อ่านของคนอื่นมาเยอะั อยากจะแชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้าง
ทำงานออฟฟิตมานานถ้าจะรอเงินเดือนในแต่ละเดือน หากกินใช้ปกติก็พอ แต่จะหาเก็บและส่งให้ทางบ้านคงไม่พอ
สำหรับเงินเดือนหมื่นต้นๆ เห็นเพื่อนเข้าสมัครบัตรกัน ก็เลยอยากสมัครบ้าง แต่สมัครยังก็ไม่ผ่านเพราะเกิดมาไม่เคย
มีบัตรเครดิตอะไรกับเขาเลย เวลาผ่านไปก็รองสมัครอีก เข้าคงเห็นใจเลยอนุมัติให้มา 10,000 บาท (KTC) เห็นเงิน
ก็ใช้แบบไม่รู้เรื่อง จนเป็นหนี้ แต่เราไม่เคยผิดนัดชำระ เลยเป็นผลของการสมัครบัตรอื่นต่อไป ผลคือผ่าน พอมีเงินขึ้น
มาหน่อย ก็มีความคิดว่าจะทำอะไรดี เวลาก็ไม่มีถ้าจะขายของ ก็เลยเอาเงินแลกเงิน คือปล่อยกู้ ในออฟฟิต แรกก็ 1,000 -
2,000 คิดดอกร้อย 15% ถ้าคิด ร้อย 10% เราก็ไม่ได้อะไร เพราะเงินที่เราเอามาหมุนเป็นบัตรเครดิต
แรกๆก็ไม่เห็นยอดเงินเท่าไหร่เราก็เอาดอกไปจ่ายบัตรเครดิต ส่วนเงินต้นคงเหมือนเิดิม ลงทุนเอาเิงินเดือนมั่ง เงินบัตรมั่ง
ถ้าเงินเดือนเหลือใช้ก็ไปปล่อยดอก ถ้าไม่พอ หากลูกค้าต้องการก็ไปกดบัตรเครดิต แต่เราไม่เคยผิดนัดชำระบัตรเลยสักครั้ง
และเงินดอกที่เราได้มาหากเหลือจากจ่ายบัตรแล้ว เราก็เอามาปล่อยต่อ จากยอด 1 พัน 2 พัน ก็เป็น 5 พัน เราก็ค่อยๆ ปล่อย
จนเราแน่ใจในลูกค้าแต่ละลาย เพื่อลดความเสี่ยง ถ้าปล่อยเยอะก็จะเห็นรายได้เยอะ ตามเงินต้น ทำจนกระทั่งจ่ายบัตรเครดิตหมด
แต่เงินต้นยังอยู่เหมือนเดิม ทีนี้ล่ะเป็นของเราเต็มๆ ทั้งต้นและดอก บัตรก็อยู่เหมือนเดิมวงเงินเต็ม และก็เป็นอีกสาเหตุที่บัตรต่างๆ
โทรมาให้สมัคร พร้อมมารับเอกสารที่ทำงาน ผมก็สมัครทุกบัตร ปัจจุบันผมมีบัตรทั้งหมด 12 ใบ ทั้งเครดิต กดเงินสด คิดเสียว่าเอาไว้
ยามฉุกเฉิน ดีกว่าเราไปยืมเงินดอก เหมือนลูกค้าตัวเอง (ค่าธรรมเนียมรายปีก็โทรไปขอได้ ไม่ต้องเสีย)
ธุรกิจเริ่มมีคนรู้จักมาก ก็มีคนใช้บริการมาก บางทีลูกค้าจะเอาเงินร้อน 1 เดือน 2 เดือน ยอด 10,000 ถึง 20,000 บาท เราไม่มีก็
กดจากบัตรไปไห้ สิ้นเดือนคืน ต้นและดอก 10,000 ก็ 1,500 บาท รายย่อยอีก ปัจจุบันเรามีรายได้รวมเงินเดือน 50,000 ต้น มีเงินดาวรถ
กระบะ และผ่อนมาแล้ว 20 งวด งวดละ 12,000 บาท และก็เก็บดอกแล่นแชร์ต่อ โดยเราเองเป็นเถ้าเอง ในออฟฟิต สิ้นปีนี้หมดแล้ว
เราเองเล่น 4 มือ ห้วท้าย ได้แชร์มาก็เอาไปปล่อย และเอาดอกมาจ่ายแชร์ เบ็ดเสร็จจ่ายค่าแชร์ 8,000 บาทต่อเดือน สองวง วงษ์ละ 13 มือ
สิ้นปีนี้ รวมเงินต้นและดอก รวม 61,000 บาท และมีอีกวงษ์เล่นกับเพื่อนมือล่ะ 3,000 บาท 10 มือ หมดกลางปีหน้า ยังไม่เปีย ก็เอาเงินดอกไปจ่ายแชร์ ผมว่าดอกแชร์ดีกว่าปล่อยเงินกู้ หรือฝากแบงค์อีกนะครับ สิ้นปีนี้ก็กะว่าจะเอาเงินแชร์ไปซื้อสลากออมสินไว้ให้ลูกตั้งเป้าไว้ว่าก่อนเมษาฯ ต้องมีเงินซื้อสลากออกสินให้ลูก 100,000 บาท
ทุกวันนี้ก็ขายของในออฟฟิต ขนมลูกอม กาแฟซอง มาาม่า กำไีรดี ยังไงก็ขายได้ ช้าบ้างนิดหน่อยไ่ม่เป็นไร ลงทุนครั่งแรก 2,000
ทำบัญชีดู ยอดก็ร่วมหมื่นแล้ว บางทีจะสิ้นเดือนอยู่แล้ว ยังมากู้ที 500 เลยก็มี 1,000 แต่เราก็เก็บสิ้นเดือน เหมือนเดิม หรือบางทีบัตรกด
เงินสด บางบัตรที่เราไม่ได้กดมานานแสนนาน เขาก็เสนอให้เราดอกเบี้ย 0% 3 เดือน โอ้เราชอบเลย เคยเอามาหมุน 40,000 สามเดือน
ไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือน พอครบสามเดือนก็จ่ายให้หมด โดยไม่เสียดอกเบี้ยสักบาท อันนี้เยอะ เห็นเราไม่กดนาน ๆ
ชอบเสนอดอกดีๆ ให้เรา
แต่อย่างว่าครับ เล่นกับไฟมันต้องร้อนเป็นธรรมดา แต่ไม่เจ็บตัวมากก็คุ้มครับ
ขอบคุณครับที่อ่าน
เอาเงินอนาคตมาหมุน
ทำงานออฟฟิตมานานถ้าจะรอเงินเดือนในแต่ละเดือน หากกินใช้ปกติก็พอ แต่จะหาเก็บและส่งให้ทางบ้านคงไม่พอ
สำหรับเงินเดือนหมื่นต้นๆ เห็นเพื่อนเข้าสมัครบัตรกัน ก็เลยอยากสมัครบ้าง แต่สมัครยังก็ไม่ผ่านเพราะเกิดมาไม่เคย
มีบัตรเครดิตอะไรกับเขาเลย เวลาผ่านไปก็รองสมัครอีก เข้าคงเห็นใจเลยอนุมัติให้มา 10,000 บาท (KTC) เห็นเงิน
ก็ใช้แบบไม่รู้เรื่อง จนเป็นหนี้ แต่เราไม่เคยผิดนัดชำระ เลยเป็นผลของการสมัครบัตรอื่นต่อไป ผลคือผ่าน พอมีเงินขึ้น
มาหน่อย ก็มีความคิดว่าจะทำอะไรดี เวลาก็ไม่มีถ้าจะขายของ ก็เลยเอาเงินแลกเงิน คือปล่อยกู้ ในออฟฟิต แรกก็ 1,000 -
2,000 คิดดอกร้อย 15% ถ้าคิด ร้อย 10% เราก็ไม่ได้อะไร เพราะเงินที่เราเอามาหมุนเป็นบัตรเครดิต
แรกๆก็ไม่เห็นยอดเงินเท่าไหร่เราก็เอาดอกไปจ่ายบัตรเครดิต ส่วนเงินต้นคงเหมือนเิดิม ลงทุนเอาเิงินเดือนมั่ง เงินบัตรมั่ง
ถ้าเงินเดือนเหลือใช้ก็ไปปล่อยดอก ถ้าไม่พอ หากลูกค้าต้องการก็ไปกดบัตรเครดิต แต่เราไม่เคยผิดนัดชำระบัตรเลยสักครั้ง
และเงินดอกที่เราได้มาหากเหลือจากจ่ายบัตรแล้ว เราก็เอามาปล่อยต่อ จากยอด 1 พัน 2 พัน ก็เป็น 5 พัน เราก็ค่อยๆ ปล่อย
จนเราแน่ใจในลูกค้าแต่ละลาย เพื่อลดความเสี่ยง ถ้าปล่อยเยอะก็จะเห็นรายได้เยอะ ตามเงินต้น ทำจนกระทั่งจ่ายบัตรเครดิตหมด
แต่เงินต้นยังอยู่เหมือนเดิม ทีนี้ล่ะเป็นของเราเต็มๆ ทั้งต้นและดอก บัตรก็อยู่เหมือนเดิมวงเงินเต็ม และก็เป็นอีกสาเหตุที่บัตรต่างๆ
โทรมาให้สมัคร พร้อมมารับเอกสารที่ทำงาน ผมก็สมัครทุกบัตร ปัจจุบันผมมีบัตรทั้งหมด 12 ใบ ทั้งเครดิต กดเงินสด คิดเสียว่าเอาไว้
ยามฉุกเฉิน ดีกว่าเราไปยืมเงินดอก เหมือนลูกค้าตัวเอง (ค่าธรรมเนียมรายปีก็โทรไปขอได้ ไม่ต้องเสีย)
ธุรกิจเริ่มมีคนรู้จักมาก ก็มีคนใช้บริการมาก บางทีลูกค้าจะเอาเงินร้อน 1 เดือน 2 เดือน ยอด 10,000 ถึง 20,000 บาท เราไม่มีก็
กดจากบัตรไปไห้ สิ้นเดือนคืน ต้นและดอก 10,000 ก็ 1,500 บาท รายย่อยอีก ปัจจุบันเรามีรายได้รวมเงินเดือน 50,000 ต้น มีเงินดาวรถ
กระบะ และผ่อนมาแล้ว 20 งวด งวดละ 12,000 บาท และก็เก็บดอกแล่นแชร์ต่อ โดยเราเองเป็นเถ้าเอง ในออฟฟิต สิ้นปีนี้หมดแล้ว
เราเองเล่น 4 มือ ห้วท้าย ได้แชร์มาก็เอาไปปล่อย และเอาดอกมาจ่ายแชร์ เบ็ดเสร็จจ่ายค่าแชร์ 8,000 บาทต่อเดือน สองวง วงษ์ละ 13 มือ
สิ้นปีนี้ รวมเงินต้นและดอก รวม 61,000 บาท และมีอีกวงษ์เล่นกับเพื่อนมือล่ะ 3,000 บาท 10 มือ หมดกลางปีหน้า ยังไม่เปีย ก็เอาเงินดอกไปจ่ายแชร์ ผมว่าดอกแชร์ดีกว่าปล่อยเงินกู้ หรือฝากแบงค์อีกนะครับ สิ้นปีนี้ก็กะว่าจะเอาเงินแชร์ไปซื้อสลากออมสินไว้ให้ลูกตั้งเป้าไว้ว่าก่อนเมษาฯ ต้องมีเงินซื้อสลากออกสินให้ลูก 100,000 บาท
ทุกวันนี้ก็ขายของในออฟฟิต ขนมลูกอม กาแฟซอง มาาม่า กำไีรดี ยังไงก็ขายได้ ช้าบ้างนิดหน่อยไ่ม่เป็นไร ลงทุนครั่งแรก 2,000
ทำบัญชีดู ยอดก็ร่วมหมื่นแล้ว บางทีจะสิ้นเดือนอยู่แล้ว ยังมากู้ที 500 เลยก็มี 1,000 แต่เราก็เก็บสิ้นเดือน เหมือนเดิม หรือบางทีบัตรกด
เงินสด บางบัตรที่เราไม่ได้กดมานานแสนนาน เขาก็เสนอให้เราดอกเบี้ย 0% 3 เดือน โอ้เราชอบเลย เคยเอามาหมุน 40,000 สามเดือน
ไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือน พอครบสามเดือนก็จ่ายให้หมด โดยไม่เสียดอกเบี้ยสักบาท อันนี้เยอะ เห็นเราไม่กดนาน ๆ
ชอบเสนอดอกดีๆ ให้เรา
แต่อย่างว่าครับ เล่นกับไฟมันต้องร้อนเป็นธรรมดา แต่ไม่เจ็บตัวมากก็คุ้มครับ
ขอบคุณครับที่อ่าน