ละครญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการทำละครในแนวของอาชีพ และ เคยเฟื่องฟูอยู่ยุคหนึ่ง ส่วนตัวคิดว่า Tokyo Airport อาจจะมาผิดยุคไปสักหน่อย ดูท่าทางไม่มีอะไรน่าสนใจ ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันสนุกยังไง แต่พอดูไปแล้วเป็นละครที่ educate อย่างมาก ปกติละครอาชีพมักจะบนโรแมนติค หรือ คอเมดี้ หรือ ทั้งสองอย่าง แต่กับ Tokyo Airport กรุณาตัดมันทิ้งออกไปได้เลย (ฮา) ทั้งโรแมนติคทั้งคอเมดี้นั่นแหละ
อย่างที่บอกว่าละครเรื่องนี้ โคตรแห่งความ educate หลังจากที่เรามีนักบินจาก Good Luck มีอาชีพพนักงานต้อนรับอย่าง Attention Please ! มีกราวน์สตาฟใน Big Wing สุดท้ายเราก็มีผู้ทำหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือ Traffic Controller มาเพิ่มเป็นซีรีส์สนามบินให้ครบถ้วน
Tokyo Airport ว่าด้วยพนักงานมือใหม่แห่งหอการบินสนามบินนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ) นามชิโนดะ คาโอริ ปกติแล้วถ้าเป็นละครอาชีพที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงบทก็จะไม่หนีสาวกะเปิ๊บกะป๊าบที่มีความฝันอยากทำอาชีพ หรือ จับพลัดจับผลูมาทำ มือใหม่ทำพลาดโดนแกล้งตลอดเว … (แถมว่ามันน่าเซ็งนิดที่บทแฟน ใช่แฟนไหม ? ... โอเค whoever he is มันช่างน้อยนิดเหลือเกิแต่ก็ชอบในความสัมพันธ์อันจะกล่าวต่อไปภายหลัง)
แต่ Tokyo Airport ไม่เป็นอย่างนั้น ละครเรื่องนี้จริงจังและลงรายละเอียดในส่วนของอาชีพเป็นอย่างมาก เรียกว่าดูแล้วอินในการเป็น Traffic Controller กันเลยทีเดียว(เอาเป็นว่าใครอยากรู้ว่าเค้าทำอะไรยังไงกันสำหรับผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศมาดูเรื่องนี้ไม่เสียเที่ยว) คาโอริเป็นกราวน์สตาฟมาก่อนแต่แล้วก็ผันตัวเองมาทำงานในสายการควบคุมการจราจรทางอากาศ เธอเป็นผู้หญิงมองโลกในแง่ดีและมุ่งมั่น ไม่ใช่สาวหวาน ไม่ใช่สาวเปรี้ยว ไม่ออกแนวมุ้งมิ้ง แต่เป็นผู้หญิงที่มีวุฒิภาวะ cheerful และ จริงจังกับงาน ดังนั้นใครติดภาพสาวญี่ปุ่นอาโนเนะของเคียวโกะ ฟูกาดะ ลบภาพนั้นออกไปโดยด่วน
ในตัวละครนั้นเล่าละเอียดยิบสำหรับ Inside Job ของ ATC (Air Traffic Controller) ว่าต้องทำอะไรบ้าง ศัพท์เฉพาะทางบินว่อน แต่ไม่น่าเบื่อ น่าชื่นชนที่นักแสดงแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีในการจำลองอาชีพที่กำลังแสดง อย่างน้อยเรารู้สึกว่ามันไม่หลอกตา ดูคล่องมากในการทำหน้าที่ ATC ท่าทาง ศัพท์ วิธีการทำงานมาหมด คิดว่าต้องไปฝึกมาไม่มากก็น้อยถึงกว่าจะพูดศัพท์แสงกันได้คล่องปากขนาดนี้(แลดูเก่งและคล่องมากจริง ๆ ภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลยเวลาบอกโค้ดต่าง ๆ)
แน่นอนว่าการดำเนินเรื่องของซีรย์อาชีพมันคงจะเป็น pattern อยู่แล้วในการเผชิญกับปัญหาการงานคงเดากันออก แต่ Tokyo Airport มันสนุกตรงที่นอกจากเป็นปัญหาในแง่ของ Hard Skill แล้ว ก็มีปัญหา Soft Skill อยู่ด้วย ทำให้สำหรับตัวเองแล้วไม่น่าเบื่อ เพราะมีทั้งเรื่องเทคนิคอล และ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมาเกี่ยวโยง ทักษะที่ต้องการจึงไม่ใช่เพียงทักษะทางปัญญาเท่านั้นแต่ต้องมีทักษะหนุนเสริมอย่างอื่นที่สอดรับกันด้วยจึงจะแก้ไขปัญหาได้
ละครเรื่องนี้ นอกจากจะ Inside Job อย่างยิ่งแล้ว ก็ยัง Inside Mind เช่นกัน ต่างคนต่างก็มีปัญหาของตัวเองให้ขบคิด ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่นำมาเชื่อมโยงกับเหตุผลว่าทำไมคาโอริถึงมากเป็น Controller มีความโรแมนติค(เล็ก ๆ) เข้ามาเป็นระยะก็ช่วยลุ้นเรื่องความรัก(ที่น้อยนิดอย่างน่าใจหาย) แต่ในความน้อยนิดก็เป็นความน่าประทับใจนะ ก่อนหน้านี้ไปเสพความหวานเจี๊ยบ ๆ จากซีรีย์ไต้หวันมาหมาด ๆ แล้วก็โผล่มา Tokyo Airport เลย ตอนแรกนึกว่าจะแบบ fail แต่ต่อมาก็รู้สึกว่าถึงจะน้อยนิดแต่ก็เป็น "รักน้อยนิดมหาศาล" น่ะนะ
เป็นอันว่าที่คาโอริมาทำงานนี้ก็เพราะใครคนหนึ่ง อนุมานว่าเป็นแฟนกัน แต่แล้วคาโอริกับฮอนโจก็ต้องเลิกรากันไปเพราะว่าฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุหนักหนาเอาการต้องนั่งรถเข็น ฮอนโจไม่ยอมติดต่อกับคาโอริอีก คาโอริจากกราวน์สตาฟผันตัวมาเป็น controller ในใจก็ย้อนกลับไปถึงวันนึงที่ยืนคุยกับฮอนโจที่ไม่ได้ฟังเธอพูดเลย แต่เสียบหูฟัง controller อยู่ ตอนนั้นฮอนโจในฐานะนักบินฝึกหัดบอกว่าถ้าอยากให้ฉันฟังเธอทุกวันก็เป็น controller สิ ใครจะไปรู้ว่า ... นางเอาจริง ความเอาจริงเอาจังตรงนี้ทำให้ฮอนโจที่ทรมานทรกรรมกับความเจ็บป่วยลุกขึ้นสู้อีกครั้งจนกลับมาทำงานได้ และ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำกายภาพบำบัดจนร่างกายฟื้นฟูเพียงพอที่จะไปสอบใบอนุญาตนักบินอีกครั้ง
มีอยู่เท่านี้จริง ๆ ออกก็น้อยฉากเหลือเกิน แต่ทำให้รู้สึกดีในความห่วงหาอาทรของคาโอริที่มีต่อฮอนโจ และ ความฮึดของฮอนโจที่มาจากการมองคาโอริดำเนินชีวิตแต่ละวัน ไม่ได้หวาน ไม่ได้หวือหวา แต่รู้สึกถึงสายใยดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ ความปรารถนาดีที่ทั้งสองมีต่อกัน คาโอริเองเป็นพวกเจ้ากี้เจ้าการ(ตามประสากราวน์สตาฟที่ต้องจัดการปัญหาแก้ปัญหาได้เก่ง) แต่ต่อมากก็นึกได้ว่าเรื่องบางเรื่องคงต้องยืนอยู่กับที่และรอคอย อย่างเรื่องของฮอนโจ เป็นต้น เห็นความรักแบบไล่ตามในซีรีย์ญี่ปุ่นมาเยอะ โดยเฉพาะผู้หญิงวิ่งตามผู้ชาย เรื่องที่ผู้หญิงยืนรอกับที่อย่างเข้าใจมีค่อนข้างน้อย จึงค่อนข้างประทับใจส่วนนี้มาก
โดยรวมแล้วละครเรื่องนี้เพลิดเพลินและเป็นละครที่เป็นลักษณะให้ความรู้ชนิดมาเต็ม (อยากให้ละครไทยมีแบบนี้บ้างนะ คิดว่ามันไม่ได้กระทบภาพลักษณ์อาชีพอะไรเลย ไม่ชิงรักหักสวาทกันแม้แต่น้อย มีแต่เรื่องงาน งาน และ งาน) ใครอยากรู้ Air Traffic Controller เค้าทำอะไรกันก็ดูเรื่องนี้เป็นพื้นฐานได้
ป.ล. ตอนนี้ได้ดูละครเกี่ยวกับเครื่องบินติดกันเลย อีกเรื่องที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม คือ Miss Pilot สนุกดีเหมือนกันไว้มาเล่าสู่กันฟังในภายหลัง
เล่าสู่กันฟัง : Tokyo Airport !! Inside Job and Inside Mind !! (Spoiled)
อย่างที่บอกว่าละครเรื่องนี้ โคตรแห่งความ educate หลังจากที่เรามีนักบินจาก Good Luck มีอาชีพพนักงานต้อนรับอย่าง Attention Please ! มีกราวน์สตาฟใน Big Wing สุดท้ายเราก็มีผู้ทำหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือ Traffic Controller มาเพิ่มเป็นซีรีส์สนามบินให้ครบถ้วน
Tokyo Airport ว่าด้วยพนักงานมือใหม่แห่งหอการบินสนามบินนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ) นามชิโนดะ คาโอริ ปกติแล้วถ้าเป็นละครอาชีพที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงบทก็จะไม่หนีสาวกะเปิ๊บกะป๊าบที่มีความฝันอยากทำอาชีพ หรือ จับพลัดจับผลูมาทำ มือใหม่ทำพลาดโดนแกล้งตลอดเว … (แถมว่ามันน่าเซ็งนิดที่บทแฟน ใช่แฟนไหม ? ... โอเค whoever he is มันช่างน้อยนิดเหลือเกิแต่ก็ชอบในความสัมพันธ์อันจะกล่าวต่อไปภายหลัง)
แต่ Tokyo Airport ไม่เป็นอย่างนั้น ละครเรื่องนี้จริงจังและลงรายละเอียดในส่วนของอาชีพเป็นอย่างมาก เรียกว่าดูแล้วอินในการเป็น Traffic Controller กันเลยทีเดียว(เอาเป็นว่าใครอยากรู้ว่าเค้าทำอะไรยังไงกันสำหรับผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศมาดูเรื่องนี้ไม่เสียเที่ยว) คาโอริเป็นกราวน์สตาฟมาก่อนแต่แล้วก็ผันตัวเองมาทำงานในสายการควบคุมการจราจรทางอากาศ เธอเป็นผู้หญิงมองโลกในแง่ดีและมุ่งมั่น ไม่ใช่สาวหวาน ไม่ใช่สาวเปรี้ยว ไม่ออกแนวมุ้งมิ้ง แต่เป็นผู้หญิงที่มีวุฒิภาวะ cheerful และ จริงจังกับงาน ดังนั้นใครติดภาพสาวญี่ปุ่นอาโนเนะของเคียวโกะ ฟูกาดะ ลบภาพนั้นออกไปโดยด่วน
ในตัวละครนั้นเล่าละเอียดยิบสำหรับ Inside Job ของ ATC (Air Traffic Controller) ว่าต้องทำอะไรบ้าง ศัพท์เฉพาะทางบินว่อน แต่ไม่น่าเบื่อ น่าชื่นชนที่นักแสดงแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีในการจำลองอาชีพที่กำลังแสดง อย่างน้อยเรารู้สึกว่ามันไม่หลอกตา ดูคล่องมากในการทำหน้าที่ ATC ท่าทาง ศัพท์ วิธีการทำงานมาหมด คิดว่าต้องไปฝึกมาไม่มากก็น้อยถึงกว่าจะพูดศัพท์แสงกันได้คล่องปากขนาดนี้(แลดูเก่งและคล่องมากจริง ๆ ภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลยเวลาบอกโค้ดต่าง ๆ)
แน่นอนว่าการดำเนินเรื่องของซีรย์อาชีพมันคงจะเป็น pattern อยู่แล้วในการเผชิญกับปัญหาการงานคงเดากันออก แต่ Tokyo Airport มันสนุกตรงที่นอกจากเป็นปัญหาในแง่ของ Hard Skill แล้ว ก็มีปัญหา Soft Skill อยู่ด้วย ทำให้สำหรับตัวเองแล้วไม่น่าเบื่อ เพราะมีทั้งเรื่องเทคนิคอล และ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมาเกี่ยวโยง ทักษะที่ต้องการจึงไม่ใช่เพียงทักษะทางปัญญาเท่านั้นแต่ต้องมีทักษะหนุนเสริมอย่างอื่นที่สอดรับกันด้วยจึงจะแก้ไขปัญหาได้
ละครเรื่องนี้ นอกจากจะ Inside Job อย่างยิ่งแล้ว ก็ยัง Inside Mind เช่นกัน ต่างคนต่างก็มีปัญหาของตัวเองให้ขบคิด ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่นำมาเชื่อมโยงกับเหตุผลว่าทำไมคาโอริถึงมากเป็น Controller มีความโรแมนติค(เล็ก ๆ) เข้ามาเป็นระยะก็ช่วยลุ้นเรื่องความรัก(ที่น้อยนิดอย่างน่าใจหาย) แต่ในความน้อยนิดก็เป็นความน่าประทับใจนะ ก่อนหน้านี้ไปเสพความหวานเจี๊ยบ ๆ จากซีรีย์ไต้หวันมาหมาด ๆ แล้วก็โผล่มา Tokyo Airport เลย ตอนแรกนึกว่าจะแบบ fail แต่ต่อมาก็รู้สึกว่าถึงจะน้อยนิดแต่ก็เป็น "รักน้อยนิดมหาศาล" น่ะนะ
เป็นอันว่าที่คาโอริมาทำงานนี้ก็เพราะใครคนหนึ่ง อนุมานว่าเป็นแฟนกัน แต่แล้วคาโอริกับฮอนโจก็ต้องเลิกรากันไปเพราะว่าฝ่ายชายประสบอุบัติเหตุหนักหนาเอาการต้องนั่งรถเข็น ฮอนโจไม่ยอมติดต่อกับคาโอริอีก คาโอริจากกราวน์สตาฟผันตัวมาเป็น controller ในใจก็ย้อนกลับไปถึงวันนึงที่ยืนคุยกับฮอนโจที่ไม่ได้ฟังเธอพูดเลย แต่เสียบหูฟัง controller อยู่ ตอนนั้นฮอนโจในฐานะนักบินฝึกหัดบอกว่าถ้าอยากให้ฉันฟังเธอทุกวันก็เป็น controller สิ ใครจะไปรู้ว่า ... นางเอาจริง ความเอาจริงเอาจังตรงนี้ทำให้ฮอนโจที่ทรมานทรกรรมกับความเจ็บป่วยลุกขึ้นสู้อีกครั้งจนกลับมาทำงานได้ และ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำกายภาพบำบัดจนร่างกายฟื้นฟูเพียงพอที่จะไปสอบใบอนุญาตนักบินอีกครั้ง
มีอยู่เท่านี้จริง ๆ ออกก็น้อยฉากเหลือเกิน แต่ทำให้รู้สึกดีในความห่วงหาอาทรของคาโอริที่มีต่อฮอนโจ และ ความฮึดของฮอนโจที่มาจากการมองคาโอริดำเนินชีวิตแต่ละวัน ไม่ได้หวาน ไม่ได้หวือหวา แต่รู้สึกถึงสายใยดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ ความปรารถนาดีที่ทั้งสองมีต่อกัน คาโอริเองเป็นพวกเจ้ากี้เจ้าการ(ตามประสากราวน์สตาฟที่ต้องจัดการปัญหาแก้ปัญหาได้เก่ง) แต่ต่อมากก็นึกได้ว่าเรื่องบางเรื่องคงต้องยืนอยู่กับที่และรอคอย อย่างเรื่องของฮอนโจ เป็นต้น เห็นความรักแบบไล่ตามในซีรีย์ญี่ปุ่นมาเยอะ โดยเฉพาะผู้หญิงวิ่งตามผู้ชาย เรื่องที่ผู้หญิงยืนรอกับที่อย่างเข้าใจมีค่อนข้างน้อย จึงค่อนข้างประทับใจส่วนนี้มาก
โดยรวมแล้วละครเรื่องนี้เพลิดเพลินและเป็นละครที่เป็นลักษณะให้ความรู้ชนิดมาเต็ม (อยากให้ละครไทยมีแบบนี้บ้างนะ คิดว่ามันไม่ได้กระทบภาพลักษณ์อาชีพอะไรเลย ไม่ชิงรักหักสวาทกันแม้แต่น้อย มีแต่เรื่องงาน งาน และ งาน) ใครอยากรู้ Air Traffic Controller เค้าทำอะไรกันก็ดูเรื่องนี้เป็นพื้นฐานได้
ป.ล. ตอนนี้ได้ดูละครเกี่ยวกับเครื่องบินติดกันเลย อีกเรื่องที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม คือ Miss Pilot สนุกดีเหมือนกันไว้มาเล่าสู่กันฟังในภายหลัง