วันนี้ว่างๆไม่รู้จะทำอะไรก็เลยอยากจะ มานั่งเล่าประสบการณ์การทำวีซ่านักเรียนโดยตรงครับผม
พอดีว่าสนใจจะไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา ก็เลยไป ทำวีซ่าประ เภท F-1
แรกๆก็พยายามหารีวิวที่เป็นรูปหรือคลิป แต่ก็หาไม่เจอซักทีนอกเหนือจาก สถานทูต จะรีวิวคร่าวๆให้ในยูทู๊ป ซึ่งก้ไม่คล่อยเคลียร์เท่าไหร่
ก้ได้แต่หาอ่านๆไป ตามบอร์ด ก็ถือว่า รู้ไว้เป็นเชิง ดีกว่าไม่รุ้อะไรเลยก้ ขอบคุณมากครับ (เข้าสถานทูตแล้วคุณจะต้องฝากมือถือ ห้ามนำก้องหรืออะไรก็แล้วแต่เข้าไป บันทึก)
พอทำด้วยตนเอง โดยหลักก้ไม่มีไรมากครับ
การเตรียมเอกสารอะไรก้มีให้อ่านตามเวป เลยขอข้ามกันเลยนะครับ ส่วนมากก็มีรีวิวเยอะแล้ว
เลยอยากจะมาเล่า เวลาที่ไปสัมภาษณ์เลย
ลำดับแรก เมื่อไปถึง หน้าสถานทูตปุ๊บ จะมี ให้ต่อ สองแถว แถวนึงสำหรับคนไทยอย่างเรา อีกแถวนึง เป็นสำหรับ citizen
พอเราไปต่อแถว ถึงจุดตรวจ(นอกประตู) ก่อนจะเข้า จะมีพนักงานเช็ครายชื่อตามวันนัดครับ ถ้าเอากระเป๋าอะไรมาจะต้องเดินไปฝาก กับร้านรับฝาก ไม่ไกลจาก สถานทูตประมาณ 200 เมตร ค่าฝาก 100 บาท ไม่ได้เป็นที่ฝากแบบล้อคเกอร์นะครับ แต่ ใส่ไว้ในถังมีคนนั่งเฝ้า ทางที่ดี เก้บไว้ในรถก่อนมา หรืออย่าพกมาเลย พวก ipad ไรเงี่ย แต่มือถือพกมาได้ ฝากไว้กับ รปภ ของ สถานทูต
ถัดมาพอเข้ามาเสร็จ ก็จะมีคนตรวจเอกสารให้ก่อนรอบแรก พร้อมกับรื้อๆ แม๊กๆ เอกสารทั้งหมดใหม่ แล้วใส่แฟ้มให้เรา (ตอนแรกกังวลมากเพราะ พี่เอเจนซี่ที่ทำให้เรา บอกอย่าให้เอกสารสลับหน้านะ แต่พอมาถึงที่นี่ พี่เค้ารื้อกระจุย)
กรอกเสร็จ ก้ต่อคิว รอเช็คเอกสาร แบบเป็นทางการ กับ จนท อีกรอบ ก่อนที่จะเข้าไปรอที่ห้องสัมภาษณ์หน่ะครับ
เมื่อเข้ามาถึงก้นั่งรอ คิว พอถึงคิวเรา เราก้เดินไปต่อคิว ตามช่องๆ ที่เป็นกระจก ตอนแรกคิดว่า นี่คือการสัมภาษณ์และแหละ(ช่องเบอร์ 9) เจอ จนท ยกมือไหว้เลย พร้อมเอ่ยว่า สวัสดีครับ เสียงหวานๆ ฮ่าๆๆๆๆ เค้าก้ถามๆเสร็จ ก็คืน เอกสารทั้งหมดมา ก็ตกใจอ้าว ไม่ผ่านหรอฟ่ะ !!
ที่ไหนได้ เช็คเอกสาร และก้กรอก ข้อมูลเข้าคอมนิดหน่อยมั้งครับ เห็นพิมพ์ๆอยู่ เสร็จเค้าก้บอก เก้บเอกสารไว้ ผมก็งง อ้าวไม่ผ่านหรอ ผมก็ถามว่า ผมต้องทำอย่างไรต่อ จนท บอกว่า ไปนั่งรอคิวต่อคะ อ๊ะ ผมก็โล่งใจ นึกว่าไม่ผ่านซะละ 5555
เสร็จเรียกคิวเดิมรอบที่ สอง อันนี้ของจริง ก็ยืนรอคิวสัมภาษณ์และ ลุกจากที่นั่งมาคนเยอะมาก ถ้าเกิดว่า ใครไม่ผ่านวีซ่าก็จะเดินผ่านกลุ่มคนที่นั่งรอเวลาสัมภาษณ์อยู่ ถึงจะออกประตูไปได้ (ช่วงเวลานี้จะรู้สึกถึง คนที่กำลังดีใจกับเสียใจมากที่สุดครับ T_T )
ต่อเลย พอก่อนจะถึงคิวผม มีพี่คนข้างหน้าก็ ไปสัมภาษณ์ละ การสัมภาษณ์ จะเป็น แบบ เรายืนหน้าตู้กระจก แล้ว จนท ก็จะพูดผ่านไมค์มา เหมือนเวลาเราไปแรกเหรียญ ตาม bts อะครับ สัมภาษณ์อยู่ 1-2 นาที เค้าก้หันหน้ามา เดินสวนทางผมออกไป ซึ่งสีหน้าแบบนั้น ผมรับรู้ได้เลยว่า ผ่านหรือไม่ พร้อมกับแอบเหลือบไปเห็น สมุดพาสปอร์ต หนีบข้างๆแฟมขาวๆ ก็โอเค อันเป็นว่ารู้กัน (ในกรณีถ้าพกพาสปอร์ตเล่มล่าสุดไปเล่มเดียวอะนะ) พอออกมาก็มีเวลาคุยกันนิดหน่อย สรุปได้พอคร่าวๆ ว่า จบมาแล้วทำงานบริษัทสองปี แล้วลาออก จะไปเรียนภาษาเหมือนกัน แต่สมุดบันชีมีน้อย(ไม่ได้ถามว่ามีเท่าไหร่) ก็เป็นอันลากันไป
พอถึงคิวผมปั๊บ ก็เหมือนเดิม ยกมือไหว้ สวัสดี พูดจาฉะฉาน เสียงดังฟังชัด ไม่วอกแวก
เวลาสัมภาษณ์ตอนแรกพูดไทยก่อน พอรู้ผมเป็น นศ อินเตอร์ ทีนี้พูดภาษาอังกฤษเฉ๊ยเลย ไอเราก็อะไรหว่าา งง เลย ไม่เก่งอยู่ด้วย ก็ อันไหนฟังรุ้เรื่องก็จะตอบ ถ้าฟังไม่รุ้เรื่อง ผมแนะนำว่า อย่าตอบเด๋ดขาด ขอให้ทวนคำถาม หรือ ขอให้เค้าพูดภาษาไทยครับ เป็นอันดีที่สุด
เอกสารที่เค้าหยิบไปดู เตรียมไว้ เยอะมาก เพราะ ญาติ(พี่ชายเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน)เป็นสปอนเซอร์ให้ เค้าไม่ดูเลยครับ เค้าดูแค่ i-20 กับมหาวิทยาลัยที่เราเรียน จบมา แล้วก้เริ่มยิงคำถามมา ไปเรียนที่ไหน ไปเมื่อไหร่ แล้วใครเป็นสปอนเซอร์ แล้วรับรายได้กี่บาท ต่อเดือน ตำแหน่งงานอะไร พวกสมุดบัญชีไรเค้าไม่ดูเลยครับ เหมือนเค้ารับฟังในสิ่งที่ผมตอบตลอด เวลาผมตอบคำถาม ผมจะพูดอย่างชัดเจน และมองตา จนท ตลอดไม่วอกแวก ตั้งใจฟังคำถามเค้า แค่นั้นแหละครับ ก็พิมพ์ๆ เซ็นๆ แล้ว จนท ก็ตอกย้ำว่า gpa ผมน้อยมาก ขอให้สนุกครับ แล้วก็ study hard ด้วยหละครับ
พอรู้ว่าผ่าน ก็เดินหน้านิ่งๆ กลัวแอบโดน คนไม่ผ่านหมั่นไส้เอา เพราะคนไม่ผ่าน ยืน วีนกับ จนท อยู่ก้พอมีบ้าง ออกจากประตูปั๊บ เดินไปที่ ช่องไปรษียณ์ กรอก ให้ส่ง เอกสารกับมาที่บ้านเราแล้วเป็นอันกลับบ้านได้
ไม่ยากอย่างที่คิด เตรียมคำพูดให้ดีๆ ส่วนเรื่องเงินในสมุดบันชี ก้ขึ้นอยุ่ว่า ไประยะเวลานานแค่ไหน ควรมีเท่าไหร่ผมคิดว่า แต่ละคนรู้ดีว่าควรมีเท่าไหร่กับการไปเรียนภาษา เราสามารถคำนวณคร่าวๆได้อยู่แล้ว ในการจะไปอยู่เมืองนั่นๆ อะนะ อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เพราะ เพื่อนผมที่ไปทำด้วยกันเลย อีกคนไม่ผ่านครับ
แค่นี้แหละครับ การไปสัมภาษณ์ ส่วนใครที่กำลังจะไปก็ขอให้ โชคดีนะครับผมมม
ว่างๆ ก็เลยมารีวิวการทำวีซ่านักเรียนอเมริกา
พอดีว่าสนใจจะไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา ก็เลยไป ทำวีซ่าประ เภท F-1
แรกๆก็พยายามหารีวิวที่เป็นรูปหรือคลิป แต่ก็หาไม่เจอซักทีนอกเหนือจาก สถานทูต จะรีวิวคร่าวๆให้ในยูทู๊ป ซึ่งก้ไม่คล่อยเคลียร์เท่าไหร่
ก้ได้แต่หาอ่านๆไป ตามบอร์ด ก็ถือว่า รู้ไว้เป็นเชิง ดีกว่าไม่รุ้อะไรเลยก้ ขอบคุณมากครับ (เข้าสถานทูตแล้วคุณจะต้องฝากมือถือ ห้ามนำก้องหรืออะไรก็แล้วแต่เข้าไป บันทึก)
พอทำด้วยตนเอง โดยหลักก้ไม่มีไรมากครับ
การเตรียมเอกสารอะไรก้มีให้อ่านตามเวป เลยขอข้ามกันเลยนะครับ ส่วนมากก็มีรีวิวเยอะแล้ว
เลยอยากจะมาเล่า เวลาที่ไปสัมภาษณ์เลย
ลำดับแรก เมื่อไปถึง หน้าสถานทูตปุ๊บ จะมี ให้ต่อ สองแถว แถวนึงสำหรับคนไทยอย่างเรา อีกแถวนึง เป็นสำหรับ citizen
พอเราไปต่อแถว ถึงจุดตรวจ(นอกประตู) ก่อนจะเข้า จะมีพนักงานเช็ครายชื่อตามวันนัดครับ ถ้าเอากระเป๋าอะไรมาจะต้องเดินไปฝาก กับร้านรับฝาก ไม่ไกลจาก สถานทูตประมาณ 200 เมตร ค่าฝาก 100 บาท ไม่ได้เป็นที่ฝากแบบล้อคเกอร์นะครับ แต่ ใส่ไว้ในถังมีคนนั่งเฝ้า ทางที่ดี เก้บไว้ในรถก่อนมา หรืออย่าพกมาเลย พวก ipad ไรเงี่ย แต่มือถือพกมาได้ ฝากไว้กับ รปภ ของ สถานทูต
ถัดมาพอเข้ามาเสร็จ ก็จะมีคนตรวจเอกสารให้ก่อนรอบแรก พร้อมกับรื้อๆ แม๊กๆ เอกสารทั้งหมดใหม่ แล้วใส่แฟ้มให้เรา (ตอนแรกกังวลมากเพราะ พี่เอเจนซี่ที่ทำให้เรา บอกอย่าให้เอกสารสลับหน้านะ แต่พอมาถึงที่นี่ พี่เค้ารื้อกระจุย)
กรอกเสร็จ ก้ต่อคิว รอเช็คเอกสาร แบบเป็นทางการ กับ จนท อีกรอบ ก่อนที่จะเข้าไปรอที่ห้องสัมภาษณ์หน่ะครับ
เมื่อเข้ามาถึงก้นั่งรอ คิว พอถึงคิวเรา เราก้เดินไปต่อคิว ตามช่องๆ ที่เป็นกระจก ตอนแรกคิดว่า นี่คือการสัมภาษณ์และแหละ(ช่องเบอร์ 9) เจอ จนท ยกมือไหว้เลย พร้อมเอ่ยว่า สวัสดีครับ เสียงหวานๆ ฮ่าๆๆๆๆ เค้าก้ถามๆเสร็จ ก็คืน เอกสารทั้งหมดมา ก็ตกใจอ้าว ไม่ผ่านหรอฟ่ะ !!
ที่ไหนได้ เช็คเอกสาร และก้กรอก ข้อมูลเข้าคอมนิดหน่อยมั้งครับ เห็นพิมพ์ๆอยู่ เสร็จเค้าก้บอก เก้บเอกสารไว้ ผมก็งง อ้าวไม่ผ่านหรอ ผมก็ถามว่า ผมต้องทำอย่างไรต่อ จนท บอกว่า ไปนั่งรอคิวต่อคะ อ๊ะ ผมก็โล่งใจ นึกว่าไม่ผ่านซะละ 5555
เสร็จเรียกคิวเดิมรอบที่ สอง อันนี้ของจริง ก็ยืนรอคิวสัมภาษณ์และ ลุกจากที่นั่งมาคนเยอะมาก ถ้าเกิดว่า ใครไม่ผ่านวีซ่าก็จะเดินผ่านกลุ่มคนที่นั่งรอเวลาสัมภาษณ์อยู่ ถึงจะออกประตูไปได้ (ช่วงเวลานี้จะรู้สึกถึง คนที่กำลังดีใจกับเสียใจมากที่สุดครับ T_T )
ต่อเลย พอก่อนจะถึงคิวผม มีพี่คนข้างหน้าก็ ไปสัมภาษณ์ละ การสัมภาษณ์ จะเป็น แบบ เรายืนหน้าตู้กระจก แล้ว จนท ก็จะพูดผ่านไมค์มา เหมือนเวลาเราไปแรกเหรียญ ตาม bts อะครับ สัมภาษณ์อยู่ 1-2 นาที เค้าก้หันหน้ามา เดินสวนทางผมออกไป ซึ่งสีหน้าแบบนั้น ผมรับรู้ได้เลยว่า ผ่านหรือไม่ พร้อมกับแอบเหลือบไปเห็น สมุดพาสปอร์ต หนีบข้างๆแฟมขาวๆ ก็โอเค อันเป็นว่ารู้กัน (ในกรณีถ้าพกพาสปอร์ตเล่มล่าสุดไปเล่มเดียวอะนะ) พอออกมาก็มีเวลาคุยกันนิดหน่อย สรุปได้พอคร่าวๆ ว่า จบมาแล้วทำงานบริษัทสองปี แล้วลาออก จะไปเรียนภาษาเหมือนกัน แต่สมุดบันชีมีน้อย(ไม่ได้ถามว่ามีเท่าไหร่) ก็เป็นอันลากันไป
พอถึงคิวผมปั๊บ ก็เหมือนเดิม ยกมือไหว้ สวัสดี พูดจาฉะฉาน เสียงดังฟังชัด ไม่วอกแวก
เวลาสัมภาษณ์ตอนแรกพูดไทยก่อน พอรู้ผมเป็น นศ อินเตอร์ ทีนี้พูดภาษาอังกฤษเฉ๊ยเลย ไอเราก็อะไรหว่าา งง เลย ไม่เก่งอยู่ด้วย ก็ อันไหนฟังรุ้เรื่องก็จะตอบ ถ้าฟังไม่รุ้เรื่อง ผมแนะนำว่า อย่าตอบเด๋ดขาด ขอให้ทวนคำถาม หรือ ขอให้เค้าพูดภาษาไทยครับ เป็นอันดีที่สุด
เอกสารที่เค้าหยิบไปดู เตรียมไว้ เยอะมาก เพราะ ญาติ(พี่ชายเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน)เป็นสปอนเซอร์ให้ เค้าไม่ดูเลยครับ เค้าดูแค่ i-20 กับมหาวิทยาลัยที่เราเรียน จบมา แล้วก้เริ่มยิงคำถามมา ไปเรียนที่ไหน ไปเมื่อไหร่ แล้วใครเป็นสปอนเซอร์ แล้วรับรายได้กี่บาท ต่อเดือน ตำแหน่งงานอะไร พวกสมุดบัญชีไรเค้าไม่ดูเลยครับ เหมือนเค้ารับฟังในสิ่งที่ผมตอบตลอด เวลาผมตอบคำถาม ผมจะพูดอย่างชัดเจน และมองตา จนท ตลอดไม่วอกแวก ตั้งใจฟังคำถามเค้า แค่นั้นแหละครับ ก็พิมพ์ๆ เซ็นๆ แล้ว จนท ก็ตอกย้ำว่า gpa ผมน้อยมาก ขอให้สนุกครับ แล้วก็ study hard ด้วยหละครับ
พอรู้ว่าผ่าน ก็เดินหน้านิ่งๆ กลัวแอบโดน คนไม่ผ่านหมั่นไส้เอา เพราะคนไม่ผ่าน ยืน วีนกับ จนท อยู่ก้พอมีบ้าง ออกจากประตูปั๊บ เดินไปที่ ช่องไปรษียณ์ กรอก ให้ส่ง เอกสารกับมาที่บ้านเราแล้วเป็นอันกลับบ้านได้
ไม่ยากอย่างที่คิด เตรียมคำพูดให้ดีๆ ส่วนเรื่องเงินในสมุดบันชี ก้ขึ้นอยุ่ว่า ไประยะเวลานานแค่ไหน ควรมีเท่าไหร่ผมคิดว่า แต่ละคนรู้ดีว่าควรมีเท่าไหร่กับการไปเรียนภาษา เราสามารถคำนวณคร่าวๆได้อยู่แล้ว ในการจะไปอยู่เมืองนั่นๆ อะนะ อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เพราะ เพื่อนผมที่ไปทำด้วยกันเลย อีกคนไม่ผ่านครับ
แค่นี้แหละครับ การไปสัมภาษณ์ ส่วนใครที่กำลังจะไปก็ขอให้ โชคดีนะครับผมมม