เตือนภัยคนชอบเที่ยวป่า ( โดยเฉพาะภูกระดึง )

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับตัวผมเองเมื่อสมัยนานมาแล้ว ตอนเป็นนักศึกษาใหม่ๆ  โดยเฉพาะสมัยนั้น " ภูกระดึง จ.เลย " ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะของนักศึกษาสมัยนั้น  รวมถึงผมและเพื่อนๆด้วย  คือถ้ามีโอกาส จะต้องจับกลุ่มรวมตัวกันไปภูกระดึงเป็นประจำ และ ณ. สมัยนั้น ( ก่อนปี 48 ) การเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นในช่วงเวลาเช้ามืด ทางอุทยาน จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินไปกันเอง ( ในเส้นทางที่ต้องเดินผ่านลานพระ โดยผมจำชื่อไม่ได้ว่าเรียกว่าลานพระอะไร แต่เส้นทางนั้นเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด แต่ ! ต้องเดินตัดเส้นทางผ่านป่า และทุ่งหญ้าไป )และทุกครั้งที่ผมไปภูกระดึง เมื่อเวลาใกล้รุ่งผมก็จะผ่านทางเส้นนี้เป็นประจำเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ " ผานกแอ่น "  แต่มันมีอยู่ครั้งนึง ที่ผมได้มีโอกาสขึ้นภูกระดึงกับเพื่อนๆ อีกครั้ง ( ประมาณปี 48 ) และก็ตื่นมาเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นเหมือนเดิม และ.....ก็เดินผ่านเส้นทางเดิมที่เคยผ่าน  และ.... ก็ไปถึงผานกแอ่นตาม ปกติ .... แต่ !!! เมื่อไปถึงผานกแอ่น  เจ้าหน้าที่อุทยานก็เดินเข้ามาหาผมและเพื่อนๆ  แล้วก็ใช้วิทยุสื่อสารคุยกับเจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง "" โปรดทราบ โปรดทราบ ตอนนี้ได้พบกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เดินผ่าน ทาง.... เรียบร้อยแล้ว""  เห้ย !!! ผมคิดในใจนะ ว่าเนี้ย ตรูทำไรผิดไป ฟ๊ะ .... ผมและเพื่อนยืน งง อยู่ซักพักไม่นาน ก็มี เจ้าหน้าที่อุทยานอีกสองคนเดินมา แล้วถามพวกผมว่า

เจ้าหน้าที่อุทยาน : น้องไม่ได้ฟังประกาศเมื่อคืนเหรอ ?
ผม : ไม่ได้ฟังครับ .....
เจ้าหน้าที่อุทยาน : ทีหลังเวลาไปเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่ หัดฟังสิ่งที่เจ้าหน้าที่เค้าประกาศเตือนบ้าง ไม่ใช่มัวแต่ทำอะไรกันอยู่ ลำโพงก็ดังไปทั่วอยู่กันก็หลายคนไม่น่าไม่ได้ยิน เว้นแต่จะไม่สนใจ ( สิ่งที่เจ้าหน้าที่พูด เค้าพูดถูกต้องทุกอย่างครับ เพื่อนๆ ท่านอื่นอย่าเป็นแบบผมนะ ) รู้มั้ย วันนี้น้อง "รอดตาย" มาได้ทุกคนก็ บุญ สุดๆแล้วรู้มั้ย เพราะเส้นทางที่น้องผ่านมาเมื่อเช้า อาทิตย์ที่แล้วก็มีคนตายมา เนื่องจากโดนช้างป่าเหยียบตาย (ข้อมูลนี้ผมไม่แน่ใจนะครับว่าคือเรื่องจริงหรือเป็นแค่การขู่ของเจ้าหน้าที่ ) พี่ก็พยายามประกาศ เตือนให้นักท่องเที่ยวทราบว่าถ้าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าให้มายืนรอ ที่อาคารนักท่องเที่ยวและจะมีเจ้าหน้าที่ นำไป ไม่ใช่ไปกันเองแบบนี้
และเมื่อผมกลับไปถึงลานที่กางเต็นท์ ผมก็ถึงบางอ้อ เมื่อได้ไปคุยกับป้าร้านขายของ ป้าเขาเล่าให้ฟังว่า

..... จริงจ๊ะ ในภูกระดึงและป่าทั่วไป สิ่งที่น่ากลัวสุด ไม่ใช่ เสือ หมาใน หรือสุนัขจิ้งจอก (สัตว์พวกนี้ เวลาได้กลิ่นมนุษย์มันก็หนีแล้ว ) แต่เป็น "ช้าง"  โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ทราบ คิดว่า ช้างป่าจะ เชื่อง เหมือนช้างบ้านที่เอาอ้อยเอากล้วยให้กินได้ โดยไม่มีพิษมีภัย โดยส่วนใหญ่แล้วนิสัยของช้างป่า คือ " จะเป็นสัตว์ที่หวงถิ่น หวงอาณาเขต ใครเข้าไปในถิ่น ที่เป็นอาณาเขตของมัน บางตัวก็แค่ขู่ บางตัวเลือดเดือดก็ถึงขนาดไล่ชน ไล่เหยียบกันเลยทีเดียว " และ จริงอีกนั้นแหละ ที่มีนักท่องเที่ยวตายบนภูกระดึง ที่ป้ารู้มา ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนก็ 3 ราย  

เมื่อผมได้ฟังจบ .... ผมก็จำ จนวันตายเลย ว่า ทุกครั้งที่ไปเที่ยวป่าหรือเที่ยวที่ไหน การตั้งใจฟังเจ้าหน้าที่เวลาเจ้าหน้าที่เตือนหรือบอก อะไรเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรฟัง อย่างยิ่ง เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ ที่ผมรู้เห็นมาเองกับตัวเมื่อหลายปีที่แล้ว จนเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำเพราะหลังจากครั้งนั้นผมก็เรียนจบ ป.ตรี และไม่ได้มีโอกาสขึ้น ภูกระดึงอีกเลย  

แต่ ในวันนี้ ผมได้ทราบ ข่าวน่าสลดใจข่าวหนึ่ง  ... มันคือข่าว " ช้างป่าเหยียบคนตายบนภูกระดึงเมื่อวานนี้ "  มันทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ผมเคยเจอมา และไม่อยากให้มันเกิด เหตุการณ์แบบนี้ กับครอบครัวผู้ใดอีก  ยังไงโปรดจงช่วยกันแชร์ข้อมูลให้ เพื่อนๆ พี่น้อง หรือคนใกล้ชิด ที่ชอบหรือกำลังจะไปเที่ยวป่า ว่า

1 .ในป่า มันไม่ใช่ที่ของเรา ไม่ใช่บ้านของเรา ที่เราจะได้รู้ดีไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นการไปเที่ยวป่าทุกครั้งโปรดจงฟังในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้บอกได้เตือนอย่าง เคร่งครัด
2. ช้างป่า เป็นสัตว์ที่อันตราย มากๆๆๆๆ อย่าเห็นมันเป็นสัตว์ที่กินพืช น่ารักๆ แล้วเข้าไปใกล้เข้าไปให้อาหาร ให้ดี เมื่อพบช้างป่า ควรหลีกหนี เพราะมันอาจจะทำอันตรายต่อร่างกายหรือต่อชีวิตของคุณได้
3. เมื่ออ่านกระทู้นี้จบ ผมไม่อยากให้คุณ คิดใน แง่ลบกับช้าง หรือกับภูกระดึง เพราะช้างมันอยู่ในที่ของมัน ป่ามันอยู่ในที่ของมัน เรา " มนุษย์เองต่างหากที่เป็นผู้ไปบุกรุก ผู้ไปเยือน " ดังนั้นการเที่ยวป่าหรือเที่ยวภูกระดึงจะไม่อันตรายแต่ประการใด ถ้าคุณ ปฎิบัติตามกฎ อย่างเคร่งครัด



ข่าววันนี้ >>>


อยากให้ลองอ่านดูครับ วิธีเมื่อคุณต้องหนีช้างป่า จะหนีอย่างไร  >>> " การหนีช้างป่า..เป็นการหนีที่ไม่มีโอกาสแก้ตัวได้เลย... พลาดคือชีวิต!!!! " ( http://www.gotoloei.com/index.php?option=content&task=view&id=304&Itemid=52 )