บนโลกออนไลน์…เราเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น แต่อย่างนึงที่ Weekly C3 ไม่อยากเห็นคือ คุณหลายๆ คน เป็นเสมือน “ผู้พิพากษา” บนโลกอินเตอร์เนต
ถ้าคุณไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่มีข้อเท็จจริง คุณไม่มีสิทธิ์ ในการ “ตัดสินความถูกผิด” ในชีวิตของใครทั้งสิ้นสังคมบนจอสมัยนี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชกต่อย แต่เป็น “การรุมทำร้ายด้วยการประณาม…บนออนไลน์”
จากการสัมมนาของสื่อหลายแขนงในปีที่ผ่านมา ว่าด้วย “วิจารณญานของคนสมัยนี้กับการรับข่าวสาร อันไหนจะเชื่อดีไม่ดี” เพราะข้อมูลที่เกิด มีจริง มีมั่วบ้าง ปะปนกันไป การรับรู้ข่าวสารมาผิดๆ นั้น…ร้ายแรงไม่เท่ากับการตัดสินใจจะทำอะไรต่อ…หลังจากรับทราบข่าวนั้นมา เพราะนี่เรียกว่า “ผลกระทบ” ที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง
ตอนนี้เรามีสังคมของความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย รวมทั้งบอกต่อไปเรื่อยๆ ได้ ที่น่าตกใจคือ มีจำนวนไม่มากที่จะตรวจสอบก่อน “บอกต่อ” เรากำลังสร้างสังคมแห่งความเกลียดชัง…สังคมที่เราเป็นผู้ตัดสินโดยไม่ตรวจสอบว่าใครผิดใครถูก และเราหลายคนกำลังทำตัวเป็นเสมือนผู้พิพากษา…
ข่าวบางข่าวทำให้เราเกลียดชังเหยื่อ จนขุดชื่อที่อยู่ ประวัติสว่นตัว สิ่งที่เขาเคยทำในอดีตมาประจาน
ให้คนอื่นรุมด่าอย่างสนุกปาก แนน่อนว่าสิ่งเหล่านี้เสี่ยงต่อการผิดพรบ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายหมิ่นประมาท
และนั่นทำให้ประเมินได้ว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องศีลธรรม…
คงยังไม่สาย ลองเริ่มต้นกันใหม่…เพราะสิ่งสำคัญในยุคไอทีตอนนี้…คือเราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองไอทีที่แสดงความคิดเห็นได้ ติได้ แต่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีกว่าเดิม ว่ากันไปตามความถูกต้องเหมาะสม เพราะเรากำลังจะสร้างตัวอย่างกับคนรุ่นต่อไปว่า เราจะเป็นพลเมืองออนไลน์ที่ไม่เป็นมลภาวะได้อย่างไร
โศกนาฏกรรมที่คุณลงมือทำในโลกไซเบอร์!
ถ้าคุณไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่มีข้อเท็จจริง คุณไม่มีสิทธิ์ ในการ “ตัดสินความถูกผิด” ในชีวิตของใครทั้งสิ้นสังคมบนจอสมัยนี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชกต่อย แต่เป็น “การรุมทำร้ายด้วยการประณาม…บนออนไลน์”
จากการสัมมนาของสื่อหลายแขนงในปีที่ผ่านมา ว่าด้วย “วิจารณญานของคนสมัยนี้กับการรับข่าวสาร อันไหนจะเชื่อดีไม่ดี” เพราะข้อมูลที่เกิด มีจริง มีมั่วบ้าง ปะปนกันไป การรับรู้ข่าวสารมาผิดๆ นั้น…ร้ายแรงไม่เท่ากับการตัดสินใจจะทำอะไรต่อ…หลังจากรับทราบข่าวนั้นมา เพราะนี่เรียกว่า “ผลกระทบ” ที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง
ตอนนี้เรามีสังคมของความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย รวมทั้งบอกต่อไปเรื่อยๆ ได้ ที่น่าตกใจคือ มีจำนวนไม่มากที่จะตรวจสอบก่อน “บอกต่อ” เรากำลังสร้างสังคมแห่งความเกลียดชัง…สังคมที่เราเป็นผู้ตัดสินโดยไม่ตรวจสอบว่าใครผิดใครถูก และเราหลายคนกำลังทำตัวเป็นเสมือนผู้พิพากษา…
ข่าวบางข่าวทำให้เราเกลียดชังเหยื่อ จนขุดชื่อที่อยู่ ประวัติสว่นตัว สิ่งที่เขาเคยทำในอดีตมาประจาน
ให้คนอื่นรุมด่าอย่างสนุกปาก แนน่อนว่าสิ่งเหล่านี้เสี่ยงต่อการผิดพรบ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายหมิ่นประมาท
และนั่นทำให้ประเมินได้ว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องศีลธรรม…
คงยังไม่สาย ลองเริ่มต้นกันใหม่…เพราะสิ่งสำคัญในยุคไอทีตอนนี้…คือเราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองไอทีที่แสดงความคิดเห็นได้ ติได้ แต่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีกว่าเดิม ว่ากันไปตามความถูกต้องเหมาะสม เพราะเรากำลังจะสร้างตัวอย่างกับคนรุ่นต่อไปว่า เราจะเป็นพลเมืองออนไลน์ที่ไม่เป็นมลภาวะได้อย่างไร