สวัสดีครับ พอดีเมื่อเช้าได้แวะไปสัมภาษณ์วีซ่าH1B มาครับ เลยอยากแวะมาแชร์ประสบการณ์ครับ
เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆที่มีแพลนจะมาทำvisa stamping ที่ กรุงเทพครับ
ขอเล่าBackgroundนิดนึงนะครับ ผมคือไปเรียนโท-เอกที่อเมริกา จบปี2017 ก็ได้งานสอนหนังสือที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ในช่วงเทอมแรกผมทำงานด้วยการใช้OPT ระหว่างรอทางemployer ทำเรื่องยื่นI129 ให้ผม
ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ได้ Approval Notice (I-797A)
พอมีโอกาสกลับมาเมืองไทยช่วงปิดsummer เลยถือโอกาสไปขอวีซ่าแสตมป์ซะเลย
ขอข้ามขั้นตอนการกรอกDS-160/จองคิว/จ่ายค่าธรรมเนียมไปนะครับ เพราะเป็นไปตามที่หลายๆท่านได้แชร์ข้อมูลไว้ครับ
ตัดไปที่ช่วงหลังผ่านการฝากมือถือและเข้าไปในสถาทูตเรียบร้อยแล้วนะครับ
เมื่อทางพนักงานตรวจเอกสารขั้นแรกและแจ้งเลขEMS
ทางพนักงานเลือกเอาแค่ DS-160 กับ I-797A ใส่แฟ้มแล้วแจกสมุดเล่มเล็กๆที่แจ้งรายละเอียดของสิทธิของบุคคลที่ถือวีซ่าทำงานและนักเรียน
จากนั้นก็ผ่านเข้าไปด้านในอาคารเพื่อยื่นเอกสารในแฟ้มให้พนักงานคนไทย ตรวจยืนยันรูปถ่าย และพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นผมก็ไปต่อรอคิวเพื่อสัมภาษณ์
มีช่องเปิดสัมภาษณ์ทั้งหมดสี่ช่องผมได้รับการสัมภาษณ์จากท่านกงสุลผู้หญิงผิวสีท่าทางenergetic ครับ หลังจากยื่นแฟ้มและทักทายกันตามมารยาทแล้ว ผมเจอคำถาม5 คำถามสั้น ดังนี้ครับ
1) จะไปทำงานที่เมืองไหน
2) ตำแหน่งงาน คือตำแหน่งใด
3)ได้อ่านสมุดเล่มเล็กๆที่ได้รับแจกตอนตรวจเอกสารขั้นแรกไหม สมุดเล็กๆนั้นแจ้งข้อมูลอะไรให้ทราบ
4)พอรู้ไหมว่าเวลาไปทำงานอยู่ในอเมริกา พาสปอร์ตควรเก็บไว้ที่ใคร
5) สุดท้าย ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างที่ทำงานอยู่ในอเมริกา ทราบไหมว่า ต้องโทรไปขอความช่วยเหลือที่เบอร์ใด
จากนั้นท่านกงสุลก็แจ้งให้ผมไปจ่ายค่าธรรมเนียม $15 ที่เค้าเตอร์แคชเชียร์ แล้วนำใบเสร็จมายื่นที่ท่านกงสุล เป็นอันเรียบร้อยครับ
ผมใช้เวลาตั้งแต่ฝากมือถือผ่าน security จนถึงวลาที่ผมเดินออกจากสถานทูต เพียง 30นาที
จัดว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากครับ เอกสารต่างๆ ที่ทางมหาลัยแนะนำให้เตรียมมาไม่ได้ใช้เลยครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่จะไปขอวีซ่าH1Bในช่วงนี้นะครับ
ประสบการณ์สัมภาษณ์ US VISA: H1B
เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆที่มีแพลนจะมาทำvisa stamping ที่ กรุงเทพครับ
ขอเล่าBackgroundนิดนึงนะครับ ผมคือไปเรียนโท-เอกที่อเมริกา จบปี2017 ก็ได้งานสอนหนังสือที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ในช่วงเทอมแรกผมทำงานด้วยการใช้OPT ระหว่างรอทางemployer ทำเรื่องยื่นI129 ให้ผม
ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ได้ Approval Notice (I-797A)
พอมีโอกาสกลับมาเมืองไทยช่วงปิดsummer เลยถือโอกาสไปขอวีซ่าแสตมป์ซะเลย
ขอข้ามขั้นตอนการกรอกDS-160/จองคิว/จ่ายค่าธรรมเนียมไปนะครับ เพราะเป็นไปตามที่หลายๆท่านได้แชร์ข้อมูลไว้ครับ
ตัดไปที่ช่วงหลังผ่านการฝากมือถือและเข้าไปในสถาทูตเรียบร้อยแล้วนะครับ
เมื่อทางพนักงานตรวจเอกสารขั้นแรกและแจ้งเลขEMS
ทางพนักงานเลือกเอาแค่ DS-160 กับ I-797A ใส่แฟ้มแล้วแจกสมุดเล่มเล็กๆที่แจ้งรายละเอียดของสิทธิของบุคคลที่ถือวีซ่าทำงานและนักเรียน
จากนั้นก็ผ่านเข้าไปด้านในอาคารเพื่อยื่นเอกสารในแฟ้มให้พนักงานคนไทย ตรวจยืนยันรูปถ่าย และพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นผมก็ไปต่อรอคิวเพื่อสัมภาษณ์
มีช่องเปิดสัมภาษณ์ทั้งหมดสี่ช่องผมได้รับการสัมภาษณ์จากท่านกงสุลผู้หญิงผิวสีท่าทางenergetic ครับ หลังจากยื่นแฟ้มและทักทายกันตามมารยาทแล้ว ผมเจอคำถาม5 คำถามสั้น ดังนี้ครับ
1) จะไปทำงานที่เมืองไหน
2) ตำแหน่งงาน คือตำแหน่งใด
3)ได้อ่านสมุดเล่มเล็กๆที่ได้รับแจกตอนตรวจเอกสารขั้นแรกไหม สมุดเล็กๆนั้นแจ้งข้อมูลอะไรให้ทราบ
4)พอรู้ไหมว่าเวลาไปทำงานอยู่ในอเมริกา พาสปอร์ตควรเก็บไว้ที่ใคร
5) สุดท้าย ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างที่ทำงานอยู่ในอเมริกา ทราบไหมว่า ต้องโทรไปขอความช่วยเหลือที่เบอร์ใด
จากนั้นท่านกงสุลก็แจ้งให้ผมไปจ่ายค่าธรรมเนียม $15 ที่เค้าเตอร์แคชเชียร์ แล้วนำใบเสร็จมายื่นที่ท่านกงสุล เป็นอันเรียบร้อยครับ
ผมใช้เวลาตั้งแต่ฝากมือถือผ่าน security จนถึงวลาที่ผมเดินออกจากสถานทูต เพียง 30นาที
จัดว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากครับ เอกสารต่างๆ ที่ทางมหาลัยแนะนำให้เตรียมมาไม่ได้ใช้เลยครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่จะไปขอวีซ่าH1Bในช่วงนี้นะครับ