อัพเดทล่าสุดนะคะ 12 ธ.ค.56
ทางโรงพยาบาลโทรมาเมื่อ 4 โมงกว่าๆ
บอกว่าน้องเสียแล้วค่ะ
หยุดหายใจเมื่อคืน
ขอบคุณแทนน้องสำหรับทุกกำลังใจนะคะ

เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้ค่ะ (วันที่ 8 ธันวาคม 56) เจ้าของกระทู้กับน้องสาวกำลังนั่งแท็กซี่กลับบ้านจากบิ๊กซีรัชดา
ระหว่างทางเจอน้องแมวโดนรถชน ที่ซอยประชาสงค์เคราะห์ 47 โดยมีน้องนักเรียนมัธยมปลาย 2 คน กำลังอุ้มมาวางบนฟุตบาท
เลยลงจากรถ แล้วช่วยกันพาไปคลีนิกที่ใกล้ที่สุดแถวนั้น
คุณหมอบอกว่าน้องแมวซี่โครงทิ่มปอด ได้ให้อ๊อกซิเจน น้ำเกลือ แล้วก็ฉีดยา
(ยาประมาณว่าทำให้เลือดหยุดไหลค่ะ พอดีตกใจ จำรายละเอียดไม่ได้)
แต่คุณหมอมีเครื่องมือไม่พร้อม เพราะต้องผ่าตัด เลยแนะนำให้ไปโรงพยาบาลสัตว์
แต่เนื่องจากโรงพยาบาลสัตว์เกษตรคุณหมอบอกว่าต้องมีเจ้าของคอยเฝ้าตลอด
ไม่มีใครสะดวกเฝ้ากันค่ะ (น้องแมวไม่มีเจ้าของค่ะ น้องๆ ยังเรียนกันอยู่ เจ้าของกระทู้ก็ต้องทำงาน)
เลยพาน้องแมวไปที่โรงพยาบาลสัตว์ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา เพราะฝากไว้ได้ ไม่ต้องมีคนเฝ้า
และระหว่างที่เจ้าหน้าที่และคุณหมอกำลังรักษาน้องแมวอยู่ เจ้าของกระทู้และน้องๆ ก็ได้เจอพี่ณวัฒน์ที่มาที่นี่พอดี
(ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ เพราะพี่เค้าแทนตัวเองว่าพี่) พี่ณวัฒน์ก็ได้คุยถามรายละเอียดต่างๆ ว่ามาทำอะไร น้องแมวเป็นอะไร โดนอะไรมา โดนชนแถวไหน พี่เค้าก็เล่าให้ฟังว่าพี่เค้าก็เลี้ยงแมวเยอะ มีคนมาปล่อย เป็นสิบๆ ตัวเลยค่ะ แล้วก็เลี้ยงน้องหมาด้วย ก็ต้องฝึกให้เค้าอยู่ด้วยกัน
พี่เค้ามาที่นี่บ่อยค่ะ
ก็คุยกันสักพัก พวกเราก็ถามเจ้าหน้าที่เรื่องค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่บอกว่าค่าแอดมิท 4,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คุณหมอจะประเมินอีกที
(คือตอนแรกพวกเราคุยกันก่อนพาน้องแมวมา ว่าช่วยน้องให้รอดก่อน แล้วค่อยย้ายมาคลีนิกใกล้บ้าน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง แล้วค่อยลงสื่อออนไลน์ เปิดบัญชีช่วยเหลือ หรือติดต่อกับกลุ่มโซเชียลที่ช่วยเหลือด้านนี้อยู่ เพราะถ้าผ่าตัด ค่าใช้จ่ายคงสูง กำลังเราคงไม่พอ)
แต่พี่ณวัฒน์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เลยบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ เพียงแต่ต้องช่วยเลี้ยงน้อง หรือหาที่อยู่ให้น้อง
พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและโชคดีมากค่ะ ที่พี่ช่วยเหลือพวกเรา ทั้งๆ ที่พี่ไม่รู้จักพวกหนูมาก่อน (แต่พวกหนูรู้จักพี่นะคะ)
พี่ไม่เห็นตัวน้องแมวเลยด้วยซ้ำ เพราะน้องอยู่ในกล่อง แค่ถามข้อมูล พูดคุย แต่พี่ก็ให้การช่วยเหลือเป็นเงินจำนวนมาก
พี่ณวัฒน์เน้นกับเจ้าหน้าที่ว่าให้รักษาอย่างเต็มที่ ถ้ามีอะไรอัพเดทให้โทรบอกพวกหนูด้วย แต่ถ้าเรื่องค่าใช้จ่ายให้ติดต่อมาทางพี่ณวัฒน์เลย
วันนี้ (วันที่ 9 ธ.ค. 56) หนูก็ไปเยี่ยมน้องแมวมาค่ะ คุณหมอบอกว่ากระเพาะปัสสาวะอาจตีบหรือแตก สมองได้รับการกระทบกระเทือน ยังไม่ปลอดภัย 100% วันนี้เอ็กซเรย์ และจะต้องทำการผ่าตัดอีก
หนูก็เกรงใจพี่ณวัฒน์มากค่ะ คิดว่าจะเปิดบัญชีหรือติดต่อทางกลุ่มที่ช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวด้วยดีกว่า
หนูทำงานแล้ว พอจ่ายได้บ้าง (นอกจากถ้าเป็นเงินก้อนใหญ่ และรักษานานจริงๆ อาจจะค่อยๆ ขอความช่วยเหลือกัน)
ตอนนี้ได้แต่หวังว่าน้องแมวจะอาการดีขึ้น
สุดท้ายนี้...พวกหนูขอขอบพระคุณพี่ณวัฒน์อีกทีค่ะ หนูคงทำอะไรไม่ได้มากเพื่อตอบแทนพี่
คงทำได้แค่พยามหาบ้านให้น้อง และบอกต่อความดีที่พี่ทำโดยไม่ออกสื่อ (หนูประกาศออกสื่อให้เองค่ะ)
ขอบคุณมากค่ะพี่ณวัฒน์
ปล.เข้ามาแก้ไขคำผิดค่ะ
กระทู้ขอบคุณคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีลค่ะ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายน้องแมวที่โดนรถชน
ทางโรงพยาบาลโทรมาเมื่อ 4 โมงกว่าๆ
บอกว่าน้องเสียแล้วค่ะ
หยุดหายใจเมื่อคืน
ขอบคุณแทนน้องสำหรับทุกกำลังใจนะคะ
ระหว่างทางเจอน้องแมวโดนรถชน ที่ซอยประชาสงค์เคราะห์ 47 โดยมีน้องนักเรียนมัธยมปลาย 2 คน กำลังอุ้มมาวางบนฟุตบาท
เลยลงจากรถ แล้วช่วยกันพาไปคลีนิกที่ใกล้ที่สุดแถวนั้น
คุณหมอบอกว่าน้องแมวซี่โครงทิ่มปอด ได้ให้อ๊อกซิเจน น้ำเกลือ แล้วก็ฉีดยา
(ยาประมาณว่าทำให้เลือดหยุดไหลค่ะ พอดีตกใจ จำรายละเอียดไม่ได้)
แต่คุณหมอมีเครื่องมือไม่พร้อม เพราะต้องผ่าตัด เลยแนะนำให้ไปโรงพยาบาลสัตว์
แต่เนื่องจากโรงพยาบาลสัตว์เกษตรคุณหมอบอกว่าต้องมีเจ้าของคอยเฝ้าตลอด
ไม่มีใครสะดวกเฝ้ากันค่ะ (น้องแมวไม่มีเจ้าของค่ะ น้องๆ ยังเรียนกันอยู่ เจ้าของกระทู้ก็ต้องทำงาน)
เลยพาน้องแมวไปที่โรงพยาบาลสัตว์ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา เพราะฝากไว้ได้ ไม่ต้องมีคนเฝ้า
และระหว่างที่เจ้าหน้าที่และคุณหมอกำลังรักษาน้องแมวอยู่ เจ้าของกระทู้และน้องๆ ก็ได้เจอพี่ณวัฒน์ที่มาที่นี่พอดี
(ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ เพราะพี่เค้าแทนตัวเองว่าพี่) พี่ณวัฒน์ก็ได้คุยถามรายละเอียดต่างๆ ว่ามาทำอะไร น้องแมวเป็นอะไร โดนอะไรมา โดนชนแถวไหน พี่เค้าก็เล่าให้ฟังว่าพี่เค้าก็เลี้ยงแมวเยอะ มีคนมาปล่อย เป็นสิบๆ ตัวเลยค่ะ แล้วก็เลี้ยงน้องหมาด้วย ก็ต้องฝึกให้เค้าอยู่ด้วยกัน
พี่เค้ามาที่นี่บ่อยค่ะ
ก็คุยกันสักพัก พวกเราก็ถามเจ้าหน้าที่เรื่องค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่บอกว่าค่าแอดมิท 4,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คุณหมอจะประเมินอีกที
(คือตอนแรกพวกเราคุยกันก่อนพาน้องแมวมา ว่าช่วยน้องให้รอดก่อน แล้วค่อยย้ายมาคลีนิกใกล้บ้าน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง แล้วค่อยลงสื่อออนไลน์ เปิดบัญชีช่วยเหลือ หรือติดต่อกับกลุ่มโซเชียลที่ช่วยเหลือด้านนี้อยู่ เพราะถ้าผ่าตัด ค่าใช้จ่ายคงสูง กำลังเราคงไม่พอ)
แต่พี่ณวัฒน์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เลยบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ เพียงแต่ต้องช่วยเลี้ยงน้อง หรือหาที่อยู่ให้น้อง
พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและโชคดีมากค่ะ ที่พี่ช่วยเหลือพวกเรา ทั้งๆ ที่พี่ไม่รู้จักพวกหนูมาก่อน (แต่พวกหนูรู้จักพี่นะคะ)
พี่ไม่เห็นตัวน้องแมวเลยด้วยซ้ำ เพราะน้องอยู่ในกล่อง แค่ถามข้อมูล พูดคุย แต่พี่ก็ให้การช่วยเหลือเป็นเงินจำนวนมาก
พี่ณวัฒน์เน้นกับเจ้าหน้าที่ว่าให้รักษาอย่างเต็มที่ ถ้ามีอะไรอัพเดทให้โทรบอกพวกหนูด้วย แต่ถ้าเรื่องค่าใช้จ่ายให้ติดต่อมาทางพี่ณวัฒน์เลย
วันนี้ (วันที่ 9 ธ.ค. 56) หนูก็ไปเยี่ยมน้องแมวมาค่ะ คุณหมอบอกว่ากระเพาะปัสสาวะอาจตีบหรือแตก สมองได้รับการกระทบกระเทือน ยังไม่ปลอดภัย 100% วันนี้เอ็กซเรย์ และจะต้องทำการผ่าตัดอีก
หนูก็เกรงใจพี่ณวัฒน์มากค่ะ คิดว่าจะเปิดบัญชีหรือติดต่อทางกลุ่มที่ช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวด้วยดีกว่า
หนูทำงานแล้ว พอจ่ายได้บ้าง (นอกจากถ้าเป็นเงินก้อนใหญ่ และรักษานานจริงๆ อาจจะค่อยๆ ขอความช่วยเหลือกัน)
ตอนนี้ได้แต่หวังว่าน้องแมวจะอาการดีขึ้น
สุดท้ายนี้...พวกหนูขอขอบพระคุณพี่ณวัฒน์อีกทีค่ะ หนูคงทำอะไรไม่ได้มากเพื่อตอบแทนพี่
คงทำได้แค่พยามหาบ้านให้น้อง และบอกต่อความดีที่พี่ทำโดยไม่ออกสื่อ (หนูประกาศออกสื่อให้เองค่ะ)
ขอบคุณมากค่ะพี่ณวัฒน์
ปล.เข้ามาแก้ไขคำผิดค่ะ