วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 715 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาหมายเลขดำ อ.4345/2556 ที่พนักงานฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นาย กิตติธน แย้มสมัย หรือ เคนจิ อายุ 51 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ อาชีพรับจ้าง เป็นจำเลยในความผิดฐาน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550 มาตรา 14 (2) (3)
คดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 22 มิ.ย.-30 ส.ค.2556 จำเลยได้เขียน พิมพ์ข้อความ ประกอบพระบรมฉายาลักษณ์ ในอันที่จะเป็นการดูหมิ่น และหมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ฯ และได้บันทึกข้อความลงใน แฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์และซีดี นอกจากนี้จำเลยยังได้เปิดเว็บไซต์เพื่อจะใช้เผยแพร่โดยเมื่อวันที่1-2 ส.ค.2556 จำเลยได้ใช้ชื่อล็อคอิน ว่า เคนจิ บนเว็บไซต์ที่จำเลยสร้างขึ้น ซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อความดูหมิ่น และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริและข้อความอื่น โดยในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ และ กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯที่มีการนำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันที่จะกระทบต่อความมั่นคง ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกฐานพยายามดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน และฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จำคุก2กระทงๆละ 5 ปี เป็นจำคุก 10 ปีจำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสิ้น เป็นเวลา 6 ปี 8เดือน
คุก 13 ปี เคนจิแดงปากน้ำเว็บไซต์ หมิ่นเบื้องสูงฯ
คดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 22 มิ.ย.-30 ส.ค.2556 จำเลยได้เขียน พิมพ์ข้อความ ประกอบพระบรมฉายาลักษณ์ ในอันที่จะเป็นการดูหมิ่น และหมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ฯ และได้บันทึกข้อความลงใน แฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์และซีดี นอกจากนี้จำเลยยังได้เปิดเว็บไซต์เพื่อจะใช้เผยแพร่โดยเมื่อวันที่1-2 ส.ค.2556 จำเลยได้ใช้ชื่อล็อคอิน ว่า เคนจิ บนเว็บไซต์ที่จำเลยสร้างขึ้น ซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อความดูหมิ่น และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริและข้อความอื่น โดยในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ และ กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯที่มีการนำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันที่จะกระทบต่อความมั่นคง ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกฐานพยายามดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน และฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จำคุก2กระทงๆละ 5 ปี เป็นจำคุก 10 ปีจำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสิ้น เป็นเวลา 6 ปี 8เดือน