นี่มันยิ่งกว่าพลีชีพ! OMG เมื่อผิวพระจันทร์กลายเป็นหนังคางคก ฉันกู้มันได้! [สิว+ผื่น+โรคผิวหนัง]]

สวัสดีค่ะทุกคน ยังมีใครจำกันได้อยู่รึเปล่าหนอ 555 '

ถ้าจำไม่ได้ งั้นท้าวความไปที่กระทู้นี้กันโลดดด
ฺBefore & After จากอีหมีควายที่กลายร่างเป็นสาวน้อย กระทู้พลีชีพ... 28 กิโลหายวับ ฉันทำได้!!


ฮ่าๆ คงเริ่มจำกันได้แล้วใช่มั้ยค่ะ? ขอแนะนำตัวอีกครั้งแล้วกัน

แนะนำตัว: เจค
ส่วนสูง: 161
น้ำหนัก: ราวๆ 46~47



จากกระทู้นั้นก็ทำให้เป็นที่รู้จักของทุกคนมากขึ้น มีเพื่อนๆ แอดมาถามนั่นนี่นู้นกันเยอะแยะ อีกเรื่องที่เห็นจะถามกันมากๆ ก็คือเรื่องสิวๆ หรือผิวพรรณ

วันนี้เจคก็เลยอยากจะมารีวิวช่วงหน้าแหกของตัวเองบ้าง ที่ต้องบอกว่ายิ่งกว่าพลีชีพนี่เพราะ แต่ละรูปที่เป็นสิวๆ ผื่นๆ หนองๆ นี่ไม่ผ่านการแต่งค่ะ สยดสยองมากๆ เห็นแล้วจากที่ใครเคยชมว่าเจคสวย คุณอาจจะช็อกกันได้นะคะ 5555

************************************

หน๊ายยยย ใครหน้าไหนบอกว่าสิวเป็นเรื่องง่ายๆ ฮึ่มม~!




สภาพผิวหน้าตอนปกติ : ผิวขาว ผิวแห้ง แพ้ง่าย สิวจะขึ้นๆ หายๆ ไม่เคยหน้าใสโดยสมบูรณ์ ตอนม.ต้นเคยเป็นสิวเยอะมาก ทิ้งหลุมพระจันทร์วงเบ้อเร่อ แต่งหน้าแล้วก็พอกลบเกลื่อนได้ = เราก็เป็นสาวน้อยธรรมดา





ไม่แต่งรูปเราก็กล้า!!





ไม่แต่งหน้าเราก็ไม่แคร์สื่อ! (แม้แต่คิ้วก็ยังไม่เขียน ! XD เพื่อนบอกมึ_ออกจากบ้านได้ไงว้ะ? XD)







แต่!! วันหนึ่งจู่ๆ ตื่นมามันก็กลายเป็นเช่นเน้~~~~~~~~~!`




O - M - G

ย้ำว่ามันขึ้นมาทุกอณู!

ไม่ว่าจะเป็นหูขวา...




...หรือว่าจะเป็นหูซ้าย




แม้ว่ามันจะเป็นคางและแก้มทั้งสองฟากฝั่ง






สรุปนี่คือหน้าอันอมทุกข์ของช้านนนนนนนน TT^TT




นี่คือ "แย่ที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในชีวิต"

เครียดเลยค่ะ เครียดมาก ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน แต่เรียนก็ต้องไปเรียน T^T
สิ่งที่ชอกช้ำใจที่สุดเวลาหน้าเป็นสิวก็คือการที่ "มีคนมาทัก"
ตามคาดค่ะ ทุกคนแบบ เฮ้ยไปโดนอะไรมา ไปแพ้อะไรมา ฯลฯ

แม้แต่พี่ที่ขายเครปหน้ามอ เดินไปซื้อเครป พี่เค้าจ้องหน้าซะอย่างกะไม่เคยเห็น "น้องไปแพ้อะไรมา นี่มันแย่มากเลยนะ!"
พระเจ้าจอร์ชชชชชชชช คือความรู้สึกดาวน์กว่าเดิมมากๆ T_T ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไรจริงๆ ยิ่งเครียดมันเหมือนยิ่งปะทุอ่ะคะ ทั้งแดงทั้งแห้งทั้งคัน แงงงงงง้

สติ สติ... สติมาปัญญาเกิด
เจลล้างหน้า (ไม่ได้เปลี่ยน) = ...ตัดออกไป
สกินแคร์ (ไม่ได้เปลี่ยน) = ...ตัดออกไป
ครีมกันแดด (ไม่ได้เปลี่ยน) = ...ตัดออกไป
ไม่ได้กินยาหรือวิตามินบำรุงอะไร = ...ตัดออกไป
เจคคิดว่าสิ่งนี้สำคัญมากๆ ในการจะทำอะไรสักอย่าง เราต้องคิดก่อนว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวคืออะไร
จ้องหน้าสิวๆ ของตัวเองในกระจกซะ แล้วดูว่ามันขึ้นตรงไหน
อืม ตรงคางตรงแก้มอะไรนี่ ตรงหูขึ้นมาได้ไงฟ่ะ แต่ว่าช่วงนี้...
นั่งมอเตอร์ไซต์บ่อยมากเพราะรถเสีย แถมนั่งครั้งล่าสุดนั่งจากมหาวิทยาลัยยันมาบ้านตั้งครึ่งชั่วโมง ถึงบ้านหมักหมมไม่ล้างหน้ายันตี 2 ฝุ่นก็คลุ้ง... = น่าจะเป็นส่วนหนึ่ง


จากการพิจารณา คิดว่าสาเหตุมันเยอะเกินไป ตอบโจทย์เองไม่ได้ @_@ ไปหาหมอดีกว่า
ปรากฎว่าหมอรักษาสิวที่เจคไปหาอยู่ประจำ ไปเมืองนอก...! ตึง ม่ายยยยยยยย
เลยมุ่งหน้าไปหาคุณหมอที่อยู่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยซะเลยค่ะ
แล้วเราก็ได้เจอกับ คุณหมอออย (จำชื่อจริงไม่ได้) ณ รมย์รวินท์ สาขาโลตัสศาลายาที่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยของเรา

ทันทีที่เห็นคุณหมอก็วาดรูปเราลงในกระดาษ แล้วก็พูดว่า ช่วงนี้มีเปลี่ยนอะไรบ้างรึเปล่าค่ะ มีทำอะไรมาบ้าง
เจคก็เล่าตามที่พิมพ์ไปให้ในข้างบนค่ะ คุณหมอก็ถามเพิ่มเติมบอกว่า แล้วอย่างอื่น
ไม่ว่าจะเป็นสบู่ล้างมือ หรือแชมพูก็ตาม เจคนึกขึ้นได้เลยตอบว่า อ๋อ เปลี่ยนแชมพูค่ะ แต่ล้างสะอาดนะคะ
คุณหมอเลยบอกว่า แชมพูนี่ ยี่ห้อไหนค่ะ เจคก็ตอบว่า ASIENCE ค่ะ




คุณหมอยิ้มละไมแล้วตอบว่า "นั่นแหละค่ะ คนแพ้กันเยอะเชียว"


หน้าดิฉัน : OoO !!!!!!!

คุณหมอบอกว่า คนเรามักมองข้ามยาสระผมไป ทั้งๆ ที่ผมสำคัญมาก คอยปรกหน้าเราทั้งวัน ใช่ว่าล้างหน้าสะอาดเกลี้ยง แล้วเราจะไม่แพ้ เหมือนคนที่แพ้กุ้ง หรือสารเคมี แค่สัมผัสก็แพ้แล้ว

เจคเลยถึงบางอ้อ คุณหมอชี้ไปตามจุดต่างๆ บอกว่า ตรงนี้ชอบเอาผมมาปรกใช่มั้ยค่ะ ถูกกกกก!! ชอบเอามาวางเวลาถ่ายรูปมั่งไรมั่ง

คุณหมอเลยจัดการให้ กดสิว ฉีดสิว ทำมาสก์แก้แพ้ ก่อนจะจัดยาไปให้ที่บ้านอย่างชุดใหญ่
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "เปลี่ยนแชมพูซะ"

เราปฎิบัติตามที่คุณหมอบอก แต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็นับว่าค่อนข้างดีจากเดิม
นี่คือรูปหลังจากกลับมาจากหาคุณหมอประมาณ 3-4 วัน



สังเกตได้ว่ามันดูเรียบลง ไม่ปุปะน่ากลัว แต่ว่าความแดงนั่นยังมีอยู่ ผื่นก็ยังขึ้นบ้างอะไรบ้าง

เลยตัดสินใจไปหาหมออีกท่าน ที่เคยรักษาผิวหนังให้นีกตั้งแต่เกิด
ก็คือ ...คุณหมอวิบูลย์ ณ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนค่ะ

ท้าวความไปตอนเด็กๆ คุณปู่ของเจคกลับมาจากพม่า แล้วนำพา "โรคหิด" มาติดเด็กหญิงเจคเกอร์วัย 6 เดือน
เล่นเอาติดกันไปทั้งบ้าน เพราะใครๆ ก็มาอุ้ม สุดท้ายคุณหมอเด็กที่รักษาเจคเลยบอกให้คุณแม่พาไปหาหมอวิบูลย์ที่โรงพยาบาลเดียวกัน

ทันทีที่เห็นหน้าเรา ยังไม่ทันจะยกมือไหว้คุณหมอ คุณหมอก็พูดออกมาเลยว่า "คุณแพ้แชมพูนะครับ"

ป๊าดดดดดดดดดดด เก่ง สม คำ ร่ำ ลือ มั้ยล่าาาา

คุณหมอบอกว่าไม่ใช่แค่แชมพูตัวที่เราใช้เท่านั้น แต่เราเป็นผิวแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด คิดว่าผิวแห้งจะไม่เป็นสิว
คนผิวมันจะเป็นสิว แต่ทว่า คนผิวแห้งบางกลุ่มนั่นแพ้ง่าย รวมถึงเจคเองด้วย และเจคแพ้แชมพูที่มีซิลิโคน

ซิลิโคนคืออะไรในแชมพู???
ซิลิโคนคือสารที่ให้ความลื่น จะใส่ในแชมพูเพื่อใช้ผู้ใช้รู้สึกว่า ผมเรามีสัมผัสที่นุ่มลื่นดุจแพรไหม

ซึ่ง แบบว่า มันก็ไม่อะไรมากมายอะนะคะ แค่ แชมพูส่วนใหญ่บนโลกนี้ "มีซิลิโคนหมดดดด T_T"
ซิลิดคนในที่นี้รวมไปถึงพวกสเปรย์ฉีดผม ทรีทเมนต์บำรุงผมทุกนิด
โอ้มายก๊อดดดดด นี่ช้านต้องทนเป็นยัยผมแข็งไร้ทรงผมสวยไปตลอดชีวิตซีนะ T_T
นี่สินะ สาเหตุที่ทำให้เราเป็นผื่นแดงสิว เป็นๆ หายๆ ไม่หยุดสักที มิน่าตอนนั้นไปถ่ายภาพ Portrait ที่เค้ารุมกันอัดฉีดสเปรย์ที่ผมเราอย่างแรง เลยเป็นผื่นสิวขึ้นบานคล้ายๆ ครั้งนี้เลย หรือเวลาไปสระไดร์ผมที่ร้าน วันรุ่งขึ้นสิวผื่นแดงๆ จะขึ้นผุดๆ มาตามกรอบหน้า
ทั้งๆ ที่เราก็ล้างหน้าสะอาดมากทุกครั้ง เพียงแต่ว่าเอเชี่ยนมันแรงมากๆ จนทำให้อาการสิวปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงเกินคาดหมาย



รู้สาเหตุแล้วเจ้าค่ะะะ !!!!!!!!



คุณหมอจัดยากลับมาให้เหมือนกัน รวมถึงเจ้า "สเตีย์รอยด์" คุณหมอบอกว่าไม่อยากทาก็ต้องทา ทาไป 3 วันแล้วหยุด
ต้อง "กินสเตียรอยด์" ด้วย กินครบโดสแล้วก็ไม่ต้องกินอีก ยาแก้แพ้สารพัด รวมถึงจับเราไปกดสิวและทำ AHA เพื่อให้สิวแห้งทันที
สิ่งสำคัญคือสั่งแชมพูให้เราไปตัวนึง ซึ่งมันก็คือ Qualimed shampoo
เรากลับมาเสิร์ชที่บ้านถึงได้รู้ว่า มันคือแชมพูขจัดเชื้อราค่ะ


หน้าตาเป็นแบบนี้

(ขอภัยหารูปใหญ่กว่านี้ไม่เจอ)

คุณหมอบอกว่า มันก็คือ ไนโซรัล ดีๆ นั่นแหละ
ฉะนั้นถ้าขี้เกียจไปซื้อที่โรงพยาบาล (เพราะควอลิเม็ดแชมพูจะหาซื้อยากค่ะ)
ให้ใช้ไนเซอรัลแทนก็ได้




ซึ่งแชมพูประเภทนี้เหมาะสำหรับคนเป็นสิวทุกประเภท ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิวจากอาการแพ้เท่านั้น
เจคคิดว่ามันดีมากเลยนะคะ เพราะหมอบางท่านแนะนำให้ใช้แชมพูเด็ก ผมเหนียวแข็งซะ แต่พอมาใช้พวกแชมพูควอลิเม็ดหรือไนเซอรัล ผมจะนุ่มจัดทรงง่ายมากกว่า



คุณหมอเป็นหมอผิวหนังที่เก่งมากค่ะ ดูปุ๊บจะรู้ทันทีว่าคุณเป็นอะไร แต่คุณหมอจะไม่ค่อยฟังเราพูด ._. อาจจะด้วยความที่คุณหมอเก่งมาก คุณหมอจะดุหน่อยนะคะ จะบอกมาเลยว่าให้เราต้องทำยังไงบ้าง นอกเหนือจากนั้นไม่ได้ แฮะแฮะ ถ้าใครจะไปหาต้องทำใจนะคะ

คุณหมบอกว่าเหนือสิ่งอื่นใดคุณต้องดูแลตัวเอง คือรู้ว่าแพ้อะไรก็ต้องหลีกเลี่ยง รวมถึงรักษาความสะอาด
"ไม่มีใครจะดูแลตัวคุณได้ดีเท่าตัวคุณเอง แม้แต่หมอเทวดา"

เรารับยาไปกิน รวมไปถึงสเตียรอยด์ พร้อมกับดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดในช่วงนั้น
อาหารมันๆ ไม่แตะไปเลยค่ะ น้ำอัดลมไม่ดื่ม
เหมือนกับสำนวนฝรั่งที่เค้าบอกว่า "You are what you eat" (คุณเป็น ในสิ่งที่คุณกิน)

เหนือสิ่งอื่นใดคือเปลี่ยนแชมพู
อัศจรรย์มากกกกก หลังจากเราใช้ Qualimed แชมพูแค่ 2 วันแรก หน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ทั้งๆ ที่ยังใช้เจลล้างหน้าตัวเดิม ทุกอย่างตัวเดิมทั้งหมด





สังเกตว่าผื่นสิวไม่ปุปะ ทิ้งไว้แต่ร่องรอยสมรภูมิเก่า


เย้!!! เริ่มกลับมาผัดหน้าทาแป้งได้แล้วค่ะ >3<


หลังจากนั้นพอแชมพูหมด เราก็อยากเปลี่ยนค่ะ เพราะว่าแชมพูพวกนี้เป็นแชมพูขจัดเชื้อราและรังแค มันไม่ได้ดูแลให้ผมเราสวย
แต่แชมพูที่ทำให้ผมลื่นนั่นก็มีซิลิโคน จนกระทั่งเรามาเจอกับเจ้า



ฺBODY SHOP RAIN FOREST SHAMPOO

ที่มาเจอตัวนี้ได้ก็เพราะเสิร์ชหาดูแชมพูที่ไม่มีซิลิโคนในgoogle
แล้วก็เจอ พี่ปูเป้ บล็อกเกอร์ชื่อดัง รีวิวเอาไว้ในบล็อกของพี่เค้า
อั๊ยย่ะะะ พี่ปูเป้ก็แพ้ซิลิโคนเหมือนเจคเลยค่ะ!!!

เจคเลือกใช้สำหรับผมทำสีเพราะว่าทำสีผม

รวมถึงพอหน้าแข็งแรง เจคก็หาสกินแคร์ดีๆ มาบำรุงหน้า
เพราะคุณหมอบอกว่า ผิวอ่อนแอมาก เกิดจากตอนเด็กๆ เจคเคยเป็นสิวหนักมากมาก่อน


vvvv
vvv
vv
v

ปะ อย่าตกใจนะ... ไปดูรูปประกอบกันโลดดดดดดด






















ต่อคห. 1
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่