ปากคำป้าเสื้อแดงคลิป ‘รับจ้าง 200’ เหตุหน้ารามฯ

กระทู้สนทนา


ดูเผินๆ เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะมีอะไร เป็นการเปิดโปงความจริงจากปากคำของหญิงสองคนที่นั่งยองๆ ท่ามกลางวงล้อมของชายฉกรรจ์ เพียงแต่บังเอิญว่าผู้หญิงหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ระดับนำของคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีมีผู้คนรู้จักเธออยู่ไม่น้อย หลายคนเกิดความงุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดเธอจึงพูดเช่นนั้น ความพยายามติดต่อเธอเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากทั้งนักกิจกรรม ผู้สื่อข่าว ฯลฯ แต่เธอไม่รับโทรศัพท์ของใครทั้งสิ้น จนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านไปหลายวัน จึงสามารถติดต่อเธอได้

นี่คือหนึ่งในคำพูดส่วนนึงที่ออกมาจากปากของคุณผู้หญิงคนนี้ ถึงเรื่ิงราววันนั้น
“เห็นคลิปวิดีโอแล้ว ทำไมมันไม่มีตรงที่ทำกับเรา ไม่มีตรงที่พูดกับเราแบบจะฆ่า ไม่มีภาพเอาปืนจี้หัวเรา ก็ยังงงอยูว่าทำไมมันไม่มี ยังคิดอยู่ตลอด ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว พูดแล้วมันสะเทือนใจ มันแค้น คนที่รู้จักเขาเข้าใจ แต่คนไม่รู้จักเราเขาไม่เข้าใจ มีคนพูดให้ฟังว่ามีคนเสื้อแดงว่าให้ เราก็บอกว่าช่างเถอะเขาไม่รู้ว่าตอนนั้นเราถูกบังคับ เราต้องรักษาชีวิตของพี่น้องเราไว้ เราเอาคนไป เราต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิต และเรารู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง”

“เขาเอาปืนสั้นจี้หัว ตอนแรกยืนอยู่ก็เตะขาข้างหลังให้นั่ง “พวกไม่ต้องมายืนคุยกับพวกกู พวกมันพวกคนชั่ว รู้ไหมมาทำอะไร” เราก็บอกไม่รู้ เขาบอกจะพามาเที่ยวสนามราชมังคลา เราเห็นพวกเขาถือกล้องใหญ่เหมือนกล้องทีวีเลย ตอนนั้นคิดในใจว่า ถ้าถ่ายกูก็จะเห็นภาพที่เอาปืนจี้หัวกู แล้วคำที่พูดกับกูนั่นมันโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดไหน มันบอกว่า ต้องพูดว่าถูกจ้างมาพันสอง เราก็บอกว่าป้าไม่ได้มาอะไรขนาดนั้น มันบอกไม่ได้ เราก็ว่าไม่ใช่ มันก็เลยทุบแขน เอาสันมีดทุบที่แขน เราก็แค้นเนอะ ร้องไห้ด้วย ในใจคิดว่าทำไมบ้านเมืองเราโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดนี้ ทำไมไม่ยุติธรรมอย่างนี้ ชะตากรรมเราทำไมมันเป็นแบบนี้ ในใจคิดว่าเราพูดอะไรออกไปก็ได้ เอาปืนจี้หัวเราคนก็จะเห็น พวกนั้นเอาน้ำให้กิน ตอนแรกจะไม่กิน แต่มันบังคับก็ต้องกิน แล้วก็ถามว่า เรารู้จักประชาธิปไตยไหม รักในหลวงไหม ก็บอกว่า พวกเราคนไทยทุกคนต้องรักในหลวง พวกเราไม่เคยคิดว่าใครจะไม่รักในหลวง เราว่าอย่างนี้ ถ้าเราอธิบายเยอะ มันจะรู้ว่าพวกเรารู้เรื่องการเมือง เราก็บอกว่า ป้าก็เทิดทูนสถาบัน ทำไมอยู่ๆ ถึงเอาเรื่องในหลวงของเรามาพูด ในหลวงคือพ่อของแผ่นดิน มันถามว่าจงรักภักดีใช่ไหม รัก เรารักในหลวง แล้วมันก็ถามว่า รู้จักประชาธิปไตยไหม ก็บอกไม่รู้ เขาบอกจะพามาเที่ยวสนามราชมังคลา ไม่เคยมาก็เลยอยากมา ก็ได้ยินมันพูดกันว่า สงสัยเป็นชาวบ้านธรรมดา แล้วมันก็ถามหา ส.จ.-ส.ส. ที่มาด้วยกัน ก็เลยบอกว่า ไม่รู้เขาวิ่งไปทางไหนกันบ้าง ไม่เห็นเขา” 

จากนั้นเธอก็ติดต่อกับลูกสาวของเธอที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลูกเธอมาพร้อมกับเพื่อนและเมื่อเห็นแม่ก็ได้แต่กอดคอกันร้องไห้
เธอเล่าว่า ลูกสาวพยายามตามหาแม่ตลอดเช้านั้น
“ลูกมาถึงก็กอดแม่ร้องไห้ บอก แม่ มันโหดร้ายจริงๆ แต่ก่อนลูกสาวแกไม่รู้ ถึงรู้ว่าพ่อแม่เป็นแดง แต่แกก็อยู่ครึ่งๆ กลางๆ แกไม่ยอมให้แม่เป็นเพื่อนเกี่ยวกับเฟซบุ๊กอะไรน่ะ แกบอกว่าอยู่กับกลุ่มเสื้อเหลืองก็ต้องไปตามเขา แต่ทีนี้เห็นแม่เจ็บตัว เพื่อนแกที่มาด้วยกันก็เป็นสลิ่ม มาเห็นสภาพแม่ คนแก่คนเฒ่า แกก็บอกว่านี่เหรอพวกก่อการร้าย เขาก็ร้องไห้กัน ทำไมต้องโหดร้ายขนาดนี้ ทีนี้ตอนขากลับแกไปโพสต์ด่าพวกสลิ่ม บอกนี่แหละรถที่แม่กูนั่งมา ที่บอกว่ามีอาวุธ หยุดเถอะ หยุดใส่ร้ายคนเสื้อแดง ทั้งที่แกไม่เคยพูดเลยก่อนหน้านี้ ลูกเคยถามตรงๆ ว่าแม่มาได้ตังค์ไหม แม่ก็บอกไม่ได้ ช่วยๆ กันออกค่ารถตู้มา ถ้าไม่พอก็พอจะขอพวกส.ส.ได้อยู่บ้าง” 
สุดท้ายเธอก็ได้เดินทางกลับบ้านถึงบ้านจังหวัดอุดรราวตีสองตีสามของวันรุ่งขึ้น 

ที่มาของข้อมูลนี้ครับ
http://prachatai.com/journal/2013/12/50460
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่