สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
บางครั้งในแต่ละเกมส์ ก็มีการปรับแผนกลางอากาศกันเยอะครับ
ไอ้ที่เริ่มมาแบบ 4-2-3-1 เล่นๆไปก็อาจจะกลายเป็น 4-5-1 หรือ 4-3-3 หรือ 4-4-1-1 ก็แล้วแต่สถานการณ์ในบางช่วงของเกมส์
ขอย้อนแค่ช่วงปี 1970 นะครับ
เมื่อก่อนระบบไม่ซับซ้อน เล่นกัน 4-4-2 แบบอังกฤษนี่แหละ มีปีก กองกลางคู่ และหน้าคู่
ตอนหลังฮอลแลนด์เอาระบบ 4-3-3 มาใช้ (กองหน้าสาม เป้นปีกสองข้างและยืนกางทุ้งตรงกลาง 1 คน) ระบบนี้ ตัวปีกจะยืนดวลกับแบ็ค และตรงกลาง มิดฟิงด์จะสลับกันสอดขึ้นไปช่วยกองหน้า ตามแบบโททั่ลฟุตบอล
เยอรมันแก้ลำด้วยการเล่น 5-3-2 หรือ 1-4-3-2 (มีลิเบโร่) กองหลังห้าตัวคอยดันกับปีก และใช้กองหลังตัวกลางหนึ่งตัวชนกับหน้าเป้า กองกลางมีสามเท่ากัน และลิเบโร่ คอยดักทาง พร้อมทำเกมส์บุกในเวลาที่คู่แข่งเผลอ
อิตาลีเล่น 4-4-2 แต่ในรายละเอียดย่อย จะเป็น 1-3-4-2 คือมีสวีเปอร์คอยกวาด กองหลังคู่จะยืนไม่เท่ากัน คนหนึ่งเข้าปะทะ อีกคนคอยเก็บตก อิตาลียุค 1980-90 ไม่ค่อยเล่นเช็คล้ำหน้า ยืนรับแน่น รับต่ำ เลยไม่มีปัญหาเวลากองหลังยืนไม่เท่ากัน
เยอรมันมาพัฒนา 5-3-2 เป็น 3-5-2 ก็แบ็คสองข้างน่ะแหละ ที่เล่นเป็น 'วิงแบ็ค' เล่นเกมส์บุกมากขึ้น
หลังจากนั้น สเปน เป็นประเทศแรกๆที่ใช้ 4-5-1 (แต่ จะเป็น 4-4-1-1 มากกว่า 4-2-3-1 หรือ 4-3-2-1) ระบบนี้กองหน้าต้องควายถึก สเปนช่วงปี 1996-2000 ใช้พวก กิโก้ นาบาเอซ , ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ หรือ มอริเอนเตซ ที่เล่นหน้าเป้าได้ดี เล่นลูกหัวได้ พักบอลได้ คอยประสานกับหน้าต่ำ / กลางตัวรุก แล้วแต่จะเรียก ทั้ง ราอูล , บาเลร่อน , มานฆาริน (ในระดับสโมสร เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า กับ บาเลนเซีย ใช้ระบบนี้ชัดเจนมาก)
อิตาลีมาแนวใหม่ ด้วยระบบ 4-3-2-1 ไม่มีปีก แต่กองหน้า 2 ตัวจะสับเวียนกันออกไปเล่นด้านข้างกันเอง ระบบนี้มีกลางที่เน้นรับ+เชื่อมเกมส์สามคน (พวกอัมโบรซินี่ กัตตูโซ่ เด รอสซี่ หรือรวมปีร์โล่ด้วยก็ได้ เพราะแกยืนต่ำ) ส่วนตัวรุกสองคน จะเป็นพวกกึ่งกองกลาง กึ่งกองหน้า อย่างต๊อตติ, เดล ปีเอโร่ และหน้าสอง ที่คนหนึ่งจะเป็นหน้าเป้าบึกบึนแบบวิเอรี่ บาร์โลเตลี่ โทนี่ และอีกคนจะเป็นพวกคล่องแคล่วอย่าง กวายาเรลล่า คาซซาโน่ หรือ โจวินโก้
และสเปนพัฒนาระบบ 4-5-1 ใหม่ซะแทบจะเป็น 4-6-0 ในบางครั้ง เอาฟาเบรกัส มาเล่นหน้าซะเลย ผลคือยำอิตาลี ได้แชมป์ยูโรไปซะ
มาดูที่ฝั่งอเมริกาใต้นี่ยึดมั่นกับระบบ 4-1-2-1-2 หรือ 4-3-1-2 มากๆ ระบบเพชร diamond จะอยู่ได้เพราะมีกองกลางตัวรุกเทพๆ 1 คน ที่เห็นชัดๆก็ริเคลเม่ (เก่าหน่อยก็มาราโดน่า,คาร์ลอส วัลเดอราม่า ,มารโก เอ็ตเชเวอรี่)
อาร์เจนติน่าในยุค 2000 ปรับใหญ่เป็นระบบ 3-4-3 หรือลงละเอียดได้ว่า 3-1-2-1-3 กองหน้ายืนเป็นปีก ระบบนี้ใช้ครั้งแรก เอาไว้สนองเคลาดิโอ โลเปซ ที่เป็นกองหน้ากึ่งปีก คอยป้อนบอลให้บาติสตูต้า คอยยิงโป้งๆ โดยกองกลางมีแต่พวกเชิงรับอย่าง คัมเปียสโซ่ เรดอนโด้ หรือเวรอน ที่เป็นตัวรุกยืนต่ำ ก็เลยไม่เน้นการบุกจากเพลย์เมกเกอร์เท่าไหร่ (อาร์เจนติน่ายุคนั้นมีกองหน้า ที่เด่นกว่ากองกลาง เป็นยุคที่แปลก)
บราซิล.... 4-4-2 แบบ 4-1-3-2 สลับกับ 4-2-2-2 รับสอง รุกสอง ได้ตัวรุกนี่ก็ยืนกึ่งๆปีก แต่ก็ชอบหุบเข้ามาตรงกลาง นึกถึง โรนัลดินโญ่ จนถึงเนย์มาร์ในปัจจุบัน มีบางครั้งอยากเน้นผล ก็เล่นหลัง 5 บ้าง กลาง 5 บ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่
ทางเอเชีย
ญี่ปุ่นในบอลโลกครั้งก่อน หากองหน้าไม่ได้ เลยเล่นมันแบบ 4-6-0 แบบสเปน (4-3-2-1-0) คือตัวที่ยืนหน้าสุดอย่าง เคซุเกะ ฮอนดะ เล่นเหมือนกองกลางตัวรุก ระบบนี้เลยต้องอาศัยการยิงไกล บวกค่อยๆเซตเกมส์ขึ้นไปของพวกกองกลาง
เกาหลีทักษะด้อยกว่า และมีกองหน้าดีๆตลอด เลยยืนพื้นระบบ 4-3-3 แบบฮอลแลนด์ (ตั้งแต่กุส ฮิดดิ้งมาคุมในปี 2002 เกาหลีก็ติดใจระบบนี้ไปเลย)
อิหร่าน ถอดแบบเยอรมันมาตลอด ตั้งแต่ 3-5-2 มา 4-4-2 และตอนนี้ก็ 4-5-1 (4-2-3-1) ไปแล้ว
ซาอุดิอารเบีย จะเล่นระบบคล้ายๆบราซิล เป็น 4-4-2 แบบ 4-2-2-2
จีนเล่นแบอังกฤษ ซึ่งเข้ากับร่างกายสูงใหญ่ และทักษะที่ค่อนข้างห่วยได้เป็นอย่างดี พอคามาโช่ มาคุมทีมและพยายามจะสวยงาม เล่น tiki taka แบบบาร์ซ่า ด้วยระบบ 4-5-1 เลยโดนไทยบุกไปยำซะ 5-1 .... คงต้องกลับไปโยนโขกเหมือนเดิมดีกว่า (ที่กว่างโจว เล่นบอลบนพื้นจนได้แชมป์เอเชีย มันเป็นผลมาจากตัวต่างชาติในแนวรุกทั้งนั้น ถ้าเป็นคนจีนหมด ไม่เจริญหรอก)
ของไทยเรา เริ่มด้วย 4-4-2 ตามมาตรฐาน แล้วก็มา 4-3-3 ในยุคดรีมทีม พอมายุคปีเตอร์ วิธ ก็ใช้ 3-5-2 (กองกลาง 5 เป็นวิงแบ็ค2 / ตัวรับ 1 และตัวรุก 2 ซึ่งจะแปลกตากว่าพวกยุโรป ที่ใช้ตัวรับ 2 ตัวรุก 1) พอดรีมทีมแตก เข้าสมัยยังบลัด ก็เปลี่ยนเป็น 4-4-2 และพอวินเฟรด เชเฟอร์เข้ามา ก็เริ่มเล่น 4-5-1 (4-4-1-1) ตามสมัยนิยม.... และพอโค้ชง้วนเข้ามารับเผือกร้อนต่อ ไทยก็เล่น 4-4-2 (แต่กองหน้าคนหนึ่งก็ลงมาเป็นกองกลางตัวรุกเวลาโดนบุก ซึ่งก็โดนบุกแทบทั้งเกมส์ มันก็เลยยังดูไม่ต่างกับ 4-5-1 เท่าไหร่)
ส่วนข้อดีข้อเสีย ผมว่ามันขึ้นอยู่กับศักยภาพของนักฟุตบอลมากกว่า ทุกระบบมีดี มีจุดอ่อนในตัวเองหมด บางระบบก็แพ้ทางอีกระบบ
ไอ้ที่เริ่มมาแบบ 4-2-3-1 เล่นๆไปก็อาจจะกลายเป็น 4-5-1 หรือ 4-3-3 หรือ 4-4-1-1 ก็แล้วแต่สถานการณ์ในบางช่วงของเกมส์
ขอย้อนแค่ช่วงปี 1970 นะครับ
เมื่อก่อนระบบไม่ซับซ้อน เล่นกัน 4-4-2 แบบอังกฤษนี่แหละ มีปีก กองกลางคู่ และหน้าคู่
ตอนหลังฮอลแลนด์เอาระบบ 4-3-3 มาใช้ (กองหน้าสาม เป้นปีกสองข้างและยืนกางทุ้งตรงกลาง 1 คน) ระบบนี้ ตัวปีกจะยืนดวลกับแบ็ค และตรงกลาง มิดฟิงด์จะสลับกันสอดขึ้นไปช่วยกองหน้า ตามแบบโททั่ลฟุตบอล
เยอรมันแก้ลำด้วยการเล่น 5-3-2 หรือ 1-4-3-2 (มีลิเบโร่) กองหลังห้าตัวคอยดันกับปีก และใช้กองหลังตัวกลางหนึ่งตัวชนกับหน้าเป้า กองกลางมีสามเท่ากัน และลิเบโร่ คอยดักทาง พร้อมทำเกมส์บุกในเวลาที่คู่แข่งเผลอ
อิตาลีเล่น 4-4-2 แต่ในรายละเอียดย่อย จะเป็น 1-3-4-2 คือมีสวีเปอร์คอยกวาด กองหลังคู่จะยืนไม่เท่ากัน คนหนึ่งเข้าปะทะ อีกคนคอยเก็บตก อิตาลียุค 1980-90 ไม่ค่อยเล่นเช็คล้ำหน้า ยืนรับแน่น รับต่ำ เลยไม่มีปัญหาเวลากองหลังยืนไม่เท่ากัน
เยอรมันมาพัฒนา 5-3-2 เป็น 3-5-2 ก็แบ็คสองข้างน่ะแหละ ที่เล่นเป็น 'วิงแบ็ค' เล่นเกมส์บุกมากขึ้น
หลังจากนั้น สเปน เป็นประเทศแรกๆที่ใช้ 4-5-1 (แต่ จะเป็น 4-4-1-1 มากกว่า 4-2-3-1 หรือ 4-3-2-1) ระบบนี้กองหน้าต้องควายถึก สเปนช่วงปี 1996-2000 ใช้พวก กิโก้ นาบาเอซ , ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ หรือ มอริเอนเตซ ที่เล่นหน้าเป้าได้ดี เล่นลูกหัวได้ พักบอลได้ คอยประสานกับหน้าต่ำ / กลางตัวรุก แล้วแต่จะเรียก ทั้ง ราอูล , บาเลร่อน , มานฆาริน (ในระดับสโมสร เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า กับ บาเลนเซีย ใช้ระบบนี้ชัดเจนมาก)
อิตาลีมาแนวใหม่ ด้วยระบบ 4-3-2-1 ไม่มีปีก แต่กองหน้า 2 ตัวจะสับเวียนกันออกไปเล่นด้านข้างกันเอง ระบบนี้มีกลางที่เน้นรับ+เชื่อมเกมส์สามคน (พวกอัมโบรซินี่ กัตตูโซ่ เด รอสซี่ หรือรวมปีร์โล่ด้วยก็ได้ เพราะแกยืนต่ำ) ส่วนตัวรุกสองคน จะเป็นพวกกึ่งกองกลาง กึ่งกองหน้า อย่างต๊อตติ, เดล ปีเอโร่ และหน้าสอง ที่คนหนึ่งจะเป็นหน้าเป้าบึกบึนแบบวิเอรี่ บาร์โลเตลี่ โทนี่ และอีกคนจะเป็นพวกคล่องแคล่วอย่าง กวายาเรลล่า คาซซาโน่ หรือ โจวินโก้
และสเปนพัฒนาระบบ 4-5-1 ใหม่ซะแทบจะเป็น 4-6-0 ในบางครั้ง เอาฟาเบรกัส มาเล่นหน้าซะเลย ผลคือยำอิตาลี ได้แชมป์ยูโรไปซะ
มาดูที่ฝั่งอเมริกาใต้นี่ยึดมั่นกับระบบ 4-1-2-1-2 หรือ 4-3-1-2 มากๆ ระบบเพชร diamond จะอยู่ได้เพราะมีกองกลางตัวรุกเทพๆ 1 คน ที่เห็นชัดๆก็ริเคลเม่ (เก่าหน่อยก็มาราโดน่า,คาร์ลอส วัลเดอราม่า ,มารโก เอ็ตเชเวอรี่)
อาร์เจนติน่าในยุค 2000 ปรับใหญ่เป็นระบบ 3-4-3 หรือลงละเอียดได้ว่า 3-1-2-1-3 กองหน้ายืนเป็นปีก ระบบนี้ใช้ครั้งแรก เอาไว้สนองเคลาดิโอ โลเปซ ที่เป็นกองหน้ากึ่งปีก คอยป้อนบอลให้บาติสตูต้า คอยยิงโป้งๆ โดยกองกลางมีแต่พวกเชิงรับอย่าง คัมเปียสโซ่ เรดอนโด้ หรือเวรอน ที่เป็นตัวรุกยืนต่ำ ก็เลยไม่เน้นการบุกจากเพลย์เมกเกอร์เท่าไหร่ (อาร์เจนติน่ายุคนั้นมีกองหน้า ที่เด่นกว่ากองกลาง เป็นยุคที่แปลก)
บราซิล.... 4-4-2 แบบ 4-1-3-2 สลับกับ 4-2-2-2 รับสอง รุกสอง ได้ตัวรุกนี่ก็ยืนกึ่งๆปีก แต่ก็ชอบหุบเข้ามาตรงกลาง นึกถึง โรนัลดินโญ่ จนถึงเนย์มาร์ในปัจจุบัน มีบางครั้งอยากเน้นผล ก็เล่นหลัง 5 บ้าง กลาง 5 บ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่
ทางเอเชีย
ญี่ปุ่นในบอลโลกครั้งก่อน หากองหน้าไม่ได้ เลยเล่นมันแบบ 4-6-0 แบบสเปน (4-3-2-1-0) คือตัวที่ยืนหน้าสุดอย่าง เคซุเกะ ฮอนดะ เล่นเหมือนกองกลางตัวรุก ระบบนี้เลยต้องอาศัยการยิงไกล บวกค่อยๆเซตเกมส์ขึ้นไปของพวกกองกลาง
เกาหลีทักษะด้อยกว่า และมีกองหน้าดีๆตลอด เลยยืนพื้นระบบ 4-3-3 แบบฮอลแลนด์ (ตั้งแต่กุส ฮิดดิ้งมาคุมในปี 2002 เกาหลีก็ติดใจระบบนี้ไปเลย)
อิหร่าน ถอดแบบเยอรมันมาตลอด ตั้งแต่ 3-5-2 มา 4-4-2 และตอนนี้ก็ 4-5-1 (4-2-3-1) ไปแล้ว
ซาอุดิอารเบีย จะเล่นระบบคล้ายๆบราซิล เป็น 4-4-2 แบบ 4-2-2-2
จีนเล่นแบอังกฤษ ซึ่งเข้ากับร่างกายสูงใหญ่ และทักษะที่ค่อนข้างห่วยได้เป็นอย่างดี พอคามาโช่ มาคุมทีมและพยายามจะสวยงาม เล่น tiki taka แบบบาร์ซ่า ด้วยระบบ 4-5-1 เลยโดนไทยบุกไปยำซะ 5-1 .... คงต้องกลับไปโยนโขกเหมือนเดิมดีกว่า (ที่กว่างโจว เล่นบอลบนพื้นจนได้แชมป์เอเชีย มันเป็นผลมาจากตัวต่างชาติในแนวรุกทั้งนั้น ถ้าเป็นคนจีนหมด ไม่เจริญหรอก)
ของไทยเรา เริ่มด้วย 4-4-2 ตามมาตรฐาน แล้วก็มา 4-3-3 ในยุคดรีมทีม พอมายุคปีเตอร์ วิธ ก็ใช้ 3-5-2 (กองกลาง 5 เป็นวิงแบ็ค2 / ตัวรับ 1 และตัวรุก 2 ซึ่งจะแปลกตากว่าพวกยุโรป ที่ใช้ตัวรับ 2 ตัวรุก 1) พอดรีมทีมแตก เข้าสมัยยังบลัด ก็เปลี่ยนเป็น 4-4-2 และพอวินเฟรด เชเฟอร์เข้ามา ก็เริ่มเล่น 4-5-1 (4-4-1-1) ตามสมัยนิยม.... และพอโค้ชง้วนเข้ามารับเผือกร้อนต่อ ไทยก็เล่น 4-4-2 (แต่กองหน้าคนหนึ่งก็ลงมาเป็นกองกลางตัวรุกเวลาโดนบุก ซึ่งก็โดนบุกแทบทั้งเกมส์ มันก็เลยยังดูไม่ต่างกับ 4-5-1 เท่าไหร่)
ส่วนข้อดีข้อเสีย ผมว่ามันขึ้นอยู่กับศักยภาพของนักฟุตบอลมากกว่า ทุกระบบมีดี มีจุดอ่อนในตัวเองหมด บางระบบก็แพ้ทางอีกระบบ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบเรื่องระบบหรือแผนการเล่นฟุตบอลในปัจจุบัน
แผนในปัจจุบันนั้นผมเห็นเขาใช้แผน 4-2-3-1 มันดีอย่างไร แล้วแผนอื่นมันไม่ดีแล้วหรอ
แล้วในแต่ละแผนมันมีความแตกต่างหรือข้อดีข้อด้อย อย่างไรบ้าง
ช่วยอธิบายให้หายโง่ทีครับ!!! อยากทราบเหมือนกัน