จากการวิเคราะห์ส่วนตัวนะครับ
- รัฐบาลได้ให้ข่าวอยู่เป็นประจำว่าพร้อมจะเปิดการเจรจา แต่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่เจรจา ทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบโดยในขณะที่ นักวิชาการหลายท่านได้เสนอแนวทางไว้ ว่าสถานการณ์จะสงบได้ก็ด้วยการเจรจาหาข้อตกลง และตั้งกติกา กันเพื่อให้บ้านเมืองสงบแต่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลปฏิเสธโดยตลอด
- การยึดสถานที่ราชการโดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เป็นการกระทำที่ผิดพลาดต่อสายตาคนไทยหลายๆ คนแม้แต่คนในฝ่ายต่อต้านรัฐบาลด้วยกันเอง แม้สถานที่ราชการบางที่แทบจะเปิดประตูให้เข้าไปยึด นั่นคือการตกหลุมพลางของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทำให้ภาพการชุมนุมเสียไป แม้แต่เข้าไปยึด ตึก CAT ซึ่งเป็นศูนย์การสื่อสาร อินเทอร์เน็ต จนกระทั่งเยาวชนยังตั้งกลุ่มด่าทอการกระทำนี้ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง มีผู้สนับสนุน เป็นแสนๆ เสียง ภาพออกมาจึงเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแม้กระทั่งเยาวชนที่ยังไม่รู้เรื่องการเมืองมากนัก และความเสียหายจากผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตประกอบอาชีพอีกมากมาย
- นปช.นัดประชุมใหญ่ก็แค่ปรามกองทัพไม่ให้ปฎิวัติ โดยใช้เวลารวมคนแค่ประมาณ 2 วันได้คนมาขนาดนี้ เป็นสัญญาณว่าพร้อมจะระดมคนสู้หากเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ผลที่ได้เกินคลาด เนื่องจากม็อบจัดตั้งของ นศ.ราม เข้าสกัดไม่ให้ นปช.ไม่ให้เข้าประชุมได้ โดยภาพที่ออกมาเป็นการทำร้าย ผู้หญิงและคนแก่ และจุดเกิดเหตุดันมาเกิดใกล้ที่ตั้งการชุมนุมของ นปช. ภาพที่ออกสู่สายตาชาวต่างชาติ จึงเป็นฝ่าย นปช.ที่ได้เปรียบ ยกเว้นคนไทยที่ต่างฝ่ายต่างมองว่าตัวเองถูก นั่นก็คือความมืดได้ครอบงำจิตใจทำให้ตาบอดไปแล้วทั้งสองฝ่าย
- นปช.นัดประชุมที่ สนามกีฬาหัวหมากมาหลายครั้งไม่เคยเกิดเหตุการปะทะกัน การประทะกันดันมาเกิดตอนมีม็อบของฝ่ายขับไล่รัฐบาลจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะบอกว่า ม็อบ นศ.รามไม่ใช่ม็อบจัดตั้งจาก ราชดำเนิน เพื่อมาก่อกวนการชุมนุมของ นปช. และเป็นความต้องการให้เกิดการนองเลือดของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
- นปช.เมื่อได้นัดรวมคนแสดงพลังแล้ว ก็สลายไปได้ทั้งปรามกองทัพ และได้ทั้งของแถมว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องการนองเลือด นับว่าเป็นแผนการที่วางไว้อย่างชาญฉลาด
- หลังจากที่ นปช.ประกาศสลายตัวแล้ว เป็นการส่งต่อให้รัฐบาลรับช่วงต่อในการดูแลความสงบของประเทศ โดยการอดทนให้ถึง วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเมื่อถึงวันที่ 5 ธันวาคม หากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่สลายการชุมนุม ในวันที่ 5 ธันวาคม คงไม่ต้องบอกว่ากระแสจะเป็นอย่างไร เนื่องจากในวีนพ่อแห่งชาติประชาชนไทยทุกคนจะร่วมกันทำดีเพื่อพ่อหลวง แต่การยึดสถานที่ราชการ จัดตั้งม็อบไปชนม็อบเพื่อให้เกิดการนองเลือด ไม่เจรจา ไม่หาทางออกร่วมกัน ถือว่าเป็นการทำดีของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลถวายพ่อหลวงด้วยหรือไม่
- หากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถล้มล้างรัฐบาล แล้วเปลี่ยนการปกครองไม่ได้ ไม่รู้จะมีผลอย่างไรตามมา และหากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ล้มล้างรัฐบาลและเปลี่ยนการปกครองได้ อะไรจะตามมา
สุดท้ายผมมองการเมืองทั้งสองฝ่ายโดยไม่เอาความมืดมาบดบังจิตใจ หากความมืดบดบังจิตใจของตัวเองแล้วเราก็จะมองภาพแต่ด้านเดียวว่าพวกเราถูกเสมอจึงขอเตือนเพื่อนๆ ให้มองทั้งสองฝั่งใช้สติ ในการวิเคราะห์โดยปราศจากสิ่งต่างๆ ที่ครอบงำจิตใจแล้วทุกท่านจะเห็นได้เอง
สันติจงมีแด่ท่าน
วิเคราะห์ผลแพ้ชนะ ของการชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย
- รัฐบาลได้ให้ข่าวอยู่เป็นประจำว่าพร้อมจะเปิดการเจรจา แต่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่เจรจา ทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบโดยในขณะที่ นักวิชาการหลายท่านได้เสนอแนวทางไว้ ว่าสถานการณ์จะสงบได้ก็ด้วยการเจรจาหาข้อตกลง และตั้งกติกา กันเพื่อให้บ้านเมืองสงบแต่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลปฏิเสธโดยตลอด
- การยึดสถานที่ราชการโดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เป็นการกระทำที่ผิดพลาดต่อสายตาคนไทยหลายๆ คนแม้แต่คนในฝ่ายต่อต้านรัฐบาลด้วยกันเอง แม้สถานที่ราชการบางที่แทบจะเปิดประตูให้เข้าไปยึด นั่นคือการตกหลุมพลางของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทำให้ภาพการชุมนุมเสียไป แม้แต่เข้าไปยึด ตึก CAT ซึ่งเป็นศูนย์การสื่อสาร อินเทอร์เน็ต จนกระทั่งเยาวชนยังตั้งกลุ่มด่าทอการกระทำนี้ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง มีผู้สนับสนุน เป็นแสนๆ เสียง ภาพออกมาจึงเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแม้กระทั่งเยาวชนที่ยังไม่รู้เรื่องการเมืองมากนัก และความเสียหายจากผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตประกอบอาชีพอีกมากมาย
- นปช.นัดประชุมใหญ่ก็แค่ปรามกองทัพไม่ให้ปฎิวัติ โดยใช้เวลารวมคนแค่ประมาณ 2 วันได้คนมาขนาดนี้ เป็นสัญญาณว่าพร้อมจะระดมคนสู้หากเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ผลที่ได้เกินคลาด เนื่องจากม็อบจัดตั้งของ นศ.ราม เข้าสกัดไม่ให้ นปช.ไม่ให้เข้าประชุมได้ โดยภาพที่ออกมาเป็นการทำร้าย ผู้หญิงและคนแก่ และจุดเกิดเหตุดันมาเกิดใกล้ที่ตั้งการชุมนุมของ นปช. ภาพที่ออกสู่สายตาชาวต่างชาติ จึงเป็นฝ่าย นปช.ที่ได้เปรียบ ยกเว้นคนไทยที่ต่างฝ่ายต่างมองว่าตัวเองถูก นั่นก็คือความมืดได้ครอบงำจิตใจทำให้ตาบอดไปแล้วทั้งสองฝ่าย
- นปช.นัดประชุมที่ สนามกีฬาหัวหมากมาหลายครั้งไม่เคยเกิดเหตุการปะทะกัน การประทะกันดันมาเกิดตอนมีม็อบของฝ่ายขับไล่รัฐบาลจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะบอกว่า ม็อบ นศ.รามไม่ใช่ม็อบจัดตั้งจาก ราชดำเนิน เพื่อมาก่อกวนการชุมนุมของ นปช. และเป็นความต้องการให้เกิดการนองเลือดของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
- นปช.เมื่อได้นัดรวมคนแสดงพลังแล้ว ก็สลายไปได้ทั้งปรามกองทัพ และได้ทั้งของแถมว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องการนองเลือด นับว่าเป็นแผนการที่วางไว้อย่างชาญฉลาด
- หลังจากที่ นปช.ประกาศสลายตัวแล้ว เป็นการส่งต่อให้รัฐบาลรับช่วงต่อในการดูแลความสงบของประเทศ โดยการอดทนให้ถึง วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเมื่อถึงวันที่ 5 ธันวาคม หากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่สลายการชุมนุม ในวันที่ 5 ธันวาคม คงไม่ต้องบอกว่ากระแสจะเป็นอย่างไร เนื่องจากในวีนพ่อแห่งชาติประชาชนไทยทุกคนจะร่วมกันทำดีเพื่อพ่อหลวง แต่การยึดสถานที่ราชการ จัดตั้งม็อบไปชนม็อบเพื่อให้เกิดการนองเลือด ไม่เจรจา ไม่หาทางออกร่วมกัน ถือว่าเป็นการทำดีของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลถวายพ่อหลวงด้วยหรือไม่
- หากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถล้มล้างรัฐบาล แล้วเปลี่ยนการปกครองไม่ได้ ไม่รู้จะมีผลอย่างไรตามมา และหากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ล้มล้างรัฐบาลและเปลี่ยนการปกครองได้ อะไรจะตามมา
สุดท้ายผมมองการเมืองทั้งสองฝ่ายโดยไม่เอาความมืดมาบดบังจิตใจ หากความมืดบดบังจิตใจของตัวเองแล้วเราก็จะมองภาพแต่ด้านเดียวว่าพวกเราถูกเสมอจึงขอเตือนเพื่อนๆ ให้มองทั้งสองฝั่งใช้สติ ในการวิเคราะห์โดยปราศจากสิ่งต่างๆ ที่ครอบงำจิตใจแล้วทุกท่านจะเห็นได้เอง
สันติจงมีแด่ท่าน