ และจะไม่นิ่งดูดาย
เพื่อนผมคนนี้ครอบครัวของเขามีฐานะการเงินที่สั่นคลอน เต็มไปด้วยภาระหนี้สินจำนวนมาก และด้วยภาระที่หนักอึ้งของลูกชายคนโต หน้าที่ต้องดูแลน้องๆอีกสามชีวิต ... ชีวิตวัยรุ่นของเขาส่วนมากใช้เวลาอยู่กับการทำงานช่วยที่บ้าน ... ถึงแม้จะตัดพ้อในโชคชะตาบ้างแต่เขาก็สู้เต็มที่เพื่อครอบครัว ... หลังจากมัธยม เขาสอบติด วิศวฯ มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง เขาก็ขอทุนและทำงานส่งตัวเองเรียนเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของที่บ้าน หลังจากจบผมเห็นเขาก็ทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อปลดหนี้ที่บ้านและส่งน้องเรียน ... ตอนนี้หนี้สินของที่บ้านใกล้จะหมดลงเต็มที น้องคนกลางสองเรียนจบแล้ว จะมีก็แต่เจ้าคนสุดท้องที่กำลังเรียนอยู่แต่ก็กำลังจะสำเร็จการศึกษาจากรั้วจุฬาฯ ในเร็วๆนี้ ...
บันไดขั้นที่สอง คือ ... ประหยัดและอดออม
หลังจากที่เราบรรลุปัจจัยแรกทำงานด้วยความขยันขันแข็งจะทำให้เราได้มาซึ่งรายได้ที่มากขึ้น เมื่อมีรายได้ที่มากขึ้นก็จำต้องมีปัจจัยตัวที่สอง ... ประหยัด มัธยัสถ์ และ อดออม เพื่อเก็บสะสมเงินทองที่หามาได้สำรองไว้ใช้ยามจำเป็น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการศึกษาของลูก เงินสำรองยามเจ็บป่วย เงินใช้จ่ายยามแก่เถ้าเมื่อยามโรยราไร้เรี่ยวแรง
เพื่อนท่านนี้เขาเป็นเอกในเรื่องความขยัน ... เมื่อภาระหนี้สินของทางบ้านและค่าเล่าเรียนที่ต้องส่งให้น้องน้อยลงมาก ... แต่รายได้ยังคงมากตามความขยันเช่นเดิม เพื่อนผมท่านนี้กำลังก้าวเข้าสู่บันได้ขั้นที่สอง เพราะ ตอนนี้เขาเริ่มเก็บหอมรอมริบพยามเสริมสร้างเงินออมหลังจากหักเงินที่ต้องส่งให้ทางบ้านและส่งน้อง เขาบอกผมว่าอย่างน้อยก็ออมได้เดือนละ 10,000 บาท เก็บเงินออมโดยการฝากประจำได้มากกว่า 30% ของเงินเดือน ตอนนี้เงินจำนวนนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่นานเงินออมนี้ก็ขึ้นหลักแสน ...
เมื่อคำว่า
“ขยัน” กับ
“อดออม” มาเจอกัน จะต้องนำมาซึ่ง
“เงินออมก้อนโต” แน่นอน ... ยิ่งขยันมากยิ่งอดออมมากเงินออมนี้ย่อมจะเติบโตแบบเท่าทวีคูณ
บันไดขั้นที่สาม คือ ... ต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุน
เมื่อมีเงินออมแล้ว ถ้าอยากให้เงินออมงอกเงยก็ต้องพึ่งพลังของ
“ดอกเบี้ยทบต้น” ... เงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ถ้าเราลงทุนในการลงทุนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องและยาวนาน การลงทุนที่ว่านี้สามารถทำได้หลายรูปแบบตามความถนัด ลงทุนในกองทุน พันธบัตร เปิดพอร์ทลงทุนในหุ้นสามัญ ซื้อหุ้นกู้ของบริษัทชั้นนำ หรือถนัดค้าทองคำก็ลงทุนในทองคำแท่ง ใครชอบสายอสังหาริมทรัพย์ก็ซื้อบ้านปล่อยเช่า คอนโดปล่อยเช่า หรือ เก็งกำไรในที่ดินเปล่าก็ตามแต่ถนัด ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ... ยิ่งผลตอบแทบสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงตาม แต่ความเสี่ยงจะลดลงได้ด้วยความรู้ การศึกษาหาข้อมูลอย่างถ่องแท้ รู้ลึกและรู้จริง
ฐานเงินเดือนก็พอได้ เพื่อนผมท่านนี้เลยเริ่มลงทุนจากการกู้ซื้อบ้านทาว์นเฮ้าส์เล็กๆแล้วให้เช่า โดยหลักการง่ายๆราคาค่าเช่าต้องมากกว่าราคาค่าผ่อน และ ตอนนี้กำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือการลงทุนในหุ้น สายนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor: VI) อ่านมาหลายสิบเล่มแล้วก็ยังไม่เริ่มลงทุนบอกว่าขอเวลาศึกษาอีกสักพักเพราะกลัวขาดทุน ... ผมคาดว่าอีกไม่นานคงจะเป็นนักลงทุนถือยาวอีกคนที่เข้าสู่ตลาด
บันไดขั้นที่สี่ คือ ... ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
หาเงินได้มากมาย ออมเงินได้สูง ลงทุนได้ดี ... เมื่อสามตัวนี้มาเจอกันแน่นอนว่าจะได้พบกับ
"ความมั่งคั่ง" อย่างแน่นอน แต่ความมั่งคั่งที่เกิดจากบันได้สามขั้นนั้นมันยัง
"ไม่มั่นคง" มากพอ ... มีมากมายเท่าไหร่ก็ตามแต่ก็หมดได้ถ้าให้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเกินฐานะ ... ถ้าจะให้มั่งคั่งอย่างมั่นคงต้องรู้จักบันได้ขั้นที่สี่นี้ ...
ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตให้สมกับฐานะที่มี ... ใช้ชีวิตตามฐานะจะเป็นเกราะป้องกันชั้นดีที่จะทำให้เรามั่งคั่งได้อย่างมั่นคง ...
เพื่อนผมท่านนี้มีพื้นฐาน 4 ข้ออย่างครบถ้วน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่มั่งมีเงินทอง แต่ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เขาจะก้าวเข้าสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงแน่นอน ... แต่ต้องอาศัยเวลา ...
ความสำเร็จจะบังเกิดก็ต่อเมื่อใช้เวลาที่ยาวนาน!!!
ด้วยเวลาที่ยาวนาน ผมและเพื่อนท่านนี้คงไปไม่ถึงฝั่งฝัน ถ้าเราตายไปก่อนวัยอันควร!!!
ถ้าตายก่อน ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงจะไม่เกิดขึ้นเป็นแน่!!!
ดังนั้นเงื่อนไขข้อสุดท้าย คือ ... สุขภาพต้องดี
ถ้าร่างกายไม่ดี เจ็บไข้ได้ป่วย ออดๆแอ๊ดๆ ตลอด ก็ยากที่จะไปให้ถึงจุดหมาย เพราะระยะทางเรานั้นจะผ่านกาลเวลาที่ยาวนานกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ ... ดังนั้นสุขภาพร่างกายต้องพร้อมต้องแข็งแรงครับ จิตใจต้องดีต้องสู้ ...
นี่คือ ... บันได 4 ขั้น + 1 เงื่อนไข ที่ผมยึดเป็นหลักในการสร้างเนื้อสร้างตัว
ขยัน ... ประหยัด ... ลงทุนต่อยอด ... ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และ รักษาสุขภาพ
บันไดเหล่านี้มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ใครๆก็รู้ ... แต่อยู่ที่ว่ารู้แล้วจะทำหรือไม่ ถ้าทำแล้วทำได้ดีแค่ไหน ...
ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าเรายิ่งทำได้ดีและทำได้มากก็จะยิ่งนำพาเราไปสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงได้ในท้ายที่สุด
…[^_^]…
บันได 4 ขั้น + 1 เงื่อนไข สู่ความ “มั่งคั่ง” อย่าง “มั่นคง”
ตัวผมเองก็ยึดหลักการนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงให้แก่ตัวเองและครอบครัว … เป็นแนวทางที่ธรรมดาสามัญแต่ผมเชื่อว่ามันสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งแนวทางนี้ผมนำมาปรับใช้และตีความมาจากหนังสือดีที่ชื่อว่า ... ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน โดย T. Harv Eker ... และในช่วงนี้ผมนึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อนที่ผมคิดว่าเข้าต้องมั่งคั่งอย่างมั่นคงในไม่ช้าแน่นอน ... ดังนั้นในบทนี้ผมจึงขอเขียนถึงแนวทางนี้และเล่าถึงเขาสักครั้ง ...
บันไดขั้นแรก คือ ... ความขยัน
งานหนักก็เอา งานเอาเบาก็สู้ ทำงานเต็มกำลังทำอย่างสม่ำเสมอด้วยความอดทน ไม่เกียจคร้าน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ... ซึ่งความขยันเหล่านี้จะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความมั่งคั่งในอนาคต ... ความขยันนั้นจะส่งผลโดยตรงกับรายได้ ... คนขยันย่อมจะมีช่องทางการหารายได้ และจะไม่นิ่งดูดาย
เพื่อนผมคนนี้ครอบครัวของเขามีฐานะการเงินที่สั่นคลอน เต็มไปด้วยภาระหนี้สินจำนวนมาก และด้วยภาระที่หนักอึ้งของลูกชายคนโต หน้าที่ต้องดูแลน้องๆอีกสามชีวิต ... ชีวิตวัยรุ่นของเขาส่วนมากใช้เวลาอยู่กับการทำงานช่วยที่บ้าน ... ถึงแม้จะตัดพ้อในโชคชะตาบ้างแต่เขาก็สู้เต็มที่เพื่อครอบครัว ... หลังจากมัธยม เขาสอบติด วิศวฯ มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง เขาก็ขอทุนและทำงานส่งตัวเองเรียนเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของที่บ้าน หลังจากจบผมเห็นเขาก็ทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อปลดหนี้ที่บ้านและส่งน้องเรียน ... ตอนนี้หนี้สินของที่บ้านใกล้จะหมดลงเต็มที น้องคนกลางสองเรียนจบแล้ว จะมีก็แต่เจ้าคนสุดท้องที่กำลังเรียนอยู่แต่ก็กำลังจะสำเร็จการศึกษาจากรั้วจุฬาฯ ในเร็วๆนี้ ...
บันไดขั้นที่สอง คือ ... ประหยัดและอดออม
หลังจากที่เราบรรลุปัจจัยแรกทำงานด้วยความขยันขันแข็งจะทำให้เราได้มาซึ่งรายได้ที่มากขึ้น เมื่อมีรายได้ที่มากขึ้นก็จำต้องมีปัจจัยตัวที่สอง ... ประหยัด มัธยัสถ์ และ อดออม เพื่อเก็บสะสมเงินทองที่หามาได้สำรองไว้ใช้ยามจำเป็น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการศึกษาของลูก เงินสำรองยามเจ็บป่วย เงินใช้จ่ายยามแก่เถ้าเมื่อยามโรยราไร้เรี่ยวแรง
เพื่อนท่านนี้เขาเป็นเอกในเรื่องความขยัน ... เมื่อภาระหนี้สินของทางบ้านและค่าเล่าเรียนที่ต้องส่งให้น้องน้อยลงมาก ... แต่รายได้ยังคงมากตามความขยันเช่นเดิม เพื่อนผมท่านนี้กำลังก้าวเข้าสู่บันได้ขั้นที่สอง เพราะ ตอนนี้เขาเริ่มเก็บหอมรอมริบพยามเสริมสร้างเงินออมหลังจากหักเงินที่ต้องส่งให้ทางบ้านและส่งน้อง เขาบอกผมว่าอย่างน้อยก็ออมได้เดือนละ 10,000 บาท เก็บเงินออมโดยการฝากประจำได้มากกว่า 30% ของเงินเดือน ตอนนี้เงินจำนวนนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่นานเงินออมนี้ก็ขึ้นหลักแสน ...
เมื่อคำว่า “ขยัน” กับ “อดออม” มาเจอกัน จะต้องนำมาซึ่ง “เงินออมก้อนโต” แน่นอน ... ยิ่งขยันมากยิ่งอดออมมากเงินออมนี้ย่อมจะเติบโตแบบเท่าทวีคูณ
บันไดขั้นที่สาม คือ ... ต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุน
เมื่อมีเงินออมแล้ว ถ้าอยากให้เงินออมงอกเงยก็ต้องพึ่งพลังของ “ดอกเบี้ยทบต้น” ... เงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ถ้าเราลงทุนในการลงทุนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องและยาวนาน การลงทุนที่ว่านี้สามารถทำได้หลายรูปแบบตามความถนัด ลงทุนในกองทุน พันธบัตร เปิดพอร์ทลงทุนในหุ้นสามัญ ซื้อหุ้นกู้ของบริษัทชั้นนำ หรือถนัดค้าทองคำก็ลงทุนในทองคำแท่ง ใครชอบสายอสังหาริมทรัพย์ก็ซื้อบ้านปล่อยเช่า คอนโดปล่อยเช่า หรือ เก็งกำไรในที่ดินเปล่าก็ตามแต่ถนัด ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ... ยิ่งผลตอบแทบสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงตาม แต่ความเสี่ยงจะลดลงได้ด้วยความรู้ การศึกษาหาข้อมูลอย่างถ่องแท้ รู้ลึกและรู้จริง
ฐานเงินเดือนก็พอได้ เพื่อนผมท่านนี้เลยเริ่มลงทุนจากการกู้ซื้อบ้านทาว์นเฮ้าส์เล็กๆแล้วให้เช่า โดยหลักการง่ายๆราคาค่าเช่าต้องมากกว่าราคาค่าผ่อน และ ตอนนี้กำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือการลงทุนในหุ้น สายนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor: VI) อ่านมาหลายสิบเล่มแล้วก็ยังไม่เริ่มลงทุนบอกว่าขอเวลาศึกษาอีกสักพักเพราะกลัวขาดทุน ... ผมคาดว่าอีกไม่นานคงจะเป็นนักลงทุนถือยาวอีกคนที่เข้าสู่ตลาด
บันไดขั้นที่สี่ คือ ... ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
หาเงินได้มากมาย ออมเงินได้สูง ลงทุนได้ดี ... เมื่อสามตัวนี้มาเจอกันแน่นอนว่าจะได้พบกับ "ความมั่งคั่ง" อย่างแน่นอน แต่ความมั่งคั่งที่เกิดจากบันได้สามขั้นนั้นมันยัง "ไม่มั่นคง" มากพอ ... มีมากมายเท่าไหร่ก็ตามแต่ก็หมดได้ถ้าให้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเกินฐานะ ... ถ้าจะให้มั่งคั่งอย่างมั่นคงต้องรู้จักบันได้ขั้นที่สี่นี้ ... ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตให้สมกับฐานะที่มี ... ใช้ชีวิตตามฐานะจะเป็นเกราะป้องกันชั้นดีที่จะทำให้เรามั่งคั่งได้อย่างมั่นคง ...
เพื่อนผมท่านนี้มีพื้นฐาน 4 ข้ออย่างครบถ้วน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่มั่งมีเงินทอง แต่ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เขาจะก้าวเข้าสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงแน่นอน ... แต่ต้องอาศัยเวลา ...
ความสำเร็จจะบังเกิดก็ต่อเมื่อใช้เวลาที่ยาวนาน!!!
ด้วยเวลาที่ยาวนาน ผมและเพื่อนท่านนี้คงไปไม่ถึงฝั่งฝัน ถ้าเราตายไปก่อนวัยอันควร!!!
ถ้าตายก่อน ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงจะไม่เกิดขึ้นเป็นแน่!!!
ดังนั้นเงื่อนไขข้อสุดท้าย คือ ... สุขภาพต้องดี
ถ้าร่างกายไม่ดี เจ็บไข้ได้ป่วย ออดๆแอ๊ดๆ ตลอด ก็ยากที่จะไปให้ถึงจุดหมาย เพราะระยะทางเรานั้นจะผ่านกาลเวลาที่ยาวนานกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ ... ดังนั้นสุขภาพร่างกายต้องพร้อมต้องแข็งแรงครับ จิตใจต้องดีต้องสู้ ...
นี่คือ ... บันได 4 ขั้น + 1 เงื่อนไข ที่ผมยึดเป็นหลักในการสร้างเนื้อสร้างตัว
ขยัน ... ประหยัด ... ลงทุนต่อยอด ... ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และ รักษาสุขภาพ
บันไดเหล่านี้มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ใครๆก็รู้ ... แต่อยู่ที่ว่ารู้แล้วจะทำหรือไม่ ถ้าทำแล้วทำได้ดีแค่ไหน ...
ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าเรายิ่งทำได้ดีและทำได้มากก็จะยิ่งนำพาเราไปสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงได้ในท้ายที่สุด
…[^_^]…