ปัญหาของแฟนเรากับแม่เรา ผู้ใหญ่เค้ามองกันแบบไหนคะ

คือเรามีความอึดอัดในใจ แต่ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังดี ขอมาเล่าในนี้เผื่อใครมีประสบการณ์ช่วยแชร์เราหน่อยคะ
เราอายุ 26 ย่าง 27  เป็นลูกสาวคนโตทำงานบริษัทมา 3 ปี เงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 5-6 หมื่น พอมีเงินเก็บ เป็นที่พึ่งของพ่อแม่และน้องๆบ้าง ครอบครัวเราอบอุ่นมาก พ่อแม่รักและเป็นห่วงเรามากเพราะเราเป็นลูกสาวคนเดียว
ส่วนแฟนเราอายุ 29 เปิดกิจการร้านเล็กๆของตัวเอง ทำกิจการและงานบ้านเองคนเดียว ไม่มีลูกจ้าง รายได้เกินแสนต่อเดือน พ่อแม่เปนจีนแท้ บ้านที่เค้าอยู่ก็เป็นร้านของเค้าด้วย เค้าอยู่ที่บ้านคนเดียว ซึ่งบ้านเค้าอยู่ระแวกเดียวกับบ้านพ่อแม่เค้า แฟนเราเป็นคนขยัน พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ตัวแล้ว แต่เค้าเป็นคนอารมณ์ร้อน เครียดง่าย เวลาทีเค้าต้องกินข้าว เข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวจะต้องระแวงว่าลูกค้าจะเข้าร้านหรือป่าว ซึ่งบางครั้งจังหวะไม่ดีก็จะมีลูกค้าเข้ามาช่วงที่กินข้าว ล้างจาน เข้าห้องน้ำบ้าง ซึ่งจะทำให้เค้าอารมณ์เสีย และมาบ่นตัดพ้อกับเราบ่อยมาก ว่าทำไมเราไม่มาอยู่กับเค้าซักที เป็นสาเหตุทำให้เราทะเลาะกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ พอทะเลาะแฟนมักจะอารมณ์ร้อน ต่อว่าเราว่าเราไม่สงสาร ไม่เห็นใจ ทำไมที่บ้านเราไม่ให้เราแต่งงานสักที คิดอะไรกันอยู่ ที่บ้านเค้าอยากให้รีบแต่งงานมีหลานไวๆ
เราคบกับแฟนมา 5 ปีแล้ว คบกันตั้งแต่เรียน รักกันมาก ไว้ใจกัน เค้าเป็นคนดี รักเรามาก ไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย เราสบายใจและดีใจที่ได้เป็นแฟนกับเค้า ถึงเค้าจะเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่เคยทำร้ายเรา และคิดว่าจะแต่งงานกัน  ซึ่งพ่อแม่แฟนก็มาคุยขอกับพ่อแม่เราให้แต่งงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่พ่อแม่เรายังทำใจไม่ได้ที่จะยกลูกสาวคนเดียวให้กับคนที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน เพราะเราไม่ค่อยเล่าเรื่องแฟนให้พ่อแม่ฟัง เราไม่ค่อยอยากเล่าเพราะเค้าจะชอบเอาไปคิดมาก ก็เข้าใจว่าพ่อแม่รัก คือพ่อแม่ยังไม่ยอมยกให้บอกว่าขอดู ทำความคุ้นเคยกันอีกสักระยะ ถ้ารักกันจริงก็ให้แต่งอยู่แล้ว แต่พ่อแม่เรายังไม่ค่อยสนิทกับแฟนเราเท่าไหร่ เพราะแฟนไม่ค่อยมาบ้านเรา เค้าเปิดร้านใหม่ช่วงปีแรกๆแทบไม่ปิดร้านไปไหนเลย มีแต่เราไปหาเค้าอยู่เรื่อยๆ เค้าบอกขอให้ร้านอยู่ตัวก่อน อยากมั่นคง จะได้ดูแลเราได้ ไม่อยู่อย่างลำบาก ปีถัดมาคือปีนี้ เค้าก็พยายามปิดร้านอย่างน้อยเดือนละ1-2ครั้งเพื่อมาหาเราที่บ้าน พาไปกิน พาน้องไปเลี้ยงบ้าง ที่บ้านเริ่มคุ้นเคยกันแต่พ่อแม่เราก็ยังมองว่าเค้ายังมาหาเราน้อยอยู่ ยังไม่ค่อยสนิทกันเลย
แต่ปัญหาก็มีอยู่หลายเรื่องคะ
1.    เค้าทำธุรกิจส่วนตัว จะกลัวว่าลูกค้าหนี จึงไม่ค่อยปิดร้านบ่อยๆไม่ได้ เค้าจะถามเราว่าทำไมที่บ้านเราไม่เข้าใจบ้าง เค้าอยู่อย่างนี้ก็เหนื่อย อยากให้เรามาอยู่เป็นเพื่อนจะได้มีคนคอยช่วยกันบ้าง เค้ามองว่าตอนนี้ยังไม่แต่งงาน อยากทำงานให้มั่นคงมากๆเพราะยังไม่ต้องดูแลใคร เค้าสัญญาว่าถ้าแต่งงานกันแล้วเค้าจะหยุดร้านมากขึ้น หาวันหยุดประจำเพื่อให้ชีวิตหาความสุขกับเรา อยากไปเที่ยวไหนก็ไปกัน เพราะมั่นคงแล้ว จะไปไหนก็มีเราไปด้วยกับเค้าทุกที่ ตอนนี้เค้าอยู่คนเดียว ถ้าหยุดร้านพักผ่อนแล้วต้องไปไหนคนเดียวเลือกที่จะไม่หยุดดีกว่า พ่อแม่ก็ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเค้าหรอก ดังนั้นทุกครั้งที่หยุดร้านก็จะออกมาข้างนอกกับเราตลอด ซึ่งแม่เราไม่เชื่อที่แฟนสัญญา แม่เรามองว่าตอนนี้ใช้ชีวิตวัยรุ่น ยังไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนเลย ถ้าแต่งกันไปแล้วจะยิ่งไม่มีเวลาหาความสุขเข้าไปอีก บางทีก็คิดว่าแฟนเราขี้งกเกินไป เอาแต่หาเงิน
2.    เวลาที่แฟนมาหาเราเค้าจะนั่งแท็กซี่มา-กลับ ทุกครั้ง เพราะรถเค้าพ่อแม่ใช้ และไม่อยากไปใช้รถของน้อง เค้ายังไม่อยากซื้อรถใหม่ตอนนี้ เพราะอยู่คนเดียวซื้อมาก็ใช้น้อยอยู่ แม่เรามองว่าเค้าจะขับรถไปไหนมาไหนไม่เก่งเหมือนเรา ถ้าแต่งกันไปเราน่าจะต้องเป็นผู้นำมากกว่า
3.     จากการทำงานกินข้าวไม่ตรงเวลาทำให้เค้าเป๋นโรคกระเพาะ ปวดหลัง เวลาไม่สบายขึ้นมาก็ยิ่งบ่นว่าทำไมเราไม่มาอยู่กับเค้าสักที จะให้เค้าทรมานอย่างนี้อีกนานแค่ไหน และการที่เค้าไม่ค่อยสบายต้องดูแลตัวเอง เวลาแม่เราชวนไปเที่ยว ตจว.กับที่บ้าน แฟนจะไม่ค่อยอยากไปเพราะกังวลว่าจะเป็นภาระคนอื่น ตรงจุดนี้ทำให้แม่เรามองว่าแฟนเค้าไม่ค่อยแข็งแรง ดูไม่เข้มแข็ง จะดูแลเราได้ไหม สงสารเรา ถ้าอยู่กับเค้าเราต้องเหนื่อยแน่
4.    จากการที่บ้านเราไม่ยกลูกสาวให้สักที ทำให้พ่อแม่แฟนเริ่มไม่พอใจว่า จะยื้อไว้ทำไม ไม่ได้เอาเราไปลำบากสักหน่อย แค่อยากให้มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนแฟน พ่อแม่เค้าจะได้หายห่วง บางทีก็หาว่าบ้านเราดูถูก พ่อแม่เค้ายังเคยชวนให้เราอยู่บ้านเค้าเลย พ่อแม่แฟนเค้าเอ็นดูเรา เค้าบอกไม่ต้องแต่งให้เรื่องเยอะแล้วเพราะยังไงพ่อแม่เราก็ไม่ให้แน่เลย เรื่องสินสอดอยากได้เท่าไหร่เดี๋ยวจัดให้ เรารู้ว่าทางบ้านเราไม่มีทางยอมแน่ เพราะเค้าไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเห็นแก่เงินหรือขายลูกกิน ไม่ได้อยากได้ค่าสินสอดอะไรมากมาย แค่อยากให้เรามีความสุขเมื่อแต่งไปแล้ว เราไม่อยากไปอยู่แบบไม่แต่ง เราอยากทำทุกอย่างให้ทุกฝ่ายสบายใจด้วย
5.    การที่แฟนทำร้านของตัวเองตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ พ่อแม่เรากลับมองว่าไม่เคยไปเผชิญโลกภายนอก หาประสบการณ์การชีวิตต่างๆ เอาแต่ทำงานในร้าน จะเป็นผู้นำ ดูแลปกป้องเราได้ไหม

จากทั้งหมดที่เล่ามา ป้าๆเราก็บอกว่า ถ้าเป็นพวกเค้าก็คงให้แต่งงานกันไปแล้วเพราะแฟนเราเค้าสร้างตัวจนมั่นคง เป็นคนดี ไม่นอกลู่นอกทาง แต่แม่เรากลับโกรธที่ป้าไม่เข้าใจ มีลูกสาว รักมากอยาคนเดียวจะยกให้ง่ายๆได้ยังไง ไม่ได้อยากได้เงิน ขายลูกกิน
แฟนเราเคยคุยกับแม่เราว่าขอเรามาอยู่เป็นเพื่อน เงินที่หามาได้ทั้งหมดจะยกให้เราก็ได้ แม่เราก็มองว่าแฟนดูถูก ชอบเอาเรื่องเงินมาคุย แต่ที่เป็นอย่างนั้นเพราะแฟนเราอยากให้แม่เรามั่นใจว่าเค้ามั่นคง ดูแลเราได้ เราไปอยู่กับเค้าเราจะไม่ลำบาก
เราก็เห็นด้วยกับความคิดของแฟนเรานะคะ แต่แม่เราไม่คิดแบบนั้นเลย เรางงกับความคิดแม่เรามากเลย เราคบกันมา5ปี ก็รู้สึกดี สบายใจมาตลอด เราเชื่อใจแฟนคะ ผู้ใหญ่เค้ามองกันแบบไหนหรอคะ หรือเราเข้าข้างแฟนมากไปไหมคะ

ขอบคุณที่ช่วยอ่านจนจบคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่